nn น่ากลัวอย่างมากสำหรับฝุ่นควันพิษที่เข้ามาปกคลุม กทม. เพราะมีปริมาณมาก โดยว่ากันว่าเลวร้ายเป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งก็เป็นไปตามการคาดการณ์ของกรมควบคุมมลพิษสำหรับช่วงที่มีอากาศปิด การเคลื่อนตัวของกระแสลมน้อย ยิ่ง กทม.มีการใช้รถยนต์หนาแน่น โรงงานอุตสาหกรรมควบคุมกันไม่ได้ ตรงนี้ถือว่าอันตรายอย่างมาก...
nn แน่นอนเมื่อสภาพอากาศมีสภาพเลวร้ายต่อระบบการหายใจ กทม.ก็ตกเป็นจำเลยสังคมทันทีว่า ทำไมถึงจนปัญญาแก้ไข ซึ่งถือเป็นการพูดการวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีหน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบมากมายทั้งกระทรวงและกรม ส่วน กทม.แค่ปลายแถวหางแถวที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่า “แจ้งเตือน” หรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น...
nn ที่สำคัญมาตรการเด็ดขาดสั่งห้ามนั้นห้ามนี้ เช่น ห้ามโรงงานอุตสาหกรรมใน กทม.ปล่อยควันพิษ ตรงนี้สุดห้ามยาก เพราะไม่มีอำนาจ อนิจจาแม้แต่จะห้ามรถปล่อยควันดำวิ่งบนถนนก็ยังกระทำไม่ได้ และเป็นมาอย่างนี้ต่อเนื่อง อำนาจหน้าที่ใหญ่หลักๆ ล้วนอยู่ที่หน่วยงานส่วนกลาง ดังนั้นเรื่องนี้คน กทม.และเมืองใหญ่ๆ ยังต้องพบเจอเสพสูบอากาศ “มรณะ” ต่อไปทุกปี...
nn ล่าสุดมีการแจ้งเหตุจากประชาชนคนรักสิ่งแวดล้อมท่ามกลางอากาศปิดมลพิษปกคลุมเมืองหนาแน่นว่า ที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน (กลางเมืองหลวง) โรงงานริมถนนเสรีไทยยังปล่อยควันดำขาวไม่แย่แสสนใจปัญหาดังกล่าวเลย หรือแม้กระทั่งรถมักง่ายมีพฤติกรรมโสโครกปล่อยควันดำกันไม่เปลี่ยนแปลง รถเมล์ ขสมก.หลายคันก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ใครดูแลรับผิดชอบก็ควร “แหกตา” ลงมือตัดไม้ข่มนามกันเสียบ้างจะดีไม่น้อย การนั่งพูด “หาวเป็นดาวเดือน” หรือวาดวิมานในอากาศมันไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ยอมรับเถอะว่ามูลเหตุอันหนึ่งถือว่าสำคัญสุดๆ ที่ก่อเกิดปัญหาอากาศเลวร้าย คือ โรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงค่าออกเทนต่ำ...
nn คน กทม.ถามถึงผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าจะทำอย่างไรกับบ้านเมืองเวลานี้ เนื่องจากมีป้ายนักการเมืองทุกพรรคปิดสะเปะสะปะไปทั่ว เสมือนหนึ่งกำลังมีการเลือกตั้ง ทำไม กทม.จึงปล่อยวางไม่จัดเก็บ ตรงกันข้ามป้ายของประชาชนจัดเล่นกันเกลี้ยง...
nn ประเด็นนี้พูดตรงไปตรงมาผู้ว่าฯ ชัชชาติ “กลืนเลือด” เพราะทำสกปรกกันทุกพรรคการเมือง ช่วงเลือกตั้งพออนุโลม แต่ตอนนี้กกต.ยังไม่ประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง และยังไม่มีการรับสมัครใดๆ แล้วอย่างนี้จะเป็นตัวอย่างให้ประชาชนเจ้าของป้ายประกาศปฏิบัติ “เคร่งศีล” ได้อย่างไร เขาก็ต้องเลียนแบบ “ห่วย” เช่นกัน ที่จริงประเด็นดังกล่าว กทม.ควรหัดพูดไว้บ้าง ฝึกหัดพูดกับเด็กนักเรียนก็ได้ การ “รักนวลสงวนตัวกลัวเสียสาว” มันเสียหาย...
nn สุดท้ายเห็นด้วยกับผู้ว่าฯกทม.และปลัด กทม.ที่เด็ดขาดกับครูโรงเรียนบางขันเรียกรับเงิน เรื่องพรรค์อย่างนี้ถ้าตรวจสอบให้ดีๆมีทุกระดับสำหรับโรงเรียนดังๆ ที่ออกมาในลักษณะการเลี่ยงบาลีว่า “บริจาค” ทั้งของกทม.เอง และของรัฐฯ โรงเรียนสังกัดมหาวิทยาลัยหลายแห่งปัจจุบันก็ทุเรศไม่ต่างกัน...nn
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี