เตือนภัย! แก๊งมิจฉาชีพมารูปในแบบใหม่อาละวาดในพื้นที่อำเภอบ้านดุง อุดรธานี เน้นเลือกชาวบ้านที่ไม่มีอาชีพและมีอาการป่วยทางจิตเวช ด้วยการเสนอค่าตอบแทนให้ 8,000 บาทหลอกให้ไปเป็นผู้เซ็นสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้ก่อนเชิดรถหนี ขณะที่พนักงานไฟแนนซ์มาตามหารถถึงบ้านพร้อมแจ้งให้ไปชำระหนี้และรอหมายศาล พ่อแม่หนุ่มถูกหลอกเป็นเหยื่อถึงกับช็อค อยู่ดีๆ กลายเป็นหนี้เกือบล้านบาท ทั้งๆ ที่บ้านไม่มีรายได้ ไม่มีรถสักคัน
วันที่ 3 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่คุ้มศรีผดุง หมู่ 7 ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ร้องเรียนผ่านนายวีระพล รักษ์เสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง และแอดมินเพจ บ้านดุงอัพเดตว่า มีใบสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ส่งมาที่บ้านทั้งที่ที่บ้านไม่มีรถและมีบริษัทไฟแนนซ์ มาตามยึดรถ เหตุเกิดกับชาวบ้าน 2 รายในพื้นที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังรับการร้องเรียนจึงประสานสื่อมวลชนร่วมตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงพบกับนางรำไพ อายุ 48 ปี อยู่หมู่ 7 คุ้มศรีผดุง ได้นำเอกสารหลักฐานสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทหนึ่งให้ดู ซึ่งสัญญาเช่าซื้อฉบับบนี้มีนายวราราม หรือ "แฟ้ป" อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นลูกชายและป่วยเป็นจิตเวช เป็นคนไปเช่าซื้อรถ Toyota revo Prerunner e plus Dual Cap 2.4 สีเทา ทะเบียนนครพนมในราคา 932,474.92 บาท ในสัญญาระบุให้มีการผ่อนชำระเดือนละ 11,101 บาท 84 เดือน
นางรำไพ เปิดเผยว่า เมื่อเดือน ต.ค.65 ได้มีนายหน้ามาชวนลูกชายตนและเพื่อนบ้านอีกคนบอกให้ไปเช่าซื้อรถยนต์ โดยให้ค่าจ้างลูกชายจึงไปโดยมีการเช่าซื้อรถในชื่อของลูกชาย กลับมาก็สอบถามลูกว่าได้เงินไหมลูกก็ตอบว่าได้มา 8,000 บาท และมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้คนอื่นๆ อีก 3 คนๆ ละ 1,000 บาท เหลือมาให้ลูกชาย 5,000 บาท สำหรับคนที่ไปชักชวนนั้นเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกเดียวกันชื่อนายเซียง โดยนายเซียงก็ไปและเป็นคนเช่าซื้อรถอีกคัน ส่วนคนที่มาให้ลูกชายตนซื้อรถให้นั้นตนไม่รู้จัก ตอนนี้ตนไม่รู้ว่ารถคันที่ลูกซื้ออยู่ไหนและใครเป็นคนเอาไป ทุกข์ใจอย่างมาก เพราะว่าตนก็ไม่มีความรู้และไม่มีรายได้ ส่วนลูกชายก็ไม่มีรายได้เป็นหลักป่วยจิตเวช แต่ทำไมถึงออกรถได้ รถก็ไม่ได้ใช้ จู่ๆ ก็มีสัญญาเช่าซื้อรถยนต์มาหาลูกชายที่บ้านว่าต้องผ่อนงวดรถเดือนละ 10,000 กว่าบาทจะเอาที่ไหนมาจ่าย รายได้จะหาเลี้ยงชีพก็ยังไม่มีเลยวันก่อนมีพนักงานไฟแนนซ์มาตามหารถที่บ้านด้วย อยากวอนขอความช่วยเหลือลูกชายถูกหลอกเช่าซื้อรถยนต์
จากสอบถามนายแฟ้บ เล่าว่า คนที่ชักชวนรู้แต่ว่าชื่อว่า บี้ เป็นรอง ผจก.ฝ่ายตลาดของเต็นท์รถแห่งหนึ่งที่บ้านนาโฮงเขามาหา และขอร้องให้ไปซื้อรถให้บอกว่าจะให้ 8,000 บาท ตนก็ตกลง ส่วนงวดในการผ่อนชำระนั้นเขายืนยันรับปากจะเป็นคนผ่อนเองไม่ให้เดือดร้อน แต่ขอใช้ชื่อตนเป็นคนเช่าซื้อ ยอมรับว่าตนอยากได้เงินค่าจ้างจึงไปออกรถ ส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าจะถูกหลอกเพราะว่าหลายคนก็ทำแบบนี้ ตนมีความเชื่อใจทั้งนี้หากตนเองถูกหลอกตนก็จะบุกไปถึงร้านทันที
ด้านนายสินชัย อายุ 52 ปี หรือนายเซียง ชาวบ้านอีกคน บอกว่า ตอนนั้นมีคนมาชักชวนให้ไปเช่าซื้อรถยนต์และไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ภายหลังไปเซ็นต์สัญญาเขาก็ให้เงินมา 8,000 บาท ยอมรับตนอยากได้เงินเพราะว่าไม่มีงานทำจึงตัดสินใจไป เท่าที่จำได้เป็นรถกระบะรีโว่ 4 ประตูโดยเมื่อเร็วๆ นี้มีตัวแทนบริษัทไฟแนนซ์มาตามหารถที่บ้านและแจ้งกับตนว่าตนเป็นหนี้ค้างชำระ จากนี้ขอให้รอหมายศาล รู้ว่าถูกหลอกแล้วจึงออกไปตามหาคนพาไปซื้อและรถยนต์พอไปเต๊นท์รถพบว่าเต๊นท์รถปิดไปแล้ว ตอนนี้รู้สึกทุกข์ใจอยากจะฆ่าตัวตายเพราะว่าคิดมาก จากนี้ก็จะพยายามติดตามหาตนคนที่มาหลอก
นายวีระพล รักษ์เสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง และแอดมินเพจ บ้านดุงอัพเดต เปิดเผยว่า พฤติกรรมแบบนี้ถือว่าชาวบ้านถูกหลอกจากนายหน้าจะเลือกชาวบ้านที่ไม่มีอาชีพหรืออาการป่วยจิตเวช เสนอเงินให้ คนเหล่านี้ก็อยากได้เงินจึงนำเอกสารไปประกอบเช่าซื้อรถยนต์ช่วงๆ แรกนายหน้าที่พาไปซื้อรถยนต์ก็จะจ่ายงวดอยู่ นานไปก็เชิดรถหนีไม่รู้เอารถไปที่ไหน หรืออาจจะถูกส่งไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ภาระก็ตกอยู่ผู้เช่าซื้อ ดูจากสภาพบ้านและครอบครัวของทั้ง 2 คนที่ถูกหลอกไม่น่าจะผ่อนงวดเดือนละหมื่นกว่าบาทได้ รวมระยะผ่อนแต่ละคนเป็นหนี้เกือบล้านบาทยังคงไฟแนนซ์ให้ผ่านได้ไงในเมื่อสภาพบ้านของผู้เช่าซื้อทั้ง 2 คนหาเช้ากินค่ำ คิดว่าน่าจะมีชาวบ้านโดนหลอกอีกหลายราย เบื้องต้นจะได้พาผู้เสียหายทั้ง 2 คนไปแจ้งความกับตร.สภ.บ้านดุงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี