พบเพิ่มอีก 4 ศพ รวมมีผู้เสียชีวิต 8 ศพ เหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดที่แม่กลอง ด้านกรมเจ้าท่า สั่งตั้งกรรมการสอบสวนหาสาเหตุ ให้ทราบผลภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนรองปลัดฯ คมนาคม เผย เรือลำเกิดเหตุมีประกันภัย 1 พันล้านดอลลาร์ เร่งเยียวยาผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว
เมื่อวันที่ 18 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเรือบรรทุกน้ำมัน สมูธซี 22 เกิดระเบิดภายในบริเวณอู่เรือบริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด ใกล้วัดปากสมุทร อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ขณะที่เข้ารับการซ่อมบำรุง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และได้รับบาดเจ็บนับสิบราย และยังมีผู้สูญหาย ส่วนบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงถูกแรงระเบิดพังเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ว่าภายหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ยังคงระดมกันค้นหาคนงานทั้งชาวไทยและแรงงานต่างด้าว ที่สูญหายจากเหตุที่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2ราย เป็นแรงงานชาวเมียนมา ทำให้พบผู้เสียชีวิตแล้วในขณะนี้4ราย และยังคงมีผู้สูญหายอยู่อีก 4 ราย
นอกจากนี้ ทางหน่วยกู้ภัยยังพบชิ้นส่วนข้อเท้าขวา แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนศพผู้เสียชีวิตจากเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางกู้ภัยจากหลายมูลนิธิได้สนธิกำลังกัน ร่วมวางแผนค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยปูพรมทั่วแม่น้ำแม่กลอง ทั้งบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุและบริเวณโดยรอบ รวมทั้งวางแผนการดำน้ำเพื่อค้นหาผู้สูญหาย
ด้านนายสมนึก พรหมเขียว ผวจ.สมุทรสงครามได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันในการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนอย่างละเอียดอีกครั้งและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างเร่งด่วนส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ทางคปภ.ได้เร่งจ่ายค่าสินไหมเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนต่อไป
ขณะที่นายอมรศักดิ์ ฉัตรระทิน นายก อบต.แหลมใหญ่ กล่าวว่า ทาง อบต.พร้อมสนับสนุนภารกิจการค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มที่ และรับลงทะเบียนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เบื้องต้นมีชาวบ้านใน ต.แหลมใหญ่ ได้รับผลกระทบกว่า 60 ราย และยังมีชาวบ้านในตำบลใกล้เคียงอีกกว่า 20ราย
ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานเจ้าท่า จ.สมุทรสงคราม และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่กรมเจ้าท่าแต่งตั้งขึ้น ได้ประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีการสอบถามมาตรการเยียวยาจากผู้ประกอบการ และประเด็นเกี่ยวกับเรื่องใบอนุญาต รวมทั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมาตรการความปลอดภัยในขณะซ่อมบำรุงเรือ เพื่อให้ได้ข้อสรุป และรายงานผลการสอบสวนไปยังผู้บังคับบัญชา ตามที่กำหนดกรอบไว้ภายใน 1 สัปดาห์
วันเดียวกัน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยถึงเหตุเรือบรรทุกน้ำมัน สมูธซี 22 ระเบิด ในครั้งนี้ ว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สั่งการให้กรมเจ้าท่าเร่งตรวจสอบ แก้ไข เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว ซึ่งนายภูริพัฒน์ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า พร้อมด้วยนายพิทักษ์ วัฒนพงศ์พิศาล ผอ.สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าสาขาสมุทรสงคราม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายสรพงศ์กล่าวอีกว่า รองอธิบดีกรมเจ้าท่าได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุเพื่อหาสาเหตุภายใน 10 วัน โดยร่วมกับเจ้าพนักงานตรวจเรือ เจ้าพนักงานตรวจท่า ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท พีเอสพีสเปเชียลลิตี้ส์ จำกัด และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ในการสอบสวนคนประจำเรือและเจ้าหน้าที่ safety ของอู่เรือบริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการล้างถัง/free gas หากพบว่ามีการปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง อันส่งผลให้เกิดเหตุระเบิด ก็จะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเด็ดขาด
สำหรับการเยียวยาผู้ประสบเหตุ ตรวจสอบพบว่า เรือบรรทุกน้ำมัน สมูธซี 22 มีประกันภัย ดังนี้ 1. ประกันภัย H&M คุ้มครองถึงวันที่ 26 มีนาคม 2566 วงเงิน 60 ล้านบาท 2.ประกันภัย P&I คุ้มครองถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 วงเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ กรมเจ้าท่า จะดำเนินการประสานบริษัท สมูธซี จำกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือในขั้นตอนการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี