โควิด7วันลดฮวบ
ติดเชื้อนอนรพ.627-ตาย44
สธ.เฝ้าระวังนทท.เที่ยวไทย
สุ่มตรวจเจอ5คนผลบวกมีจีน1
ยอดการแพร่ระบาดยังไม่สูง
BA.2.75ยังเป็นสายพันธุ์หลัก
สธ.แถลงโควิดไทยรอบสัปดาห์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมี 627 ราย เฉลี่ย 90 คน/วัน เสียชีวิตเพิ่ม 44 ศพเฉลี่ย 6 คน/วัน มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 277 คน ใส่ท่อหายใจ 178 คนด้านกรมควบคุมโรคแถลงผลสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยพบ 5 ราย เจอมาจากจีน 1 ส่วนผู้ประสงค์ไปต่างประเทศเจอผลบวก 300-400 คน ขณะที่สายพันธุ์โควิดในไทย 86% ยังเป็น BA.2.75 สายพันธุ์ XBB พบเล็กน้อย ยังไม่มี XBB.1.5 ในไทย
เมื่อวันที่ 23 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของปี 2566 ระหว่างวันที่ 15-21 มกราคม พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาล (รพ.) 627 คน เฉลี่ยวันละ 90 คน รวมผู้ติดเชื้อรายใหม่สะสม 2,593 คนนับตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่ 44 คน เฉลี่ยวันละ 6 คน สะสม 167 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 277 คน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 178 คน
สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 มียอดฉีดสะสม 144,570,456 โดส ฉีดวัคซีนได้เพิ่มขึ้น 4,119 โดส แบ่งเป็น ฉีดอย่างน้อย 1 เข็ม จำนวน 57,189,704 โดส คิดเป็นร้อยละ 82.22 ฉีดอย่างน้อย 2 เข็ม จำนวน 53,673,080 โดส คิดเป็นร้อยละ 77.17 และฉีดอย่างน้อย 3 เข็ม จำนวน 33,707,672 โดส
สธ.สุ่มตรวจนทท.เจอ5
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 หลังไทยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมาว่า จากการเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยสุ่มตรวจในกลุ่มผู้เดินทางเข้าประเทศ พบว่า อัตราการติดเชื้อไม่สูง ภาพรวมสัปดาห์แรก รายงานผู้ติดเชื้อเป็นนักท่องเที่ยว 3 ราย ส่วนสัปดาห์ที่ 2 มีรายงาน 5 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่เดินทางมาจากจีน 1 ราย สถานการณ์น่าจะเป็นไปตามที่วางระบบและคาดการณ์ไว้ ดังนั้น ประเทศไทยยังคงมาตรการเดิมในการเฝ้าระวังต่อไป ไม่ต้องหวั่นวิตก
เปิดศูนย์ฯบางรักฉีดวัคซีนให้ต่างชาติ
นพ.ธเรศกล่าวต่อว่า ส่วนการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยที่จุดฉีดศูนย์การแพทย์บางรัก กรมควบคุมโรค เขตสาทร กรุงเทพมหานคร โดยเปิดให้บริการคนไทยวอล์กอินฉีดวัคซีนได้ทุกเข็มโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทยระยะสั้น เช่น การท่องเที่ยว สามารถเลือกเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ราคา 1,000 บาท หรือวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ราคา 800 บาท ค่าบริการฉีดวัคซีน 380 บาท สามารถเข้ารับบริการได้ทุกวันในเวลาราชการ สอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02286 2468 เนื่องจากยังเปิดให้บริการได้ไม่นาน จึงยังมีนักท่องเที่ยวมารับบริการฉีดวัคซีนโควิดไม่มาก ซึ่งจะยังเปิดให้บริการต่อไป
BA.2.75เป็นสายพันธุ์หลักในไทย
ขณะที่นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวถึงการเฝ้าระวังสายพันธุ์เชื้อโควิด-19 ในประเทศว่า ประเทศไทยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.2.75 เป็นส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 86 ส่วนสายพันธุ์ XBB พบเล็กน้อยและยังไม่มี XBB.1.5 ในไทย อย่างไรก็ตาม กรมฯเฝ้าระวังอยู่ตลอด
สุ่มตรวจคนไปตปท.เจอ300-400คน
ส่วนข้อมูลติดเชื้อโควิดในกลุ่มผู้ต้องเดินทางไปประเทศที่กำหนดให้ตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่องบินนั้น นพ.ศุภกิจเปิดเผยว่า ห้องปฏิบัติการ (แล็บ) รายงานเข้าระบบโคแล็บ (Co-Lab) พบติดเชื้อประมาณ 300-400 คน มีทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนพบ 10 กว่าคน หรือประมาณร้อยละ 4 ยังเป็นตัวเลขที่น้อยเกินไปสำหรับการจะถอดรหัสพันธุกรรมดูว่าเป็นสายพันธุ์อะไร จึงขอเวลาเก็บข้อมูลอีก 1-2 สัปดาห์ โดยเราให้ห้องแล็บส่งตัวอย่างเชื้อที่มีผลบวกในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ตรวจก่อนขึ้นเครื่องบินทุกรายมาให้เราถอดสายพันธุ์ หากตัวเลขเพิ่มขึ้นก็จะสามารถถอดรหัสพันธุกรรมได้ เพื่อดูว่าการติดเชื้อในนักท่องเที่ยวแต่ละชาติเป็นสายพันธุ์อะไรบ้าง
“เช่นนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเยอะ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศ เมื่อจะกลับก็ต้องตรวจ RT-PCR ก่อน เราก็จะดูได้ว่าเป็นสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.4/5 ที่ระบาดในจีนหรือเป็น BA.2.75 ที่ระบาดในไทย เราจะมีคำตอบว่าเป็นการติดเชื้อในประเทศไทย หรือติดเชื้อมาตั้งแต่ต้นทาง” นพ.ศุภกิจกล่าว
XBB.1.5จ่อยึดอเมริกา-ยุโรปกพ.
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กรายงานสถานการณ์โควิด -19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 128,373 คน ตายเพิ่ม 635 คน รวมติดเชื้อสะสม 673,294,559 คน เสียชีวิตรวม 6,746,068 คน โดย 5 อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ รัสเซีย และเม็กซิโก
รศ.นพ.ธีระยังเปิดเผยถึงการติดตามสายพันธุ์ไวรัสโควิด -19 โดยอ้างอิงรายงานจาก GITHUB สรุปสถานการณ์สายพันธุ์ไวรัสทั่วโลกว่า สายพันธุ์โอมิครอน XBB.1.5 จัดเป็นสายพันธุ์ไวรัสที่แข็งแรงที่สุดที่ระบาดอยู่ขณะนี้ แม้ปัจจุบันจะครองสัดส่วนหลักในแถบตะวันออกของอเมริกา แต่คาดว่า สายพันธุ์XBB.1.5 จะเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่แถบยุโรปยังพบในสัดส่วนน้อยมีประมาณ 5% ช่วงสัปดาห์แรกของปีนี้ แต่ด้วยค่าเฉลี่ยการระบาดทวีคูณประมาณ 10 วัน หากเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ XBB.1.5 เป็นสายพันธุ์หลักได้ตั้งแต่ปลายกุมภาพันธ์
ชี้ในไทยเป็นซุปเปอร์สายพันธุ์
อย่างไรก็ตาม นอกจาก XBB.1.5 แล้วยังมีสายพันธุ์อื่นที่พบมากในแต่ละพื้นที่ ได้แก่ XBF ในออสเตรเลีย, CH.1.1 ในนิวซีแลนด์และสหราชอาณาจักร รวมถึง BQ.1* + S:346T + S:144- ในเดนมาร์ก ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ถ้าประเมินสถานการณ์ของไทย แนวโน้มเป็นซุปสายพันธุ์ที่หลากหลาย เพราะปัจจัยหลักมาจากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากในหลายเดือนที่ผ่านมา สัดส่วนหลักของสายพันธุ์ย่อมแปรผันตามจำนวนคนเดินทางจากภูมิภาคนั้นๆ
ส่วนอาการสำคัญของลองโควิดหลังติดเชื้อแล้วคือ อ่อนเพลีย/เหนื่อยล้า ปัญหาด้านความคิด/ความจำ/สมาธิ (Difficulty concentrating, memory loss) และอาการปวดกล้ามเนื้อ (Muscle pain) ถือเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วย Long COVID โดยกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน การป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อหรือไม่ติดซ้ำ ย่อมดีที่สุด การใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกต้องสม่ำเสมอระหว่างใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี