ศูนย์จีโนมฯแจ้งข่าวดี วัคซีนเข็มกระตุ้น 2 สายพันธุ์ลดป่วย-ตายเห็นผลชัดเจน
12 มกราคม 2566 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ Center for Medical Genomics คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ภาพ พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics แจ้ง ข่าวดีวัคซีนเข็มกระตุ้นสองสายพันธุ์(ไบวาเลนต์-บูสเตอร์) สามารถช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยรุนแรงจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล รวมทั้งลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ที่ติดเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์ย่อยอุบัติใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นสองสายพันธุ์
การศึกษาชิ้นนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มงานวิจัยแรกที่ทำการประเมินประสิทธิผลของวัคซีนเข็มกระตุ้นสองสายพันธุ์จากอาสาสมัครสูงวัย (≥65 ปี) ในประเทศอิสราเอลจำนวนกว่า “6 แสนคน” ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นที่สอง(second generation) ประเภทสองสายพันธุ์เพียง "เข็มเดียว" พบว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อรุนแรงจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ถึง 81% และลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ถึง 86% (โดยติดตามหลังการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไป 70 วัน)
ผลงายวิจัยชิ้นนี้เตรียมพิมพ์ในวารสาร Lancet ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทันทีผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแต่ยังรอการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญสาขานี้
การศึกษาย้อนหลังครั้งนี้ได้นำข้อมูลจากศูนย์บริการสุขภาพทั่วไป (Clalit Health Service) ของประเทศอิสราเอลที่มีโรงพยาบาลใหญ่ในสังกัด 8 แห่งในช่วง ก.ย.- ธ.ค. 2565
อาสาสมัครที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 622,701 คน โดยมีผู้ที่คุณสมบัติตรงตามเกณฑ์จำนวน 85,314 คนหรือ 14% ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสองสายพันธุ์ (ซึ่งมีส่วนผสมของไวรัสดั้งเดิม อู่ฮั่น และ โอมิครอน BA.4 และ BA.5) จำนวน 1 เข็มและติดตามอาการไปอีก 70 วัน
พบว่าผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นและมีการติดเชื้อโอมิครอนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากอาการโควิดมีเพียง 6 คน เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสองสายพันธุ์ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมีจำนวนทั้งสิ้นถึง 276 คน (ภาพ1)
ส่วนผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสองสายพันธุ์และต่อมาเสียชีวิตเนื่องจากการติดเชื้อโควิดมีเพียงรายเดียวเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับการวัคซีนเข็มกระตุ้นสองสายพันธุ์มีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 73 คน
การค้นพบครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่กลุ่มเปราะบาง (608) โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสองสายพันธุ์ (ไบวาเลนต์-บูสเตอร์)
ในประเทศอิสราเอลในช่วงที่จัดเก็บข้อมูลระหว่าง 24 ก.ย.2022-12 ธ.ค. 2565 มีการระบาดของโอมิครอน
BA.2 มีส่วนแบ่งการระบาด 0.69%
BA.4 มีส่วนแบ่งการระบาด 2.69%
BA.5 มีส่วนแบ่งการระบาด 85.03%
BA.2.75 มีส่วนแบ่งการระบาด 4.01%
BQ.1* มีส่วนแบ่งการระบาด 6.89%
XBB* มีส่วนแบ่งการระบาด 0.31% และ
เดลตาครอน มีส่วนแบ่งการระบาด 0.38%
(ภาพ 2)
ทำให้คาดคะเนว่าได้การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสองสายพันธุ์สามารถลดอัตราการเจ็บป่วยจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและลดอัตราการเสียชีวิตได้ทั้งจากการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม BA.2, BA.4, BA.5 และโอมิครอนกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยอุบัติใหม่ BQ.1*, XBB*, และเดลตาครอน
แม้ว่าโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอุบัติใหม่ เช่น BQ.1* และ XBB* ได้ปรับส่วนโปรตีนหนามจนแอนติบอดีความจำเพาะสูง (narrow spectrum) ซึ่งผลิตโดยเม็ดเลือดขาวประเภทบีเซลล์ (B-cells) ไม่อาจจดจำ เข้าจับและทำลายได้ แต่โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยเหล่านี้ก็ไม่สามารถรอดพ้นระบบภูมิคุ้มจากเม็ดเลือดขาวประเภททีเซลล์ (T-cells) ได้ โดยทีเซลล์จะหลั่งสารกระตุ้นเม็ดเลือดขาวหลากหลายประเภทเข้าทำลายเซลล์ติดเชื้อโควิด โดยไม่คำนึงว่าเซลล์นั้นจะติดโควิดเป็นสายพันธุ์ใด (board spectrum) ได้ถึงร้อยละ 85
https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=4314067
https://www.scientificamerican.com/.../why-covids-xbb-1.../
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี