วันที่ 9 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณี ตำรวจท่องเที่ยว สถานีตำรวจท่องเที่ยว 5 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 จ.อุดรธานี มีฝรั่งชาวอเมริกันที่มาวิ่งออกกำลังในตอนเช้าๆ ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ได้โทรไปที่สายด่วน 1155 ตำรวจท่องเที่ยว ว่าพบกระเป๋าทิ้งบริเวณหน้าห้องน้ำในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี และยังมีรอยเลือดกระจายอยู่เต็มพื้น ตำรวจท่องเที่ยวและตร.สายตรวจ 191 สภ.เมืองอุดรธานีจึงเข้ามาตรวจสอบ พบว่าบริเวณลานดินที่นั่งเล่นของสวนสาธารณะหนองประจักษ์ใกล้สะพานปลา ใต้ร่มต้นปาล์มมีกระเป๋าคาดเอวสีดำตกอยู่ ใกล้ๆ กันห่างกันไม่เพียง 2 เมตรมีเครื่องประดับสร้อยไข่มุกตกอยู่สภาพขาดกระจาย และมีรอยเลือดกระจายเต็มพื้น และมีพลาสเตอร์ติดแผล ซองขนมตกอยู่ใกล้ๆ กันและมีมีดปลอกผลไม้ตกอยู่ที่เกิดเหตุด้วย ตร.ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าน่าจะมีการชิงทัพย์
ต่อมาตำรวจได้โทรศัพท์ไปสอบถามไปยังนางพิศมัย ไหมสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านบ้านพรสวรรค์ หมู่ 14 ต.หนองนาคำ บอกว่า ที่ตำรวจพบรอยเลือดและกระเป๋าคาดว่าจะเป็นของนายอัคขพล อายุ 43 ปี ซึ่งมารักษาป่วยโรคไต จะนอนตามศาลาหน้ารพ.อุดรธานี ตัวคนไม่ได้กลับมาบ้านเพราะไม่มีบ้านอยู่ จะอาศัยนอนอยู่หน้าศาลาหน้ารพ.อุดรธานีเลย เขาเป็นคนยากไร้เลยไม่ได้กลับมาบ้านซะที
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบนายอัครพลแล้วที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อหน้ารพ.ศูนย์อุดรธานี พร้อมจักรยานคู่ชีพและเสื้อผ้า ผ้าห่ม โดยสภาพของนายอัคขพลมีสภาพใบหน้าปูดบวม และมีเลือดออกจากจมูกและปาก
โดยเจ้าตัว เปิดเผยว่า ตนเองต้องมาฟอกไตที่รพ.อุดรธานี 3 วันต่อครั้งจึงไม่กลับบ้านอีกอย่างไม่มีบ้านอยู่ จึงอาศัยนอนตามศาลาและสวนสาธารณะหนองประจักษ์ เมื่อคืนนี้เวลาประมาณตีสามขณะที่ตนเองนอนอยู่ศาลาและได้เดินเข้าไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะหนองประจัก์ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คนเดินเข้ามาหาแล้วรุมทำร้าย จากนั้นก็ทำร้ายร่างกายตนเองทันที ตนก็ดึงมีดออกมาเพื่อป้องกันตัวและ ตนก็ถามกลับไปว่า มึงตีกูทำไม คนร้ายก็บอกว่า กูต้องการทรัพย์สินของมึง สองคนรุมตีจนเองจนสู้ไม่ได้ จากนั้นคนร้ายก็เปิดกระเป๋าเอาโทรศัพท์มือถือและเงินสด 300 บาทไป
ด้าน น้องสาวของนายอัคขพล หลังทราบข่าวจึงรีบมาที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า พี่ชายป่วยเป็นโรคไตมาหลายปีแล้ว ขี่จักรยานมาฟอกไตที่รพ.สัปดาห์ละ 3 ครั้งจึงไม่กลับบ้าน อีกอย่างไม่มีบ้านอยู่ด้วย เห็นพี่ชายป่วยฟอกไตแล้วยังมาโดนคนร้ายทำร้ายร่างกายชิงทรัพย์ก็อดสงสารพี่ชายไม่ได้ ไม่ได้เคราะห์ซ้ำกรรมซัดแบบนี้เลย ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุจะได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป เพราะหากปล่อยไว้ลอยนวลจะเป็นอันตรายสำหรับชาวบ้านที่มาวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะประจักษ์ในตอนเช้าๆ อีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี