‘กรมสรรพากร’ลุยสอบเสียภาษี
‘กองสลากพลัส’อ่วม
พบยังค้างอยู่อีกกว่า300ล้านบาท
อธิบดีDSIพบเงินหลายสิบล้าน
ไหลเข้าบัญชีผู้บริหารโดยตรง
รอฟังคำให้การ/เอกสาร13ม.ค.
ทนายความ‘นอท’โร่พบดีเอสไอ
กรมสรรพากร เดินหน้าตรวจสอบการเสียภาษี“กองสลากพลัส” เชิญชี้แจงกลางมกราคมนี้ ยอมรับกว้านซื้อสลาก ขายผ่านออนไลน์ สาเหตุหลัก สลากเกินราคา พบภาษีที่ค้างในปี 2564 ยังขาดอีกกว่า300 ล้านบาท ด้านทนายความ “นอท กองสลากพลัส” เข้าพบดีเอสไอ ขอข้อมูลเตรียมตัวสำหรับการให้ปากคำ ในฐานะพยาน
ตามกำหนดการในหมายเรียกระบุวันที่ 13 มกราคมขณะที่ “อธิบดี DSI” ยืนยันเงินหลายสิบล้านจากขบวนการฟอกเงินไหลเข้าบัญชี “ผู้บริหารกองสลากพลัส” โดยตรง ระบุ “นอท” ยังคงบริสุทธิ์ รอให้การ-ยื่นเอกสาร 13 มกราคมนี้ แย้มจ่อเรียกลอตเตอรี่ออนไลน์อีกหลายเจ้า ขอเวลาเช็คเส้นทางการเงิน
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า หลังจากสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น กรมสรรพากร จึงตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ติดตามการซื้อขายผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ เพื่อประเมินและตรวจสอบการชำระภาษีของผู้ประกอบการทุกราย ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะ กรณีของ “กองสลากพลัส” แต่ยอมรับว่า การทำธุรกิจขายลอตเตอรี่ออนไลน์ หลังจากนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ผู้บริหารบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด ได้ชี้แจงงผ่านสื่อมานั้น เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบดูว่า มีการคำนวณภาษี ผิดพลาดอย่างไรบ้าง สรรพากร จึงนัดผู้บริหาร “กองสลากพลัส” มาชี้แจง 16-20 ม.ค.นี้
“ยอมรับว่า ธุรกิจขายลอตเตอรี่ออนไลน์ ของ “กองสลากพลัส” เติบโตรวดเร็วมาก ตามข่าวที่เผยแพร่ออกมาตามสื่อ กองสลากพลัส ระบุว่า ในปี 2565 ต้องจ่ายภาษีประมาณ 100 ล้านบาท เมื่อแจ้งว่าได้มีการขายสลากงวดละ 13 ล้านใบ ขายราคาใบละ 105 บาทบนออนไลน์ แต่ละงวดกองสลากพลัส จะมีเงินรายได้ 1,470 ล้านบาทต่องวด รวมทั้งปี มีรายได้จากการขายสลากสูงถึง 32,760 ล้านบาท (ผลออกรางวัลเดือนละ 2 งวด รวม 24 ครั้ง) จึงต้องว่า มีการคำนวณชำระภาษีผิดพลาดหรือไม่ เพื่อพิจารณาตัวเลขให้ตรงกัน” นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า “กองสลากพลัส” ได้กว้านซื้อสลาก จากตลาดหลายแหล่ง เช่น ตลาดสนามบินน้ำ ตลาดวังสะพุง สี่แยกคอกวัว โดยเฉพาะตัวแทนค้ารายย่อย ในราคาใบละ 98 บาท เพื่อนำมาขายผ่านออนไลน์ราคา 105 บาท จึงจูงใจให้ตัวแทนผู้ค้าราย่อย ขายให้ทั้ง 5 เล่ม เพื่อไม่ต้องเดินเร่ขาย ยอมรับว่าแนวทางดังกล่าว เป็นสาเหตุหลักหนึ่ง ในการขายสลากเกินราคา และอาจมีปัญหาสลากทิพย์ โดยยอมจ่ายเงินรางวัลให้ผู้ถือรางวัลตามหน้าสลากฯ
โดยเจตนาของสำนักงานสลากฯต้องการให้ตัวแทนขายตรงกับประชาชนทั่วไปโดยตรง สำนักงานสลากฯ จึงต้องการให้นักเสี่ยงโชค หันมาซื้อสลากดิจิทัลผ่าน “แอปเป๋าตัง” ในราคา 80 บาท เป็นสลากของตัวแทนผู้ค้ารายย่อย 35,000 คน มีสลากดิจิทัลในระบบถึง 17 ล้านใบ ซึ่งไม่ใช่สลากของสำนักงานสลากฯ แต่เป็นสลากของรายย่อยที่เป็นตัวแทน ร่วมโครงการสลากดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตัง นอกจากนี้ยังมีแผงสลาก 80 บาท ของรายย่อยที่ร่วมโครงการ กระจายไปทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ทนายความของ นายพันธ์ธวัช เตรียมเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ณ ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ชั้น8) เพื่อขอข้อมูลเตรียมตัวสำหรับการให้ปากคำในฐานะพยานของผู้บริหารกิจการ “กองสลากพลัส” ตามกำหนดการในหมายเรียกระบุวันที่ 13 ม.ค.66 อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ นายพันธ์ธวัช ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วย มีเพียงทนายความเท่านั้น
ทั้งนี้ การเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของทนายความ “นอท กองสลากพลัส” ที่จะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ สืบเนื่องมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ออกหมายเรียกผู้บริหาร “กองสลากพลัส” เข้าให้ปากคำ เพราะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์คดียาเสพติด ได้ขยายผลเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้กระทำความผิดเกี่ยวยาเสพติดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ จนสามารถจับกุมกลุ่มขบวนการฟอกเงินรายสำคัญ 2 ราย และพบว่ามีการเบิกถอนเงินสด นำไปเข้าบัญชีให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย โดยปรากฏหลักฐานว่า หนึ่งในผู้รับเงินจำนวนหลายสิบล้านบาทจากกลุ่มขบวนการนี้ คือผู้บริหารกิจการ “กองสลากพลัส” จึงเป็นเหตุให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยศูนย์คดียาเสพติด ดำเนินการออกหมายเรียกนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส เข้าชี้แจงการรับเงินดังกล่าวในฐานะพยาน
เมื่อเวลา 12.50 น.วันที่ 6 มกราคม 2566 ที่ศูนย์คดียาเสพติด ศูนย์ราชการ อาคารเอ ชั้น 2 ถ.แจ้งวัฒนะ กทม.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัว (ทนายเล้ง) เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับหมายเรียก ภายหลังจากที่ดีเอสไอ ได้ออกหมายเรียกให้เข้าพบวันที่ 13 ม.ค.นี้ เนื่องมาจากพบว่ามีกลุ่มขบวนการฟอกเงินรายสำคัญที่ได้จับกุมไปก่อนหน้านี้ มีการเบิกถอนเงินสดและนำไปเข้าบัญชีให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย โดยปรากฏหลักฐานว่า หนึ่งในผู้รับเงินจำนวนหลายสิบล้านบาทจากกลุ่มขบวนการนี้ คือ ผู้บริหารกิจการกองสลากพลัส ทั้งนี้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็ได้เดินทางมาพบและพูดคุยกับทนายความด้วยเช่นกัน
โดย นายไตรยฤทธิ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบทนายความของนายพันธ์ธวัช ว่า เบื้องต้นในวันนี้ทนายความของ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส เข้ามารับทราบข้อมูล ประเด็นกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้เขาได้รับความเป็นธรรม สามารถกลับไปเตรียมตัวเตรียมเอกสารเพื่อรอเข้าให้การในฐานะพยานในวันที่ 13 ม.ค.นี้ได้ และเบื้องต้นดีเอสไอมีข้อมูลพยานหลักฐานในการออกหมายเรียก เพราะจากการขยายผลเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.65 พบว่าหนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญในขบวนการฟอกเงิน ซึ่งเกี่ยวกับยาเสพติด การพนันออนไลน์ที่ดีเอสไอได้จับกุมไปในข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” จากความผิดมูลฐานการพนันออนไลน์ มีการโอนเงินหลายสิบล้านบาทเข้าบัญชีธนาคารของนายพันธ์ธวัชโดยตรง ซึ่งเป็นเงินสีเทา อย่างไรก็ตาม ขบวนการดังกล่าวมิได้โอนเงินเข้าบัญชีนายพันธ์ธวัชอย่างเดียว แต่มีการโอนเงินเข้าธุรกิจอื่นๆ ด้วย
นายไตรยฤทธิ์ เผยอีกว่า การออกหมายเรียกในสถานะพยานนั้น นอกเหนือจากนายพันธ์ธวัชแล้ว ยังมีกลุ่มบุคคลอีก 7 ราย ที่ต้องเข้าให้การในสถานะพยานเช่นเดียวกัน แต่บุคคลเหล่านี้มิได้อยู่ในธุรกิจกองสลากพลัส เพื่อสอบถามถึงความเชื่อมโยงกับนายพันธ์ธวัช แต่ก็ต้องรอสอบปากคำพูดคุยก่อน เพื่อให้ได้รายละเอียดว่าทั้ง 7 รายนี้รู้จักกันอย่างไร เกี่ยวข้องกับขบวน การฟอกเงินหรือไม่อย่างไร
นายไตรยฤทธิ์ ยืนยันว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษมีหลักฐานชัดเจน เพราะขยายผลทราบตั้งแต่ก่อนเทศกาลปีใหม่ แต่ด้วยขณะนั้นทางเราต้องรอผลบางอย่าง รอเส้นทางการเงินจากทางธนาคารด้วย พอมีหลักฐานตรงนี้ปรากฏจึงอยากให้นายพันธ์ธวัชได้เข้ามาชี้แจงถึงการรับเงินดังกล่าว เพื่อให้เขาได้รับความเป็นธรรม ซึ่งในวันที่ 13 ม.ค.66 นี้ เป็นการเรียกมาในฐานะพยานก่อน ถ้านายพันธ์ธวัชให้ถ้อยคำเสร็จสิ้นและชี้แจงหลักฐานเอกสารแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดก็มีโอกาสที่จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ เป็นไปตามขั้นตอนของพนักงานสอบสวน แต่ปัจจุบันเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
นายไตรยฤทธิ์ เผยต่อว่า กรณีที่นายพันธ์ธวัชได้ระบุว่ามีการไปกู้เงินจากบุคคลใดก็ตาม ทางดีเอสไอก็จะต้องเรียกบุคคลนั้นๆ มาสอบปากคำด้วยและหากบุคคลนั้นๆ ได้รับเงินมาจากใคร ก็จะต้องเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ มาสอบปากคำด้วยเช่นเดียวกัน ต้องสอบให้หมด และต้องชี้แจงให้ได้ว่าทำไมจึงนำเงินมาให้กองสลากพลัส
เมื่อถามว่า จะมีการออกหมายเรียกสลากกินแบ่งออนไลน์เจ้าอื่นๆ ด้วยหรือไม่ นายไตรยฤทธิ์ ระบุว่า จะมีเจ้าอื่นๆ ตามมาแน่นอน แต่ยังไม่สามารถบอกจำนวนได้ ต้องรอตรวจสอบจากเส้นทางการเงินจากธนาคารด้วย
ต่อมาเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทนายความของนายพันธ์ธวัชได้ออกมาจากห้องศูนย์คดียาเสพติด โดยเมื่อผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่า ในส่วนของเอกสารได้มีการเตรียมความพร้อมหรือยัง รวมทั้งได้แจ้งคุณนอทหรือยังว่าวันที่ 13 ม.ค.นี้ จะต้องเข้ามาพบดีเอสไอนั้น ทางทนายความระบุสั้นๆว่าต้องรอหมายเรียก เพราะยังไม่ได้ตอบรับ ต้องมีหมายเรียก พร้อมยังปฏิเสธขออนุญาตสื่อมวลชน ไม่สะดวกให้บันทึกภาพ
ทั้งนี้ นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด กล่าวว่าหมายเรียกในสถานะพยานของนายพันธ์ธวัช ตนได้ออกไปตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการส่งไปรษณีย์ EMS และคาดว่านายพันธ์ธวัชน่าจะได้รับแล้ว ทำให้ทนายความได้เดินทางเข้ามาในวันนี้ นอกจากนี้ ทนายความยังได้มีการคัดสำเนาหมายเรียกไปเรียบร้อยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี