ตามที่องค์การบริหารส่วน ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี ได้ขอให้นำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อช่วยเหลือราษฎร ซึ่งประสบปัญหาอุทกภัยในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภคในฤดูแล้ง สำนักราชเลขาธิการได้มีหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ขอให้พิจารณาตรวจสอบและเสนอแนะข้อคิดเห็น สำนักงาน กปร. กรมชลประทาน จ.จันทบุรี และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วน ต.ท่าช้าง ลงพื้นที่สำรวจความเป็นไปได้ พบว่าราษฎรมีความเดือดร้อนในปัญหาการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จริง และมีความเป็นไปได้ในการจัดทำโครงการเพื่อการบริหารจัดการน้ำ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณารับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2551 และดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อปี 2554
นายธนเดช แสงอุไร นายกองค์การบริหารส่วน ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี เปิดเผยว่าในช่วงปี 2551 ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ม. 5 และ ม. 7 ต.ท่าช้าง ประชาชนจึงร่วมกันถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือขุดบึงบ้านขอมให้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำในหน้าฝน และนำน้ำมาใช้ช่วงหน้าแล้ง
“ตั้งแต่เกิดโครงการแก้มลิงบึงบ้านขอมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่แก้ไขได้ 100% ทำให้มีเกษตรกรรายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะหน้าฝนน้ำไม่ท่วม หน้าแล้งมีน้ำใช้เพียงพอ ในอนาคตจะมีการต่อยอด
ให้พื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเป็นที่พักผ่อน พร้อมปล่อยสัตว์น้ำลงในแก้มลิงเพื่อให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นที่ชาวบ้านจะได้จับขึ้นมาบริโภคและขายได้” นายธนเดช แสงอุไร กล่าว
ด้านนายเทพฤทธิ์ สิงห์สุขโรจน์ ราษฎร ม. 7 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี เผยว่าตนเองมีพื้นที่ 3 ไร่ ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง พันธุ์กระดุม พันธุ์ชะนี เงาะ และมังคุด แต่ก่อนปลูกยางพารา ส่วนหนึ่งทำนาแต่ไม่มีน้ำเพียงพอผลผลิตที่ได้ไม่ดี ตอนนี้มีน้ำจากโครงการแก้มลิงฯ ผลไม้ที่ปลูกให้ผลผลิตดีมาก
“โครงการนี้ช่วยเหลือชาวบ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งที่พระองค์ได้พระราชทานโครงการนี้มาให้ เพราะน้ำเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าขาดน้ำก็เหมือนขาดใจ” นายเทพฤทธิ์ สิงห์สุขโรจน์ กล่าว
หลังจากแก้มลิงบึงบ้านขอมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ทำหน้าที่เก็บกักน้ำช่วงฤดูฝนและระบายน้ำในช่วงฤดูแล้งยังผลให้เกิดการไหลเวียนของน้ำในพื้นที่ ขณะที่ปริมาณน้ำจำนวนหนึ่งยังคงอยู่เป็นน้ำต้นทุนของแก้มลิง ยังผลให้คุณภาพน้ำมีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์น้ำจืด
ซึ่งจากผลการวิจัยของคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จ.จันทบุรี ในวารสารวิจัยรำไพพรรณี ได้ยืนยันถึงคุณภาพของน้ำในแก้มลิงบึงบ้านขอม ระบุว่าการศึกษาความหลากหลายของแพลงก์ตอนพืชในบึงบ้านขอมและสระน้ำบ้านหนองสงวน จ.จันทบุรี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และสิงหาคม ปี 2560 และศึกษาคุณภาพของน้ำบางประการ ได้แก่ อุณหภูมิ ความเป็นกรดเป็นด่าง การนำไฟฟ้า ปริมาณของแข็งละลายน้ำรวมความเค็ม ความโปร่งแสง ปริมาณออกซิเจนละลาย และค่าอื่นๆ อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม โดยพบแพลงก์ตอนพืช 31 ชนิด ใน 27 สกุล 6 ชั้น โดยกลุ่มสาหร่ายสีเขียว มีจำนวนชนิดมากที่สุดถึง 16 ชนิด รองลงมา ได้แก่ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน พบ 5 ชนิด ไดอะตอม พบ 5 ชนิด ไดโนแฟลกเจลเลต พบ 3 ชนิด ยูกลีนอยด์ พบ 1 ชนิด และ คริสโซไฟต์ พบ 1 ชนิด ซึ่งแพลงก์ตอนพืชเหล่านี้เป็นดัชนีชี้วัดได้เป็นอย่างดีว่าแหล่งน้ำที่สะอาดมีสารอินทรีย์น้อย จัดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ 2 ของแหล่งน้ำผิวดิน คือ เกณฑ์คุณภาพน้ำดีสามารถใช้ประโยชน์เพื่อการอุปโภค-บริโภค โดยผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำทั่วไปได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี