เดือดร้อนหนัก! สถานประกอบการบันเทิงย่านปากเกร็ด “เล่นดนตรีเสียงดังสนั่น” รบกวนกลางดึกแทบทุกคืนกระทบสุขภาพจิตครอบครัว-เด็กเล็ก เจ้าทุกข์สุดทนเดินหน้าร้อง “ศูนย์ดำรงธรรม” ลงพื้นที่ตรวจสอบ
เจ้าทุกข์วัย 41 ปี ซึ่งได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบเรื่องเสียงดังรบกวนจากผับและร้านอาหารที่มีการขายสุรา เปิดเพลง และเล่นดนตรีสด โดยสถานที่ตั้งอยู่บนถนนประชาชื่น เลียบคลองประปา ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีบริเวณใกล้เคียงกับที่พักอาศัย ได้เดินทางไปยื่นเอกสารร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยมี นายนพดล สนมณี เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี เป็นผู้รับเรื่องและพูดคุยรายละเอียด พร้อมประสานเร่งรัดติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาเรื่องราวร้องทุกข์ที่เกิดขึ้น จากนั้นได้เดินทางไปยื่นเอกสารร้องเรียนต่อยังศูนย์ดำรงธรรม สำนักงานเทศบาลนครปากเกร็ด ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการเจ้าของพื้นที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง โดยเจ้าหน้าที่ได้รับเอกสาร หนังสือแบบฟอร์มร้องเรียน สำเนาบันทึกใบแจ้งความไฟล์รูปภาพ คลิปวีดีโอ สถานที่ตั้ง และสภาพเสียงรบกวน พร้อมดำเนินการประสานไปยังกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบต่อไป
ผู้ร้องทุกข์ กล่าวว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาเป็นเวลา 8-9 ปี ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีปัญหาอะไร ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนคนทั่วไป กระทั่งช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้มีร้านอาหารและผับมาเปิดให้บริการบริเวณหลังบ้าน ห่างไปประมาณ 20 เมตร จึงเกิดผลกระทบขึ้นตามมา โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการเปิดเพลงและเล่นดนตรีสดเสียงดัง โดยร้านแรกเปิดเป็นร้านอาหาร Open Air มีวงดนตรีสดช่วงเวลาที่เสียงเพลงดังมากๆ จะอยู่ระหว่างเวลา 22.00-24.00 น. ส่วนร้านที่สองเป็นผับปิดทึบจะเปิดเพลงดังต่อเนื่องมาจากร้านแรก คือ ช่วงเวลา 24.00-03.00 น. ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นแทบจะทุกวัน ทำให้เสียสุขภาพจิต และสุขภาพร่างกาย เพราะได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ แถมยังทำงานที่ต้องใช้สมาธิไม่ได้ บางครั้งถึงขั้นมีอาการหูแว่วได้ยินเป็นเสียงเบสเบาๆ ตลอดเวลา สิ่งสำคัญที่สุด ในบ้านมีทั้งผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และภรรยาตนเพิ่งตั้งท้องได้เพียง 3 เดือน บางวันเธอจะมีอาการปวดท้องเพราะความเครียด
“ความทุกข์ตรงนี้มันสะสมและกินเวลามาเป็นเวลากว่า 2 ปี ซึ่งมีเจ้าของร้านต่างผลัดเปลี่ยนมือกันเข้ามาทำธุรกิจเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยและประนีประนอมกันได้ก็พยายามปรับตัวอยู่กันไป ไม่ได้ร้องเรียนอะไร เพราะว่าแนวเพลงของเขาไม่ได้อึกทึกครึกโครมเหมือนช่วงระยะ 2-3 เดือนหลังที่ผ่านมานี้ที่เปลี่ยนเป็นเจ้าของคนใหม่ และเขาเหมือนไม่สนใจอะไร ตอนนี้มาถึงจุดที่รุนแรงมากจนกระทั่งผมอยู่ไม่ได้ ผมกับภรรยาพักอาศัยอยู่บนชั้น 4 ของตัวบ้าน แต่ด้วยมลพิษทางเสียง ทำให้เราตัดสินใจออกไปเช่าห้องอยู่กันข้างนอกเพื่อหลบหลีกปัญหานี้ไว้ชั่วคราว ห้องนอนบางห้องต้องกลายมาเป็นห้องเก็บของ เพราะไม่สามารถใช้หลับนอนยามค่ำคืนได้” ผู้เดือดร้อนรายนี้ กล่าว
ผู้เดือดร้อน ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ที่เกิดปัญหาเสียงดังรบกวนมากๆ ช่วงกลางดึกตนได้มีการโทรศัพท์ไปยังสภ.ปากเกร็ด เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลให้ทางร้านเบาเสียงเพลงลง ซึ่งเจ้าหน้าที่สายตรวจทำได้แค่ตักเตือน เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง เมื่อสายตรวจกลับไป เสียงดนตรีก็ดังต่อคง ทำให้ต้องตัดสินใจเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.ปากเกร็ด เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2566 แต่เหตุการณ์ที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายได้เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งทำให้ความอดทนของตนสิ้นสุดลงคือ คืนวันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 วันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่คนออกมาเที่ยวกินดื่มกันเยอะมาก วันนั้นตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะเสียงดนตรีที่ดังสนั่น กระจกบ้านสั่นสะเทือน จนนอนหลับพักผ่อนกันไม่ได้ ต้องติดต่อประสานไปยังหน่วยงานตำรวจหลายแห่ง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสภ.ปากเกร็ด แต่กว่าเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึงก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง แต่ก็ทำได้เหมือนเดิมคือตักเตือนเพื่อให้เบาเสียงดนตรีลงเพียงเท่านั้น แล้วตนจะต้องมาโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบนี้ทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้นเลยหรือ
“สำหรับผมไม่ได้มีปัญหากับการประกอบกิจการของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนหรือแขกที่มาเที่ยว เพียงแต่เรามีปัญหากับเสียงที่มันดังมากจนเราไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านให้เป็นปกติสุขได้ผมแค่ต้องการอยากให้ทางร้านมีการปรับปรุงหรือทำอย่างไรก็ได้เพื่อไม่ให้เสียงดนตรีดังสนั่นออกมารบกวนคนอื่น ให้เราสามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ ก่อนหน้านี้เคยไปพูดคุยกันมาแล้ว ก็แจ้งว่าจะปรับปรุง แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย จึงต้องฝากเจ้าหน้าที่ด้วยครับ” เจ้าทุกข์รายดังกล่าวระบุ
ทั้งนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เคยเปิดเผยรายงานวิจัยข้อร้องเรียนจากเหตุเดือดร้อนรำคาญ พบว่า “ปัญหาเสียงดัง” ติดอันดับ 1 ใน 3ข้อร้องเรียนทั่วประเทศเฉลี่ยร้อยละ 40 ของเหตุเดือดร้อนรำคาญทั้งหมด เป็นข้อร้องทุกข์ที่พบมากที่สุดในทุกภูมิภาคของประเทศไทย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี