ตำรวจ สภ.นางรอง บุรีรัมย์ เตรียมประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำนักเรียนหญิง ม.2 ถูกรุ่นพี่ ม.6 มอมกัญชาบังคับขืนใจ พร้อมส่งตรวจที่ รพ.เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานก่อนออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน ด้านพ่อนักเรียนชายเผยไม่เคยรู้จักนายตำรวจใหญ่ตามที่พ่อผู้เสียหายกล่าวอ้าง หากลูกผิดจริงก็พร้อมเข้าสู่กระบวนยุติธรรมตามกฎหมาย
ความคืบหน้ากรณีที่นายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 51 ปีชาวตำบลถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมกรณีลูกสาวซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.2 ในอำเภอนางรอง ได้ถูกนักเรียนชายรุ่นพี่ชั้น ม.6 โรงเรียนเดียวกันมอมกัญชาด้วยการสูบแล้วพ่นควันใส่หน้าหลายครั้งจนเบลอก่อนจะบังคับขืนใจลูกสาวท่ามกลางเพื่อนของฝ่ายชายที่นั่งมั่วสุมสูบบุหรี่และกัญชาในกระท่อมเกือบ 10 คนเหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 21 ธ.ค.65 ที่ผ่านมาที่กระท่อมนาของฝ่ายชาย
เบื้องต้นทางครอบครัวได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้โอกาสครอบครัวฝ่ายชายได้พูดคุยไกล่เกลี่ย เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เนื่องจากทั้งสองก็ยังเป็นเยาวชนและเรียนหนังสืออยู่โดยครอบครัวฝ่ายชายรับปากว่าจะรับผิดชอบด้วยการมาพูดคุยหมั้นหมายกันไว้ก่อน โดยจะจ่ายเงินมัดจำไว้ก่อน 50,000 บาทในวันที่ 1 ม.ค.66 ส่วนอีก 2 แสนบาทอีก 1 ปีจะจ่ายให้ จากนั้นเมื่อทั้งสองคนเรียนจบค่อยมาพูดคุยกันอีกที แต่พอถึงวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางครอบครัวฝ่ายชายกลับเงียบหายไม่ติดต่อพูดคุยอะไรเลยจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ที่ออกมาร้องเรียนเพราะกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะครอบครัวของคู่กรณีรู้จักกับนายตำรวจใหญ่ในพื้นที่
ล่าสุดวันนี้ (4 ม.ค.66) พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เตรียมประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำนักเรียนหญิงผู้เสียหาย เนื่องจากยังเป็นเยาวชน พร้อมทั้งส่งตรวจที่ รพ.หาร่องรอยการกระทำชำเรา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี หลังจากนั้นก็จะเรียกนักเรียนชายมาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน ยืนยันว่าทางตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนและไม่ได้ล่าช้า เพราะผู้เสียหายเพิ่งมาแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 2 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ส่วนที่ผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายไปพูดคุยไกล่เกลี่ยตกลงกันนั้นก็เป็นเรื่องของทั้ง 2 ฝ่ายตำรวจไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้แล้วผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ทางพนักงานสอบสวน ก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการ
ด้านนายแดง (นามสมมติ) อายุ 51 ปี พ่อนายเอ็ม นักเรียนชายที่ถูกแจ้งความกล่าวหา ก็ออกมาชี้แจงว่าตนไม่เคยพูดว่ารู้จักนายตำรวจใหญ่ตามที่พ่อของผู้เสียหายกล่าวอ้างเลย ตนเป็นเพียงพ่อค้าขายเสื้อผ้ามือสองเท่านั้น ไม่ได้มีเส้นมีสายหรือรู้จักใคร และหากลูกชายของตนเองทำผิดจริงก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ตนก็ไม่ได้เข้าข้างลูกอยู่แล้วหากทำผิด แต่ยอมรับว่าทั้งสองคนได้คบหากันจริงซึ่งผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ แต่เมื่อเกิดเรื่องเกินเลยขึ้น
"ก็ยอมรับว่ามีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน แต่พ่อของผู้เสียหายเรียกค่าสินสอดถึง 300,000 บาทและจะเอาทันทีเลย 50,000 บาท ซึ่งผมก็ไม่ได้มีเงินขนาดนั้นเพราะตั้งแต่เจอโควิดก็ขายของลำบาก ก็ต่อรองให้เขาลดให้บ้างแต่เขาก็ยืนกรานจะเอาอย่างเดียว ผมก็ไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาให้เดี๋ยวนั้น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รับผิดชอบแต่ถ้าจะเอาทันทีเลยแล้วเรียกถึง 3 แสนก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน แล้วอีกอย่างเขาบังคับไม่ให้ลูกชายผมเองเรียนต่อแล้วพอลูกสาวเขาเรียนจบก็ให้แต่งกันเลย แต่ลูกชายผมยังอยากจะเรียนต่อผมก็สงสารลูก ส่วนเรื่องกัญชาผมถามลูกชายแล้วเขาบอกว่าเขาไม่ได้สูบ แต่เพื่อนที่ไปด้วยจะสูบหรือไม่ก็ไม่ทราบ ถ้าสุดท้ายแล้วพูดคุยกันไม่ได้ตนก็คงจะปล่อยไปตามกระบวนการ" นายแดง กล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี