กอ.รมน.แจงละเอียด
วิสามัญ3โจรใต้
มีหมายจับติดตัวเพียบ
3 ราย ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยึดเอ็ม -16 และอาก้า รวม 3 กระบอกเผยคนตายมีหมายจับเพียบ ยันปฏิบัติหน้าที่ ตามขั้นตอนอย่างสันติวีธีแล้ว
เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าค่ายสิริธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค4 สน.ได้ชี้แจงถึงกรณีเหตุเจ้าหน้าวิสามัญคนร้ายว่า สืบเนื่องมาจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดและซุ่มโจมตีชุดคุ้มครองตำบล รวมทั้งภาพข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนพักพิงในพื้นที่ป่าภูเขา บริเวณเทือกเขาตะเว ม.4 บ.ดาฮง ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เพื่อเตรียมการก่อเหตุ ดังนั้นหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 จึงได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบ โดยเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 เวลา 0915 ขณะเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ ปฏิบัติภารกิจเดินเท้าลาดตระเวน ได้ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่จนเกิดการยิงตอบโต้กันขึ้นหลายระลอก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ปลอดภัย ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกลุ่มคนร้ายเสียชีวิตจำนวน 3 ราย ทราบชื่อ ดังนี้
1. นาย บือรอเฮง มือสา อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุรุนแรง มีหมายจับในคดีความมั่นคงจำนวน 1 หมาย
2. นาย ไพศาล ซาเงาะ อายุ 30 ปี ผู้ก่อเหตุรุนแรง มีหมายจับในคดีความมั่นคงจำนวน 3 หมาย ที่สำคัญคือกรณีเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ กทม. เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 62
3. นาย ตูรมีซี เย็ง อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุรุนแรง มีหมายจับในคดีความมั่นคงจำนวน 3 หมาย ที่สำคัญคือ กรณีขว้างระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการ นปพ.21 อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 64
ตรวจยึดอาวุธปืนสงครามจำนวน 3 กระบอก ประกอบด้วย ปืน M 16 2 กระบอก ปืนอาก้า 1 กระบอก ระเบิดขว้างแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ที่พักชั่วคราว และของใช้ส่วนตัว จำนวนหนึ่ง โดยภายหลังเกิดเหตุได้มีเพจข่าวบางสื่อพยายามไลฟ์สดเพื่อบิดเบือนและปลุกระดมชี้นำว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของศาสนาในการส่งศพผู้เสียชีวิตให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาภายในเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอเรียนให้ทราบว่าในขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายหลังเกิดเหตุ มีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ รวมทั้งจัดตั้งจุดสกัดในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายที่เหลือจะหลบหนีเพื่อควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งต้องดำเนินการเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ถูกซุกซ่อนในพื้นที่ เพื่อทำพื้นที่ให้ปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บรวบรวมวัตถุพยานและสารพันธุกรรมเพื่อตรวจพิสูจน์ความเชื่อมโยงทางคดีและขยายผลกับกลุ่มคนร้ายที่เหลือ รวมทั้งในขั้นตอนการดำเนินการตรวจชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการโดยละเอียด ก่อนที่จะส่งศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ ซึ่งทั้งหมดต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวังเพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัยเพราะในพื้นที่อาจจะยังมีกลุ่มคนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงลอบทำร้ายต่อเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานได้ สำหรับขณะนี้การปฏิบัติงานในพื้นที่ยังไม่จบภารกิจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังต้องเข้าดำเนินการเก็บวัตถุพยานรวมทั้งสารพันธุกรรมต่างๆ เพื่อนำมาประกอบหลักฐานหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายล้วนต่างเข้าใจในการจัดการศพให้เป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม สามารถส่งศพผู้เสียชีวิตให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยใน เวลา 17.50 น. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนร้ายมุ่งหวังที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่โดยเปิดฉากยิงเข้าใส่ก่อน จนทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยิงตอบโต้จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว ในนามของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต มา ณ โอกาสนี้
อย่างไรก็ตาม กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังคงยึดมั่นในหลักการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธีเพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มเห็นต่างจากรัฐเข้ารายงานตัวแสดงตนและพร้อมช่วยเหลืออำนวยความสะดวกเพื่อต่อสู้คดีตามกฎหมายด้วยความเสมอภาคและเป็นธรรม รวมทั้งยังคงเดินหน้าสร้างสภาวะแวดล้อมให้เกื้อกูลและหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยเพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในพื้นที่ จชต. ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี