โฆษก บช.สอท.เตือนภัยข้าราชการเกษียณยื่นรับบำเหน็จบำนาญ ระมัดระวังเว็บไซต์ปลอม พร้อมแนวทางการป้องกัน 7 ข้อ
1 ก.พ.2566 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยว่า ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยข้าราชการเกษียรยื่นรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองให้ถูกช่องทาง ระมัดระวังเว็บไชต์ปลอม แอปพลิเคชันปลอมของมิจฉาชีพที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลทางการเงิน ดังนี้
ตามที่รองโฆษกรัฐบาลได้ออกมาชี้แจงถึงกรณี กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้อำนวยความสะดวกให้กับข้าราชการ และลูกจ้างประจำที่พ้นราชการ เนื่องจากเกษียณอายุในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ในวันที่ 1 ต.ค. 2566 โดยสามารถยื่นคำขอรับบำเหน็จบำนาญล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ก่อนวันครบเกษียณอายุได้ 8 เดือน เริ่มตั้งแต่ เดือน ก.พ. 2566 เป็นต้นไป โดยสามารถยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญต่อส่วนราชการเจ้าสังกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Pension' Electronic Filing) หรือ ระบu e-Filing ผ่านเว็บไชต์กรมบัญชีกลาง www.ced.go.th หรือผ่านแอปพลิเคชัน Digital Pension นั้น
ที่ผ่านมิจฉาชีพมักฉวยโอกาสสร้างเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอม ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับของจริง เพื่อหลอกลวงประชาชน ให้ประชาชนที่หลงเชื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ - นามสกุล วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน รวมถึงข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคารเลขบัตรเดบิต/เครดิต รหัสหลังบัตร 3 หลัก รหัส OTP เป็นต้น เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการนำชุดหมายเลขที่ได้ไปถอนเงินของเหยื่อออกจากบัญชี หรือไปแฮ็กบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ หรือใช้รหัสบัตรเดบิต/เครดิตชำระค่าสินค้า หรือไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น รวมไปถึงกรณีการส่งลิงก์ที่แนบมากับข้อความสั้น (SMS) ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม ซึ่งฝังมัลแวร์มาดักรับข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเหยื่อ เป็นต้น
นอกจากเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอมแล้ว เหล่ามิจฉาชีพอาจหลอกลวงประชาชนในลักษณะของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมบัญชีกลางโทรเข้ามาหลอกลวงประชาชน ออกอุบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับบำเหน็จบำนาญ เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงเอาข้มูลส่วนตัวของประชาชน ไปแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า มิจฉาชีพเหล่านี้จะเปลี่ยนเพียงแค่ชื่อเว็บไชต์ของหน่วยงาน แต่ยังคงใช้แผนประทุษกรรมในรูปแบบเดิมๆ เพราะฉะนั้นการใช้งาน หรือเข้าถึงเว็บไซต์ หรือบริการต่าง ๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งมิจฉาชีพอาจใช้โอกาสหลอกเอาข้อมูลไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงวิธีหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงเอาข้อมูล พร้อมแนวทางการป้องกัน ดังนี้
1.หากต้องการจะเข้าเว็บไซต์ใดให้พิมพ์ หรือกรอกชื่อเว็บไซค์ (URL) ด้วยตนเอง ป้องกันการเข้าสู่เว็บไซปลอม โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่อยู่ในช่วงอายุการยื่นคำขออาจจะไม่ทันระวัง ฝากบุตรหลานช่วยตรวจสอบให้ถูกต้อง
2.เพิ่มความระมัดระวังในการสังเกตชื่อเว็บไซต์อย่างละเอียด มิจฉาชีพมักเลียนแบบให้มีลักษณะล้ายกัน โดยเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลางคือ www.cgd.go.th เท่านั้น
3.ไม่คลิกลิงก์ที่แนบมากับอีเมล หรือข้อความสั้น (SMS) หรือให้ติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูล หรือการฝังมัลแวร์ของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิงก์ที่มีคำว่า bit.ly
4.ควรกรอกข้อมูลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หากไม่แน่ใจให้ติดต่อสอบถามกลับไปหน่วยงานนั้น ๆ โดยตรงผ่านหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) และหากมีการให้ตั้งรหัส PIN จำนวน 6 หลัก ไม่ควรตั้งให้เหมือนกับรหัสธนาคารที่เราใช้อยู่ หากมีการขอข้อมูลที่ไม่จพเป็นให้สันนิษฐานว่ากำลังจะถูกหลอกลวง
5.หากผู้เสียหายหลงเชื่อกรอกข้อมูลไปยังเว็บไซต์ปลอมดังกล่าวแล้ว ให้รีบทำการเปลี่ยนรหัสผ่านทันที ทั้งเว็บไซต์หน่วยงานจริง อีเมล สื่อสังคมออนไลน์ รหัส PIN ธนาคารต่าง ๆ เป็นต้น
6.โดยปกติหน่วยงานภาครัฐไม่มีนโยบายที่จะติดต่อประชาชนทางโทรศัพท์ หรือการส่งข้อความสั้น (SMS) หากมีการติดต่อ ให้ขอรายละเอียดที่เกี่ยวข้องไว้เพื่อติดต่อกลับหน่วยงานนั้น ๆ ด้วยตนเอง รวมไปถึงการเพิ่มเพื่อนทางไลน์ หรือช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ
7.ติดตั้งและหมั่นอัพเดทโปรแกรม Anti-Virus อยู่เสมอ และติดตั้งแอปพลิเคชันผ่าน App Store หรือ Google Play เท่านั้น
8.แจ้งเตือน และเผยแพร่ไปยังคนใกล้ตัว หรือผู้อื่นเพื่อลดโอกาสในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
9.หมั่นคอยติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น แลระมัดระวังไม่หลงเชื่อการส่งข้อมูลต่อ ๆ กันทางสื่อสังคมออนไลน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี