‘นอท’แจ้งเตือน‘คนถูกรางวัล’
ระวังมิจฉาชีพ
สวมรอยเป็น‘ดีเอสไอ’โทรหา
ขอลูกค้า‘กองสลากพลัส’มั่นใจ
ตอกย้ำลอตเตอรี่คือความสนุก
อย่าให้เรื่องอื่นทำลายความสุข
“นอท กองสลากพลัส”ประกาศ ใครถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ดีเอสไอ จะไม่โทรไปหา เตือนให้ระวังมิจฉาชีพ ระบุพนักงานยังคงอยู่ช่วยเหลือลูกค้าต่อไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน ชี้ลอตเตอรี่ คือความสนุกอย่าให้เรื่องอื่นมาทำลายความสุขของเรา
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยศูนย์คดียาเสพติด ได้ออกหมายเรียก นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์หรือ นอท ซีอีโอ กองสลากพลัส ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา2 คดี ได้แก่ คดี 288/2565 ในข้อหา ร่วมกันฟอกเงินและคดี 6/2566 ในข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันและร่วมกันฟอกเงิน เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา
‘นอท’ขอพิสูจน์ตัวเอง-ยันไม่ได้ทำผิด
โดย นายพันธ์ธวัช ได้เปิดเผยว่า ได้เตรียมแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด และได้โพสต์เฟซบุ๊ก ‘นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์’ ระบุว่า เนื่องจากเป็นคดีที่กระทบต่อความเชื่อมั่น ตนขอเวลาในการพิสูจน์ตัวเอง และยืนยันว่า ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ไม่เคยฟอกเงินให้ใคร และยังมีข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า “มีมอเตอร์ไซค์ คนแปลกหน้ามาวนดูหน้าบ้าน ยังอยู่ไทยครับ ไม่ไปไหน”
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวอย่างหนักว่า “นอท กองสลากพลัส” เตรียมหนีออกไปนอกประเทศ หลังจากถูกหลายหน่วยงาน เช่นสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)เข้าตรวจสอบการดำเนินธุรกิจจำหน่ายลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงเส้นทางการเงินต่างๆของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน ที่ถูกจับกุมและขยายผลไปก่อนหน้านี้เพราะปรากฏหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีของ“นอท กองสลากพลัส”อย่างน้อย 39 เส้นทาง
ยุติการขายสลากจนพิสูจน์ได้ว่าบริสุทธิ์
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ”ได้ไลฟ์สด นายพันธ์ธวัช เปิดใจว่า วันนี้มารับทราบข้อหาตามหมายเรียก โดยยืนยันไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่เมื่อตนอยู่ภายใต้กฎหมายไทย เมื่อเข้าสู่กระบวนการแล้ว และกระทบกับความเชื่อมั่น จึงขอยุติการจำหน่ายลอตเตอรี่เพียงเท่านี้ก่อน ขอเวลาพิสูจน์ข้อหาทั้งหมด หลังจากนั้นค่อยมาว่ากัน โดยจะยุติการขายจนกว่าจะพิสูจน์ตัวเองว่าบริสุทธิ์ ตอนนี้ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน โดยตนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เมื่อถามถึงการยุติจำหน่ายสลาก แต่มีคนที่ซื้อไปแล้วจะทำอย่างไร นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า ถ้าถูกรางวัลจะได้รับเงินตามปกติ โดยกองสลากพลัสยังอยู่ ซึ่งไม่หนักใจกับข้อหาฟอกเงิน เพราะตนไม่ได้ทำ โดยมีหลักฐานพิสูจน์ตัวเองอยู่แล้ว โดยมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าชี้แจงได้ทุกเส้นทาง
เตือนระวังมิจฉาชีพสวมรอยDSI
ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นายพันธ์ธวัช ได้โพสต์ข้อความแจ้งผ่านเฟซบุ๊ค “นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์” ว่า พรุ่งนี้คนถูกรางวัล DSI จะไม่โทรไปหา โดยระบุรายละเอียดว่า “พรุ่งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะประกาศเงื่อนไขและรูปแบบ ในการรับเงินรางวัลของผู้ถูกรางวัลที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจาก กองสลากพลัสให้ประชาชนทราบโดยพร้อมกัน โดยวิธีการที่กำหนดนั้นจะเป็นการดำเนินการร่วมกับ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะไม่มีการโทรไปหาประชาชนจาก DSI ในเรื่องเกี่ยวกับการถูกรางวัลใดๆ ขอประชาชนติดตามเงื่อนไขและรูปแบบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เท่านั้น ย้ำว่าจะไม่มี DSI โทรหาผู้ใด ระวังมิจฉาชีพนะครับ”
ยังดูแลลูกค้าต่อไปอีก1เดือนเต็ม
พร้อมกันนี้ ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า “พนักงาน 200 คนของเรายังคงอยู่ดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกท่านตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนเดิมอย่างน้อย 1 เดือนเต็ม”
นอกจากนี้ นายพันธ์ธวัช ยังระบุอีกว่า “วันนี้ผมอยากให้ลุ้นหวยอย่างสบายใจครับ ถูกต้องได้เงิน ถ้ามีปัญหา ผมและทีมงานจะช่วยตามและประสานงานให้ครับ ไม่ต้องกังวล ลอตเตอรี่คือความสนุกครับ อย่าให้เรื่องอื่นมาทำลายความสุขเล็กๆ ของเรา”
ดีอีเอสยื่นขอปิดแพลตฟอร์มสลากพลัส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2566 ร่วมกับ ผู้แทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการปิดกั้นแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ผิดกฎหมาย ในส่วนกรณีแพลตฟอร์มของกองสลากพลัส ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานและถ้อยคำประกอบคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว เพื่อปิดกั้นแพลตฟอร์มกองสลากพลัส ไม่ให้ดำเนินการขายสลากได้จนกว่าศาลจะมีคำตัดสินให้ปิดกั้นเป็นการถาวร ซึ่งทางกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ยื่นเรื่องไปที่ศาลขอปิดกั้นแพลตฟอร์มกองสลากพลัสและขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล
ปิดกั้นไปแล้ว12แพลตฟอร์ม
ทั้งนี้ ตั้งแต่ มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลฯได้ยื่นคำร้องต่อศาลในการขอปิดกั้นแพลตฟอร์มกองสลากพลัส และแพลตฟอร์มอื่นที่เข้าข่ายจำหน่ายสลากอย่างผิดกฎหมายตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้แจ้งความดำเนินคดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 15 แฟลตฟอร์ม ซึ่งศาลมีคำสั่งปิดกั้นแล้ว 12 แพลตฟอร์ม ส่วนที่เหลืออีก 3 แพลตฟอร์มอยู่ระหว่างดำเนินการในชั้นศาล
นายเวทางค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ดำเนินการปิดกั้นแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ที่จำหน่ายสลากเกินราคาอย่างต่อเนื่อง และ หากกระทรวงฯ ได้รับเรื่องพร้อมหลักฐานจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
‘ชูวิทย์’ชี้จากนี้‘นอท’ต้องวิ่งอย่างเดียว
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจสถานบันเทิงชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่าด่วน! โดนแล้ว ข้อหาหนัก สั่งปิดกองสลากพลัส วันนี้ DSI ออกหมายเรียก นอท กองสลากพลัส เข้ารับทราบข้อกล่าวหา 2 คดี 1.คดี 288/2565 โดนข้อหา ร่วมกันฟอกเงินจากกรณีที่ นอท ร่วมกันฟอกเงินกับ นายอรรถกานต์ หรือเฟย เพราะอ้างว่ามอบอำนาจไปให้เฟยขึ้นเงินรางวัลให้ แต่กลายเป็นว่าเงินที่รับมาจากเฟย เป็นเงินที่มาจากพนันออนไลน์
2.คดี 6/2566 โดนข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน และร่วมกันฟอกเงิน จากกรณี เส้นเงิน 39 เส้น มูลค่ากว่าพันล้าน มาจากทั้ง เอ็ดดี้ นอมินี และพวกพนันออนไลน์ทั้งหลาย โดย DSI ได้ส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ เสนอให้ปิดแพลตฟอร์ม “กองสลากพลัส” แล้วยังอายัดบัญชีของ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด ของกองสลากพลัส และบัญชีส่วนตัวของ นอท ด้วย
DSI ยุคใหม่ ของท่านอธิบดี สุริยา สิงหกมล และ ผอ. พงษธร อินอำนวย ทำงานรวดเร็วเพื่อกอบกู้ “ชื่อเสียง” ขององค์กร เพราะเจ้าหน้าที่บางคน ทำ “ชื่อเสีย” มาก่อนหน้านี้ หลังจากนี้ นอท นั่งก็ไม่ได้ เดินก็ไม่ได้ ต้องวิ่งอย่างเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี