ศาล"ยกฟ้อง" แพะคดีค้ายาอี เมื่อปี 62 พยานหลักฐานโจทก์ อ่อน ให้การไม่ตรงกัน อดีต"แพะ"โอด สูญเสียทุกอย่าง หน้าที่การงาน สุขภาพย่ำแย่ ตอนแรก คิดจะฟ้องกลับ ตร.ชุดจับกุม แต่มาฉุกคิดได้ เตือนสติ ขอให้ตร.มีความรัดกุม รอบคอบกว่านี้
วันที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี จับแพะยาเสพติด ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติดเป็นโจทก์ฟ้องนาย ณัฏฐนันท์ หรือเอก รัตนพรรณ เป็นจำเลยในความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาอี) ๆไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเข้าจับจำเลยผิดตัว คดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายเกรียงไกรกล่าวว่า สำหรับคดีนี้ที่ผ่านมาทางเราได้นำพยานหลักฐานต่าง ๆ มาแสดงความบริสุทธิ์ต่อศาลแล้ว และไม่คาดหวังอะไรมากนัก ขึ้นอยู่ที่ดุลพิจของศาล
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีสายลับที่เข้าล่อซื้อยาเสพติดของกลางคดีนี้เบิกความยืนยัน ว่าเคยเจอนายโอ ตัวจริงที่เคยล่อซื้อมาแล้ว ซึ่งสายลับก็ยืนยันว่า จำเลยเป็นคนละคนกับนายโอ สอดคล้องกับที่เคยชี้ตัวในชั้นสอบสวนก่อนหน้านี้พยานหลักฐานโจทก์ ยังมีพิรุธ เบิกความขัดแย้งกัน ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ จึงต้องยกเหตุแห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษาฟ้อง
ภายหลังนายเกรียงไกร นาควะรี ทนายความ ได้พานายณัฏฐนันท์ แพะในคดีนี้ออกจากศาล ด้วยสีหน้าโล่งใจ โดยระบุว่า ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากคำให้การของตำรวจชุดสืบสวนต่างให้การขัดแย้งกันเอง และให้การไม่ตรงกันทั้งในชั้นสอบสวนและในชั้นศาล
ด้าน นายณัฏฐนันท์ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีเศษ เป็นตัวเลขแห่งความเจ็บปวดที่ทับถมอยู่ใจใน สิ่งที่เกิดขึ้นกระทบต่อการงาน ทำให้คนรอบข้างเข้าใจว่าตนกระทำความผิด จนต้องลาออกจากงาน กระทบต่อสุขภาพของตนเองที่เป็นโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบ เวลาเครียดก็จะเจ็บปวดร่างกาย ต้องสูญเสียเงินมาสู้คดี และยังกระทบจิตใจของคนในครอบครัว แต่เมื่อศาลพิพากษาให้ความเป็นธรรม ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก ในตอนแรกที่เกิดเหตุ ก็เคยคิดที่จะฟ้องกลับตำรวจที่สืบสวน จับกุมไม่รัดกุมและจับตนเองเป็นแพะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตนเองก็รู้สึกมีสติมากขึ้น และเปลี่ยนความคิดใหม่ อาจจะเดินหน้ากลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติ ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่อยากกลับไปพูดถึงอดีต ส่วนหลังจากนี้หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่ตนเองก็จะใช้ความจริงในการต่อสู้คดี ส่วนตำรวจก็ขอให้ทำคดีให้รัดกุมและชัดเจน ก่อนที่จะแจ้งข้อหาร้ายแรงเช่นนี้กับบุคคลใดก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้นายณัฏฐนันท์ถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดเข้าจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2562 ตำรวจอ้างว่าเป็นการขยายผลจับกุมมาจากการที่สายลับล่อซื้อไอซ์กับพ่อค้ายาเสพติดชื่อ "นายโอ" จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกไอซ์ หนัก 174 กรัม นัดรับย่านถ.เพชรเกษม ครั้งที่ 2 ไอซ์ หนัก 189.77 กรัม นัดรับย่านหนองแขม แต่ทั้ง 2 ครั้งนายโอได้โยนยาเสพติดทิ้งไว้ที่จุดนัดรับ เจ้าหน้าที่จึงไม่พบตัวนายโอ ยึดยาเสพติดเป็นของกลาง ก่อนขยายผลจากทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุของนายโอใช้ ซึ่งตรงกับทะเบียนรถของนายณัฏฐนันท์ แม้จะเป็นคนละรุ่น แต่เป็นยี่ห้อเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่านายณัฏฐนันท์คือนายโอ ซึ่งนายณัฏฐนันท์ ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ว่า ตนเองไม่ใช่นายโอ และสายลับก็เคยมาชี้ตัวนายณัฏฐนันท์และยืนยันแล้วว่าไม่ใช่นายโอ แต่ตำรวจและพนักงานอัยการก็ยังยื่นฟ้องนายณัฏฐนันท์ต่อศาล.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี