จ่อหมายจับอีก3
จนท.ดีเอสไอพัวพันคดีรีดเงิน
ชุดเข้าค้นคอนโดจีนสีเทา
‘บิ๊กโจ๊ก’เล็งเรียกสอบเพิ่ม
หลัง‘ไตรยฤทธิ์’ปัดไม่รู้เรื่อง
ชี้ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
รมว.ยุติธรรม จับเข่าคุย ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หลังเปิดโปงดีเอสไอทุจริตอื้อ ชี้เห็นความตั้งใจแก้ปัญหา เปิดทางให้ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง ยันสั่งตั้ง กก.สอบ ใครผิดเอาเรื่องถึงที่สุด ลั่นไม่เอาชื่อเสียงมาทิ้งกับเรื่องพวกนี้ จ่อหมายจับเพิ่ม 3 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะเข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมของกลุ่มทุนจีนสีเทา “บิ๊กโจ๊ก”เผยเตรียมเรียกสอบ “จนท.นาอูรู” ประสานให้มีการเข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตกงสุล ลั่นความจริง มีเพียงหนึ่งเดียว หลัง “ไตรยฤทธิ์” ปัดไม่ทราบเรื่องค้นบ้านอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ชี้สวนทาง ผอ.ส่วนกลั่นกรองฯ
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ถึงกรณีการร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกระทรวงยุติธรรม เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการรับเงินผู้ทำผิดกฎหมายคดียาเสพติด และพนันออนไลน์ ซึ่งการพูดคุยเป็นไปอย่างเรียบง่าย ตนได้รับฟังการทำงานของนายอัจฉริยะ ทำให้เข้าใจและเห็นถึงความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาต่างๆ
“ผมได้ยืนยันไปว่ายินดีที่จะรับฟังข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าเรื่องยาเสพติด หรือปัญหาที่เกิดขึ้นของดีเอสไอ พร้อมยินดีที่จะให้นายอัจฉริยะ เข้ามาร่วมตรวจสอบ แต่หากนายอัจฉริยะ ไม่สะดวกหรือไม่สบายใจ ก็สามารถส่งตัวแทนมาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงแทนได้ ผมเชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และปัญหาต่างๆ จะได้รับการสะสางและคลี่คลายไปได้” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการตรวจสอบข้อร้องเรียน ก็ได้ยืนยันกับนายอัจฉริยะ ไปว่า ตนในฐานะ รมว.ยุติธรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ที่มีนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน เพื่อให้เกิดข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ซึ่งตนขอยืนยันว่า การทำงานตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ตั้งใจทำงานในการแก้ปัญหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายมาโดยตลอด ซึ่งเหนื่อยมาก ดังนั้น การได้นายอัจฉริยะ มาช่วยเปิดเผยข้อเท็จจริงต่างๆ ก็ถือว่า เป็นเรื่องที่ดี
“คนอย่างผมไม่มีทางยอมให้ใครไปทำลักษณะนั้น เพราะต้องการกวาดล้างสิ่งที่ผิดกฎหมายต่างๆ และผมไม่เห็นด้วยกับคนที่วิ่งเคลียร์คดี ทำสิ่งไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมาหากพบคนที่น่าสงสัยหรือถูกร้องเรียน ก็ให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงตลอด ใครผิดว่าไปตามผิด ผมไม่เอาชื่อเสียงมาทิ้งกับเรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน ซึ่งการให้นายอัจฉริยะเข้ามาร่วมสืบสวนสอบสวนถือว่าแฟร์ที่สุดแล้ว จากนี้ขอให้การทำงานร่วมกันมีแต่ทิศทางที่ดี คนที่ทำผิด ฉวยโอกาสหาผลประโยชน์ ผมจะเอาผิดให้ถึงที่สุด เพราะถือเป็นการทำลายชื่อเสียงและความตั้งใจของผมในการทำงานเพื่อสังคมและประชาชน” นายสมศักดิ์ กล่าว
มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง เร่งสรุปข้อมูลการสอบสวนเพื่อเตรียมออกหมายจับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เพิ่มอีก 3 คน เป็นบุคคลที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด ว่าเป็นผู้เข้าค้นคอนโดมิเนียมของทุนจีนสีเทา ย่านห้วยขวาง ภายหลังเข้าค้นบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ไม่กี่ชั่วโมง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่านอกจากอดีตอธิบดีดีเอสไอแล้ว แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่สถานทูตนาอูรูก็ต้องเข้ามาให้การถึงประเด็นข้อสงสัยในการติดต่อให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบความผิดปกติที่บ้านพักอดีตกงสุลใหญ่ เพราะเมื่อเทียบกับเอกสารแล้วพบว่า เรื่องระยะเวลายังขัดแย้งกันอยู่
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ทางการนาอูรู รับทราบถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวน และอนุมัติให้ส่งเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นคนลงนามในหนังสือร้องเรียน และขอให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู และยังพบว่ายังอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชี้จุดให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าค้นคอนโดมิเนียมย่านห้วยขวางอีกด้วย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 26 มกราคม นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ถูกย้ายไปปฏิบัติราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และปัจจุบันรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่สโมสรตำรวจ เพื่อให้ปากคำตามหมายเรียกแล้ว กรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ร่วมกับตำรวจ 191 บุกค้นบ้านอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู จนเกิดปัญหายักยอกของกลาง และเรียกรับประโยชน์ โดยการให้ปากคำครั้งนี้มุ่งสอบทุกประเด็นสงสัย รวมทั้งประเด็นข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการเข้าค้นบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ย่านสาทร เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565ว่าทราบหรือไม่ว่า ชุดทำงานออกไปปฏิบัติหน้าที่สถานที่ดังกล่าว รวมไปถึงการอนุมัติขั้นตอน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำนายไตรยฤทธิ์ เบื้องต้นให้การว่า ไม่ทราบว่าชุดปฏิบัติการดังกล่าวได้มีการไปตรวจค้นที่บ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู รวมทั้งทางชุดทำงานไม่ได้มีการรายงานผลหลังการปฎิบัติให้ทราบแต่อย่างใด ในส่วนนี้ขัดแย้งกับที่ นายตฤณ พิชิตกุญชร ผู้อำนวยการส่วนกลั่นกรองและการข่าวคดีพิเศษภาค ให้การว่า เป็นการปฏิบัติงานโดยชอบ ตามคำสั่งของท่านอธิบดี และทางอธิบดีรับทราบพร้อมกับมีการรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบหลังการตรวจค้น
รอง ผบ.ตร กล่าวอีกว่า ในการสอบปากคำครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะนำมาเทียบเคียงกับพยานหลักฐานทั้งในส่วนเส้นทางการเงิน ตลอดจนข้อมูลทางเทคนิคที่พบ ว่ามีความผิดปกติในส่วนใดของคำให้การของแต่ละบุคคล ซึ่งไม่นานความจริงจะปรากฏ เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว นอกจากนี้ อาจจะต้องมีการเรียกข้าราชการระดับสูง ซึ่งเป็นระดับผู้อำนวยการของทางดีเอสไอมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี