วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ลุยกวาดล้างเครือข่าย‘ตู้ห่าว’ ยึดทรัพย์3พันล้าน  รีสอร์ท-รถหรูที่สมุทรปราการ

ลุยกวาดล้างเครือข่าย‘ตู้ห่าว’ ยึดทรัพย์3พันล้าน รีสอร์ท-รถหรูที่สมุทรปราการ

วันเสาร์ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : ชูวิทย์ ตู้ห่าว รถหรู รีสอร์ท สมุทรปราการ
  •  

ลุยกวาดล้างเครือข่าย‘ตู้ห่าว’

ยึดทรัพย์3พันล้าน

รีสอร์ท-รถหรูที่สมุทรปราการ

‘ชูวิทย์’ยื่นหนังสือร้องอสส.

รับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร

เตรียมแถลงเปิดโปงตม.ไทย

‘บิ๊กโจ๊ก’ย้ำขอให้มั่นใจตำรวจ

รมว.ยุติธรรม แถลงผลปฏิบัติการ “พาลีปราบยา” ลุยยึดทรัพย์รีสอร์ทหรู-รถยนต์ เครือข่าย “ตู้ห่าว”อีก 3,020 ล้านบาท ขณะที่“ชูวิทย์”ร้อง อสส.รับคดี’ตู้ห่าว’เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ให้ อสส.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน หลังพบตำรวจไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน ห่วงคดีหลุด เตรียมเปิดโปง ‘ตม.’ พร้อมปัดนั่งที่ปรึกษาเลขาธิการ ป.ป.ส. ไม่ขอรับเงินส่วนแบ่ง 5% จากการแจ้งเบาะแส ด้าน“บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำคดีตามขั้นตอน ต้องรอบคอบรัดกุม ระดมพนักงานสอบสวนฝีมือดีทั่วประเทศ กว่า 70 นายมาร่วมไขคดี ขอให้มั่นใจการทำงาน ฝ่ายปกครองอำเภอสันทราย-ตำรวจ สภ.แม่โจ้ ลุยตรวจสอบมูลนิธิ 2 แห่งในเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงข่าวยึดทรัพย์สินในคดีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ใช้อำนาจตามกฎหมายยึดทรัพย์ขยายผลมาจากการจับคดีสถานบันเทิงจินหลิง ที่มี นายชัยณัฐร์กรณ์ ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว เป็นเจ้าของ โดยมีว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง รอง ผบ.ปส. นายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้แจ้งเบาะแสยาเสพติด ร่วมแถลงข่าว


ยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า3พันล้าน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลที่นายชูวิทย์ ได้นำมามอบให้ ประกอบกับการทำงานของ คณะทำงานพาลีปราบยา ล่าสุดวันนี้ในช่วงเช้า ชุดพาลีปราบยาได้ยึดอายัด เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง บริษัท ดีวาลักซ์ รีสอร์ทแอนสปา จำกัด ซึ่งมีชื่อของนายตู้ห่าวเป็นผู้ถือหุ้น เปิดเป็นรีสอร์ท ตั้งอยู่ที่ บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ซึ่งแบ่งเป็นโฉนดที่ดิน 5 แปลง รวมประมาณ 39 ไร่ และอาคาร 9 ตึก 375 ห้องแต่ละห้องตกแต่งอย่างหรู และยังได้อายัดรถยนต์หรู 9 คัน อาทิ เบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล จีที โตโยต้า อัลพาร์ท รวมมูลค่าทรัพย์ทั้งสิ้น 3,020 ล้านบาทเศษ ตรงนี้ตนต้องขอขอบคุณ กรมที่ดินและกรมการขนส่งทางบก ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้งานเร็วขึ้น ซึ่งในส่วนนี้เป็นคนละส่วนกับที่ทาง ป.ป.ส. ยึด 1,131 ล้านบาท ที่เราได้แถลงไปเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 65

ขอประชาชนร่วมแจ้งเบาะแส

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การบูรณาการของทุกหน่วยงานราบรื่นดี ไม่มีอะไรที่ติดขัดหรือขัดแย้งกัน ทุกหน่วยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกันสืบสวนสอบสวน ทั้ง ตำรวจ ป.ป.ส. ดีเอสไอ ปปง. และกรมสรรพากร ซึ่งตนอยากให้ประชาชนที่รู้เบาะแสแจ้งข้อมูลเพื่อรับรางวัล 5% และไม่ต้องกังวลเพราะเรามีชุดคุ้มครองพยานของดีเอสไอ แต่หากยังกังวลก็ขอให้รออีกนิด เพราะเราได้จัดทำระบบการแจ้งเบาะแสในระบบออนไลน์หรือ block chain ที่จะรับเงินรางวัลผ่านคริปโต ช่วยปกปิดตัวตนให้ผู้แจ้งปลอดภัย

ข้องใจ ตร.ไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน

ขณะที่นายชูวิทย์ ยืนยันย้ำว่า ส่วนแบ่ง5% ในการแจ้งเบาะแสเครือข่ายยาเสพติดตนเองไม่นำไปใช้และจะนำไปมอบให้โรงพยาบาลทั้งหมด พร้อมตั้งข้อสังเกตการถึงกรณีที่ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหานายตู้ห่าวฐานฟอกเงิน ว่า ที่ไม่แจ้งข้อกล่าวหาการฟอกเงินของพนักงานสอบสวน ทำให้ต้องนำข้อมูลหลักฐานไปยื่นให้อัยการสูงสุดพิจารณา และในอนาคตอาจนำรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พิจารณารับกรณีนี้เป็นคดีพิเศษต่อไป ตนจะจับตาการดำเนินคดีนี้แน่นอน พร้อมยอมรับว่า ตอนนี้ เริ่มไม่เชื่อการทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แล้ว

ยื่นอสส.รับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายชูวิทย์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด (อสส.) ให้รับคดีนายตู้ห่าว สมคบค้ายาเสพติด เป็นคดีนอกราชอาณาจักร อาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อให้ อสส.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ทำสำนวนคดีแทน พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เจ้าของท้องที่บุกจับผับจินหลิง ย่านยานนาวา โดยนายตู้ห่าวโดนดำเนินคดียาเสพติด3ข้อหา คือสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันค้ายาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่ไม่ถูกตำรวจตั้งข้อหาฟอกเงิน ที่จะสามารถยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดให้ตกเป็นของแผ่นดินได้

หวั่นคดีหลุดเหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญ

นายชูวิทย์กล่าวว่าเหตุที่ตนมาร้องให้ อสส. รับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เนื่องจากคดีนี้มีการนำยาเสพติดเข้ามาจากต่างประเทศ มีซองประทับอักษรจีน จึงต้องถือว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร และเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ อัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน หรือจะมอบหมายให้ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เข้าร่วมควบคุมคดีให้สำนวนมีความรัดกุมมากขึ้น ไม่ใช่ให้ตำรวจ สน.ยานนาวา หรือตำราจนครบาล รวมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบทำสำนวน ไม่งั้นอาจเหมือนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญที่ภายหลังศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง และยืนยันว่าจะยื่นหนังสือต่อ อสส.เท่านั้น ไม่ขอยื่นกับทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดที่มารอรับหนังสือ หากไม่ได้พบ อสส.จะไม่ยอมกลับ

ขึ้นลิฟท์หวังพบ อสส.แต่ถูกสกัด

ทั้งนี้ เมื่อให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเสร็จแล้ว นายชูวิทย์ได้ไปนั่งรอที่โซฟาหน้าห้องประชาสัมพันธ์ สำนักงานอัยการสูงสุด สักพักใหญ่แล้ว จึงอ่านหนังสือร้องเรียนให้ผู้สื่อข่าวฟัง พร้อมบอกว่าเข้าใจว่า อสส.มีภารกิจเยอะ แต่ตนขอเวลา อสส.เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น

จากนั้นนายชูวิทย์ได้ย้ายไปนั่งรออยู่ที่หน้าลิฟท์ชั้น 2 เพื่อดักรอพบ อสส.ไม่นาน เมื่อเห็นลิฟท์เปิดนายชูวิทย์จึงรีบเข้าลิฟท์ขึ้นไปพบ อสส.ที่ห้องทำงานชั้น9 แต่ถูกทีมโฆษก อสส.เชิญมาพูดคุยที่ห้องทำงานชั้น 2โดยใช้เวลาพูดคุยพักใหญ่

รอง อสส.ยืนยันดำเนินการโปร่งใส

ต่อมา นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รอง อสส.มาเป็นตัวแทน อสส.รับมอบหนังสือจากนายชูวิทย์ โดย นายอิทธิพร กล่าวว่าจะนำหนังสือเสนอให้ อสส.พิจารณา โดยยืนยันว่า อสส.จะดำเนินการอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา แต่ตอนนี้สำนวนยังมาไม่ถึงจึงไม่เห็นรายละเอียด ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ แต่ตามขั้นตอนถ้าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร พนักงานสอบสวน จะต้องทำทำรายงานแจ้งเป็นหนังสือให้ อสส.พิจารณาทราบแล้ว อสส.อาจจะพิจารณามอบหมายให้ พนักงานสอบสวนทำคดีต่อหรือส่งอัยการไปร่วมสอบสวนด้วยก็ได้

เตรียมแถลงเปิดโปง‘ตม.ไทย’

นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ตนไม่ขอรับตำแหน่งที่ปรึกษาเลขาธิการ ป.ป.ส. แต่จะเดินหน้า ในฐานะพลเมืองดี เป็นภาคประชาชนแทน ตนต้องการให้สังคมเข้มแข็ง ต้องทำงานนี้ให้จบ หากใครคิดว่าจะรอด ข้ามศพตนไปก่อน ทั้งนี้ ไม่ใช่ ไม่ไว้ใจตำรวจ หรือ บิ๊กโจ๊ก แต่ที่ตำรวจไปปล่อยรถของกลาง ไม่ออกหมายจับ จนตนต้องไปกระทรวงยุติธรรม ถึงออกหมายจับ ดังนั้น อย่าคิดว่า ตนรู้ไม่ทันลูกเล่น งานนี้ คมเฉือนคม บาดคมหัวใจ และในเร็วๆ นี้ตนจะเตรียมแถลงเปิดโปงการทำงานของ ตม.ไทย ที่มีเอี่ยวช่วยเหลือทุนจีนสีเทาด้วย

‘บิ๊กโจ๊ก’ขอให้มั่นใจการทำงานของตร.

ทางด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ ว่า เป็นเพราะนายชูวิทย์ เป็นห่วงหลังได้นำข้อมูลหลักฐานต่างๆ มาให้ และกลัวตำรวจทำสำนวนไม่แน่น หากสรุปสำนวนแล้วอัยการหรือศาลยกฟ้องได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น เพราะนายชูวิทย์ เข้าใจว่า สน.ยานนาวา ทำคดี สน.เดียวไม่มีความชำนาญ ตนยืนยันว่าคดีนี้เป็นคดีใหญ่ และพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้แต่งตั้งเป็นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งมีทั้งตนเองและตำรวจนครบาล มีการระดมพนักงานสอบสวนฝีมือดีจากทั่วประเทศ รวมถึงมีอธิบดีอัยการคดียาเสพติด ป.ป.ส. และปปง. มาร่วมทำงานด้วย จึงขอให้นายชูวิทย์ มั่นใจว่าตำรวจทำคดีนี้อย่างรอบคอบรัดกุม และหากคดีนี้ตนทำไม่ดีคนที่เสียหายนอกจากตนเองแล้ว ประชาชนก็จะไม่ศรัทธาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องนี้ขออย่ากังวลใจ

ยันดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินแน่นอน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนของคดีมูลฐานฟอกเงิน ที่นายชูวิทย์ เป็นห่วงนั้น ย้ำว่าจะต้องมีการดำเนินคดีข้อหานี้อยู่แล้ว แต่มีกระบวนการขั้นตอน โดยเฉพาะการยึดทรัพย์ ตำรวจต้องทำบัญชีส่ง ป.ป.ส.และ ปปง. จากนั้นต้องนำเข้าคณะกรรมการธุรกรรมในการยึดอายัดทรัพย์ ก่อนที่จะเข้าสู่การดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินได้ ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า นายชูวิทย์ เป็นประชาชนที่แจ้งเบาะแสได้ดี เพราะข้อมูลเบาะแสหลายๆ อย่างตรงกันกับที่ตำรวจมี ขอย้ำว่าตอนนี้ตำรวจยังเป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนอยู่ แต่หากมีการสืบสวนพบว่ามีการโอนเงินไปต่างประเทศจะเข้าความผิดนอกราชอาชณาจักร อัยการสูงสุดถึงจะเป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน

“สิ่งที่นายชูวิทย์ พูดอาจจะเป็นการพูดล่วงหน้าไป แต่ย้ำว่าหลักฐานเดินไปถึงตรงไหนจะต้องดำเนินการตามนั้น แต่ว่าตอนนี้ยังอยู่ในกรอบระยะเวลา และสัดส่วนที่เราทำอย่างรัดกุมอยู่แล้ว ตลอดจนต้องเร่งรัด เพราะพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวนมากกว่า 60-70 คน ที่มาทำคดีนี้มีจำนวนมาก และต้องไปทำคดีอื่น ไม่อย่างนั้นก็จะทำให้คดีอื่นล่าช้าไปด้วย” รอง ผบ.ตร. กล่าว

ลุยตรวจ2มูลนิธิหลัง‘ชูวิทย์’ชี้เป้า

วันเดียวกัน นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ ตำรวจ สภ.แม่โจ้ เข้าตรวจสอบ มูลนิธิกรีนคลีนเอิร์ธ เลขที่ 171 หมู่ที่ 7 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และมูลนิธิปรานต์ฮั่นอวี่ เลขที่ 196/2หมู่ที่ 5 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังนายชูวิทย์ แฉว่ามีมูลนิธิหลายแห่ง ที่ตั้งอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรธานี ที่เชื่อได้ว่า อาจจะมีส่วนรู้เห็น เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนจีนสีเทา

พบทำธุรกิจขายหินแกรนิต

นายบุญญฤทธิ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบตามที่อยู่ ของมูลนิธิทั้ง 2 แห่งพบว่า ไม่ปรากฏการดำเนินการในรูปแบบมูลนิธิ ตามที่จดทะเบียนไว้ พบเป็นเพียง การดำเนินธุรกิจ ขายหินแกรนิต โดยที่ตั้งมูลนิธิปรานต์ฮั่นอวี่ เป็นร้านขายหินแกรนิต และที่ตั้งของมูลนิธิกรีนคลีนเอิร์ธ เป็นโรงงานตัดหินแกรนิต จากการตรวจสอบ ผู้ที่ยื่นขอจดจัดตั้งมูลนิธิทั้ง 2 แห่ง เป็นบุคคลเดียวกัน และคณะกรรมการบริหารมูลนิธิของทั้ง 2 แห่งยังเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันทั้งหมด

จากการตรวจสอบทั้ง 2 จุด ไม่พบการดำเนินการในรูปแบบมูลนิธิ และกลุ่มบุคคลจีน พบเพียงพนักงาน ตัดหินแกรนิต ที่ยืนยันว่าที่แห่งนี้ ไม่มีการจัดตั้งมูลนิธิ แต่เป็นโรงงานตัดหินเท่านั้น ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียง ก็ยืนยันว่าไม่พบมีการนำชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีน เข้ามาในพื้นที่

ล่าสุดได้เก็บข้อมูลจากผู้อยู่อาศัยใกล้เคียงและประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของมูลนิธิ จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด นำเสนอให้นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดเชียงใหม่ พิจารณาดำเนินการต่อไป และ หากพบเรื่องที่อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคง จะยื่นเรื่องถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการต่อไปได้ทันที

เปิดข้อมูลเกี่ยวกับ2มูลนิธิ

มีรายงานว่า สำหรับ มูลนิธิปรานต์ฮั่นอวี่ นั้น น.ส.ธีรดา ปงปัญญายืน ยื่นขอตั้ง ต่อนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดเชียงใหม่ และได้รับอนุญาตตั้งแต่ 13 ส.ค.2562 สํานักงานใหญ่ตั้งอยู่ หมู่ที่ 5 ต.หนองหาร อ.สันทราย พร้อมทั้งมีสำนักงานสาขามูลนิธิ อยู่ที่ จ.ขอนแก่น,ร้อยเอ็ด,กาฬสินธุ์,หนองบัวลำภู และมหาสารคาม มีคณะกรรมการดําเนินงาน ประกอบด้วย 1.น.ส.ธีรดา ปงปัญญายืน ประธานกรรมการ, 2.นายรัชกร ปิยะสัจจบูลย์ รองประธานกรรมการ และ 3.นางสโรชา แดงโชติ เลขานุการและเหรัญญิก

ต่อมา ยื่นขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม เพิ่มสำนักงานสาขาขึ้นอีก 2 แห่ง ได้แก่ ที่ จ.เชียงใหม่ และที่ จ.ราชสีมา เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 63 จากนั้นในปี 2564 ได้มีการยื่นขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้ง เปลี่ยนชื่อมูลนิธิเป็น “มูลนิธิรักภาษา”

ขณะที่ มูลนิธิกรีนคลีนเอิร์ธ นั้นมี น.ส.ธีรดา ปงปัญญายืน กับคณะได้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัด ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.2563 มี สํานักงานใหญ่ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย มีสำนักงานสาขามูลนิธิอีก 2 แห่ง อยู่ที่ จ.ชัยภูมิ และ จ.อำนาจเจริญ

มีคณะกรรมการดําเนินงาน ประกอบด้วย 1.น.ส.ธีรดา ปงปัญญายืน ประธานกรรมการ ,2.นายรัชกร ปิยะสัจจบูลย์ รองประธานกรรมการ และ 3.นางสโรชา แดงโชติ เลขานุการและเหรัญญิก ต่อมายื่นขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2564 เปลี่ยนที่ตั้งสำนักงานใหญ่

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ธีรดา ปงปัญญายืน ประธานกรรมการมูลนิธิและเป็นผู้ยื่นขอจดจัดตั้งมูลนิธินั้น เป็นนักธุรกิจและกรรมการบริษัทหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ทำธุรกิจหลายอย่าง เช่น ให้คำปรึกษากฎหมาย, ความงามและสุขภาพ ขณะที่ นายรัชกร ปิยะสัจจบูลย์ รองประธานกรรมการนิธิ นั้น ปัจจุบันเป็นรองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นนักธุรกิจเจ้าของธุรกิจจำหน่ายและรับติดตั้งหินแกรนิต ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกันกับสำนักงานของมูลนิธิทั้ง 2 แห่ง ส่วนนางสโรชา แดงโชติ เลขานุการและเหรัญญิก นั้น เป็นนักธุรกิจและเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 62

‘วัชระ-สารวัตรแรมโบ้’จี้ล้างทุนจีน

ที่กระทรวงมหาดไทย นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือ “สารวัตรแรมโบ้” ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย ยื่นหนังสือผ่าน นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งไปถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท.และนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เพื่อขอให้แก้ระเบียบการแปลงสัญชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทา โดยขอให้เร่งดำเนินการ 1.จัดตั้งชุดฝ่ายกฎหมายการแปลงสัญชาติให้รัดกุม และ 2.ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเปิดยุทธการรุกเข้าตรวจค้นและจับกุมทันที โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกทม.ที่มีคนจีนเข้ามาซื้อกิจการไว้ และแหล่งชุมชนที่มีคนจีนเช่าจำนวนมาก รวมทั้งตั้งศูนย์รับแจ้งจากประชาชนทั่วประเทศ กรณีที่มีคนเสียชีวิตแล้วต้องตรวจสอบว่ามีการแจ้งต่อทางราชการอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีการนำเอาคนจีนมาสวมสิทธิแทนโดยใช้เลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต

พร้อมกันนี้ ขอให้พิจารณาตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามตรวจค้นในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดภายใน 30 วัน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เลี่ยงภาษี 44 ล้าน! \'DSI\'จับ กก.บริษัทนำเข้ารถหรู 4 คัน เลี่ยงภาษี 44 ล้าน! 'DSI'จับ กก.บริษัทนำเข้ารถหรู 4 คัน
  • ล่าแม่ใจยักษ์! ชายต่างด้าวเล่าเห็นกับตา \'ตัวเงินตัวทอง\'ลากซากทารกมากิน ล่าแม่ใจยักษ์! ชายต่างด้าวเล่าเห็นกับตา 'ตัวเงินตัวทอง'ลากซากทารกมากิน
  • หญิงสาวชาร์จแบตมือถือที่โรงพัก โดนไฟดูดชักเกร็ง ร่วงตกเก้าอี้ หญิงสาวชาร์จแบตมือถือที่โรงพัก โดนไฟดูดชักเกร็ง ร่วงตกเก้าอี้
  • \'ซาเล้ง\'ขึ้นสะพานภูมิพล! รถดับจอดข้างทาง ถูกพ่วง22ล้อเสยดับสลด 'ซาเล้ง'ขึ้นสะพานภูมิพล! รถดับจอดข้างทาง ถูกพ่วง22ล้อเสยดับสลด
  • ‘ทิดสึกใหม่’ ควบปาเจโร่กลับจากส่งแฟนสาว-ข้ามเลนเสยจยย.หนุ่มร้านสะดวกซื้อดับ ‘ทิดสึกใหม่’ ควบปาเจโร่กลับจากส่งแฟนสาว-ข้ามเลนเสยจยย.หนุ่มร้านสะดวกซื้อดับ
  • ‘สาวเดินสอยไข่มดแดง’ ข้างโกดังร้าง-ผงะเจอร่างขึ้นอืดคาห้องน้ำ-วิ่งโร่แจ้งตำรวจ ‘สาวเดินสอยไข่มดแดง’ ข้างโกดังร้าง-ผงะเจอร่างขึ้นอืดคาห้องน้ำ-วิ่งโร่แจ้งตำรวจ
  •  

Breaking News

นายกฯปราศรัย'สร้างพลังไทย หยุดภัยยาเสพติด' ย้ำรัฐบาลเร่งปราบปราม-ฟื้นฟูผู้เสพ-ปิดล้อมชายแดน

‘จุลพันธ์’ยันร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯแค่เลื่อน ไม่เป็นหมัน โว‘เสียงรัฐบาล’มากพอ

‘ทรัมป์’ดันแผนลดภาษีชุดใหญ่ ชี้อเมริกันสูงวัยได้ประโยชน์แต่ผลักภาระให้คนรุ่นใหม่อื้อ

ชวนกระตุ้นเศรษฐกิจ'มหกรรมผลิตภัณฑ์อาชีวศึกษาฯ' ถึง 29 มิ.ย.นี้ ที่ลานคนเมือง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved