มท.เร่งเดินหน้า
บริหารจัดการน้ำยั่งยืน
กำชับผู้ว่าฯ-นายอำเภอ
พัฒนาคุณภาพชีวิตปชช.
มท.เดินหน้าขับเคลื่อนผังภูมิสังคมเพื่อบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน-ชุมชนแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน กำชับ “ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ” สร้างทีมภาคีเครือข่ายในพื้นที่บูรณาการช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน
เมื่อวันที่ 9กุมภาพันธ์2566 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงและให้ความรู้การจัดทำผังภูมิสังคมเพื่อบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo–Social Map) โดยได้รับเมตตาจาก พระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุม โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายปรีชา เดชพันธ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง คณะที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ร่วมประชุม โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference และ DOPA Channel ร่วมกับผู้ว่าราชการทุกจังหวัด และนายอำเภอ ทั่วประเทศ
โดย ปลัด มท.กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อยืนยันถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของชาวมหาดไทยและภาคีเครือข่ายทั้ง 7ภาคี อันได้แก่ ภาครัฐ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน ในการร่วมกันสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” โดยมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมดังพระบรมราชโองการ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงมหาดไทยในหลายมิติด้วยกัน เฉกเช่นที่พวกเราพยายามกระตุ้นปลุกเร้า ส่งเสริมให้นายอำเภอ และทีมอำเภอ ได้เป็น Change Agent ตามโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน จึงเป็นเครื่องบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า พวกเราทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงานด้วยการบูรณาการความร่วมไม้ร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อจะยังประโยชน์สุขไปสู่พี่น้องประชาชนโดยรวม สมดังเจตนารมณ์ในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ทำให้ประชาชนมีความสุข ประเทศชาติมีความมั่นคง และที่สำคัญที่สุด “ต้องยั่งยืน”
“การจัดทำผังภูมิสังคมเพื่อบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – Social Map) จะช่วยนำเราไปสู่เป้าหมายการปฏิบัติภารกิจเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ สิ่งที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงนั้น ก็เพราะว่าการใช้ชีวิตของพวกเราตั้งแต่บรรพบุรุษ อาจจะเผลอกระทำ หรือตั้งใจกระทำ โดยที่ไม่ได้เจตนาหรือคิดว่าจะกลายเป็นสิ่งผิด เช่น เราปล่อยปะละเลยในการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำคูคลอง ไม่ปลูกสร้างสิ่งรุกล้ำทางน้ำ ไม่ทำสิ่งที่กีดขวางทางน้ำ เพราะเราเจตนาอยากทำให้พี่น้องประชาชนมีความสะดวกในการเดินทางสัญจรด้วยการสร้างถนน ซึ่งถนนบางสายก็ไม่ได้มีระดับสูงกว่าแม่น้ำ เท่านั้น แต่ก็ยังมีระดับสูงกว่าหลังคาบ้านเรือนประชาชนด้วย นั้นเป็นสิ่งที่เราทำให้เกิดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพราะเป็นถนนที่เราสร้างข้ามลำห้วยลำคลองข้ามแม่น้ำสายเล็ก ๆ เราไม่ได้ทำให้พื้นที่ใต้ถนนให้มันมีทางที่น้ำจะสามารถไหลผ่านได้โดยสะดวก หรือในบางพื้นที่ ประชาชนก็ไปสร้างบ้านริมถนนไปถมดินเชื่อมถนนทับทางน้ำและไม่ได้ใส่ท่อระบายน้ำ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจ เพราะเขาไม่รู้ เฉกเช่นเดียวกับผลกระทบของแนวทางการพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่มุ่งยกระดับการพัฒนาโดยไปส่งผลกระทบทำให้ชาวไร่ชาวนาไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ สูญเสียที่ดินทำไร่ทำนาที่ตกทอดมา หรือมีผลผลิตที่ไม่มีคุณภาพ ขายไม่ได้ราคา ซึ่งก็เป็นความไม่เจตนา จึงถึงเวลาที่พวกเราต้องช่วยหาแนวทางในการ “แก้ไขในสิ่งที่ผิด” มุ่งมั่นตั้งใจเป็นข้าราชการที่ดีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปลุกไฟในหัวใจของตัวเองขึ้นมา และยอมรับว่าประเทศไทยก็ยังมีสิ่งที่ผิดอยู่ และพวกเราต้องร่วมกันขับเคลื่อนในการแก้ไขสิ่งที่ผิดนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญผู้มีความรู้ความสามารถมาช่วยกันศึกษาวางระบบเพื่อทำให้ประเทศไทยได้มีฐานข้อมูลในเรื่องแหล่งน้ำและที่อยู่ของน้ำตามสภาพข้อเท็จจริงที่เคยเป็นมาตั้งแต่ในอดีตจากผู้ที่รู้จริง นั่นคือ “พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน/ตำบล/หมู่บ้าน” เพราะเขารู้ว่าที่ไหนเคยมีหนองน้ำ ร่องเขาตรงไหนเคยมีทางน้ำผ่าน รวมทั้งการทำทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจส่งผลกระทบทำให้แหล่งน้ำนั้นสูญเสียไปอย่างไร โดยการน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” มาใช้ในการขับเคลื่อน ซึ่งการจะเข้าใจ เข้าถึงได้นั้น ข้าราชการในฐานะที่เป็นผู้นำ ต้องไปช่วยกันทำไฟในใจของเราให้ลุกโชนขึ้นมา เพื่อต่อไฟไปจุดในใจของพี่น้องประชาชนและภาคีเครือข่าย ทั้ง 7 ภาคี ให้ช่วยกันลงมือทำให้เรามีสิ่งที่เป็นองค์ความรู้เพื่อใช้ในการศึกษาและเข้าใจข้อเท็จจริง นำไปสู่แนวทาง (Solution) ที่จะวางแผนพัฒนาร่วมกันแก้ไขในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดในอดีต แล้วลุกขึ้นมาร่วมกันทำต่อไปในอนาคตอันใกล้ “จึงเป็นจุดเริ่มต้น” ที่จะทำให้เราสามารถเดินหน้าได้ด้วยความถูกต้อง ด้วยการศึกษาทำความเข้าใจองค์ความรู้และนำงบประมาณที่ได้รับจัดสรรให้กับทุกจังหวัดอย่างจำกัดไปสนับสนุนการทำงานของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด โดยไม่คิดว่าข้อจำกัดเหล่านั้นจะทำให้เราทำงานไม่สำเร็จ ซึ่งเราจะต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้เห็นถึงความตั้งใจจริงที่อยากให้เกิดการจัดทำผังภูมิสังคมเพื่อบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า“คน”ต้องปลุกอุดมการณ์การเป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาย้ำเตือนตนเองและมุ่งมั่นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขับเคลื่อนงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดจากการพัฒนาเมืองที่เกิดผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมวลมนุษยชาติ
ทั้งนี้ ในรอบ10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องสูญเสียทรัพยากรต่าง ๆ จากอุทกภัยหรือน้ำท่วม ไม่ต่ำกว่า 1.44 ล้านล้านบาท ไม่นับรวมผลกระทบความเสียหายทางเศรษฐกิจที่แท้จริง เพราะความเสียหายองค์รวมนั้นมีมูลค่ามากยิ่งกว่านั้น โดยจากสถานการณ์ที่ผ่านมา ขณะนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก้ได้มีความห่วงใยและดำเนินการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมด้วยการอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือกรอบวงเงินเพิ่มเติมจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งก็ยังไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากภัยแล้ง และภัยอื่น ๆ ที่ส่งผลทำให้พืชพรรณผลผลิตทางการเกษตรได้รับผลกระทบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี