ผลสำรวจพบคนไทยใช้กัญชาเพื่อสันทนาการมากกว่ารักษาโรค
13 ก.พ. 2566 สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย เผยแพร่จดหมายข่าว สรุปบทเรียนจากวงเสวนา “ผลกระทบจากนโยบายกัญชา บทเรียนจากต่างประเทศและข้อห่วงใยจากประชาชน” เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ โดยมีผู้ร่วมเสวนา 4 ท่าน คือ ดร.สุริยันต์ บุญแท้ ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ , นายยศกร ขุนภักดี ผู้ประสานงาน ผู้แทนกลุ่มเครือข่ายเยาวชน ไม่นะกัญชาและยาเสพติด (YNAC) นพ.บัณฑิต ศรไพศาล นักวิทยาศาสตร์ จาก Centre for Addiction and Mental Health (CAMH) ประเทศแคนาดา และ ศ.ดร.เจอเกน เรห์ม (Prof.Dr.Jurgen Rehm) จาก CAMH ประเทศแคนาดา
โดย ดร.สุริยันต์ เปิดเผยว่า ผลการศึกษากลุ่มผู้ใช้กัญชาระหว่างปี 2563- 2565 แบ่งเป็น ปี 2563 ศึกษากลุ่มอายุ 15-65 ปี จำนวน 41 ล้านคน พบว่าในรอบ 12 เดือน มีการใช้กัญชาทางการแพทย์ 400,000 คน ใช้เพื่อสันทนาการ 1.1 ล้านคน ปี 2564 ศึกษากลุ่มอายุ 18-65 ปี ประมาณ 44 ล้านคน พบใช้ทางการแพทย์ 200,000 คน ใช้เพื่อสันทนาการ 1.89 ล้านคน ซึ่งใน 2563-2564 เป็นปีที่สันทนาการผิดกฎหมาย ส่วนในปี 2565 ที่กัญชาถูกถอดออกจากยาเสพติดแล้ว จึงศึกษาในกลุ่มอายุ 18-65 ปี ประมาณ 44 ล้านคน พบใช้เพื่อสันทนาการ 11 ล้านกว่าคน เทียบความชุกของประชากรปี 2564 อยู่ที่ 4.3% เป็น 24.9 % หรือเพิ่มขึ้น 20% ถ้าดูจำนวนคนใช้ก็เพิ่มจาก 1.89 คน เป็น 11 ล้านคน คิดเป็น 900 %
“อย่างไรก็ตาม ในจำนวน 11 ล้านคน จะมีประมาณ 8 ล้านคน ใช้กัญชาที่ผสมในอาหารต่างๆ และมีคนอายุต่ำกว่า 20 ปี ประมาณ 3 แสนคน ที่ใช้แบบพันลำและผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขณะที่ความชุกในการใช้ทางการแพทย์เพิ่มเพียงแสนกว่าคน ความชุกเพิ่มแค่ 0.3 % เท่านั้น สะท้อนว่าเมื่อเปิดเสรีคนต้องการใช้เชิงสันทนาการมากกว่าทางการแพทย์ ขณะที่กฎหมายดูแลมีเพียง พ.ร.บ.การสาธารณสุข ควบคุมการใช้ในที่สาธารณะเท่านั้น แต่ตัวอื่นๆ ยังไม่เกิด จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วง” ดร.สุริยันต์ กล่าว
นายยศกร ผู้แทนกลุ่มเครือข่ายเยาวชน YNAC กล่าวว่า ที่ผ่านมามักมีการสื่อสารถึงแต่ข้อดีของกัญชาเท่านั้น ไม่ค่อยพูดถึงผลกระทบ ทั้งนี้มีปัญหามากโดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน ซึ่งมีโรงเรียนหลายแห่งสุ่มตรวจสารกัญชาในนักเรียน บางแห่งพบถึง 40 คน ดังนั้นตนจึงจัดโครงการร้อยผลกระทบจากกัญชาในกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งรณรงค์ให้เห็นผลกระทบ จนทำให้เกิดพื้นที่โรงเรียนปลอดกัญชา 100% หลายพื้นที่
“ที่น่ากังวลคือมีโอกาสพูดคุยกับสารวัตรนักเรียนหลายคนถอดใจที่จะทำหน้าที่ต่อ เพราะเวลาเจอนักเรียนทำผิดไปบอกครูกลับถูกคุกคาม นอกจากนี้เวลาครูขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยภายในโรงเรียน แต่ตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นหากศาลปกครองหรือผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรับทราบข้อมูลนี้ อยากให้คิดให้ดีๆ ว่ากัญชาควรเสรีหรือไม่ ขอวิงวอนศาลปกครองอยากให้ศาลพิจาณายกเลิกประกาศปลดล็อคกัญชาไปก่อน เพราะหากปล่อยไป 3 ปี 10 ปี ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสังคมและเยาวชน” นายยศกร กล่าว
นพ.บัณฑิต กล่าวว่า จากการติดตามทางโซเชียลมีเดียหลังกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศปลดล็อคกัญชาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.-8 ก.ค. 2565 พบว่า มีคนโพสต์ขายกัญชาครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5 เท่า ข้อความขายเพิ่มขึ้น 30 เท่า ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ผลกระทบการแพร่ระบาดกัญชามีมาก ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … ยังไม่ผ่านสภา เพราะต่อให้แก้ไขอย่างไรก็ยังเป็นกฎหมายเพื่อสันทนาการ
ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการยกเลิกประกาศปลดกัญชาออกจากยาเสพติดก่อน แล้วมาคิดให้ดีว่าประเทศไทยจะเอากัญชาแบบใด แล้วออกแบบควบคุมให้เหมาะสม เพราะที่ทำอยู่นั้นเป็นการดำเนินนโยบายที่ผิดมาตั้งแต่แรก เนื่องจากที่ประชุมบอร์ด ป.ป.ส.มีมติปลดฯ วันที่ 25 ม.ค. 2565 บอกชัดว่าต้องมีมาตรการควบคุมภายใน 120 วัน แต่วันที่ 26 ม.ค.2565 กลับยื่น พ.ร.บ.กัญชาฯ เลย และประกาศปลดฯ มีผลวันที่ 9 มิ.ย. 2565
“กลายเป็นการปลดล็อคโดยไม่มีกฎหมายควบคุม เกิดเป็นภาวะสุญญากาศ และถือเป็นการฝ่าฝืนมติบอร์ด ป.ป.ส.ที่ให้มีการควบคุมใน 120 วัน แต่กว่า สธ.จะทำก็ล่าช้ามาถึงกว่า 5 เดือน ค่อยออกประกาศคุมดอกกัญชาหลังจากที่มีคนไปฟ้องศาลปกครอง ดังนั้น ขอส่งสารไปถึงนักการเมืองที่กำลังเดินเข้าสู่การเลือกตั้ง และหมายเหตุถึงรมว.สธ.ใหม่ ว่า รมว.สธ.โดยความเห็นชอบของ ป.ป.ส.สามารถยกเลิกประกาศปลดล็อคกัญชาได้ แล้วไปทำให้กัญชาทางการแพทย์ดีขึ้น” นพ.บัณฑิต กล่าว
ศ.ดร.เจอเกน กล่าวว่า กัญชาเสรีในแคนาดาจะค่อยๆ ปลดล็อกเป็นขยัก เพราะต้องการแก้ปัญหาการใช้กัญชาใต้ดินที่มีจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหลังปลดล็อคก็ยังมีการควบคุมอย่างเข้มข้น เช่น จำกัดการปลูกในบ้านไม่เกิน 4 ต้น ร้านค้าต้องถูกควบคุมจากพาณิชย์ ปกปิดมิดชิด ห้ามขายผ่านตู้ ห้ามโฆษณา และมีการจัดเก็บภาษี อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ถือว่าสร้างผลกระทบ ทีมแพทย์จึงมองว่าการใช้ควรมีหลักฐานทางวิชาการ
“มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมากัญชาขับรถปีละราว ๆ 250 คน รักษาความเจ็บป่วยที่เป็นผลกระทบจากกัญชาปีละเป็นแสนคน ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมพยายามบอกว่าจะช่วยแก้ปัญหาคนตกงานได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลแคนาดาจะตัดสินใจอย่างไร แต่ได้มีการตั้งทีมที่มีผู้เกี่ยวข้องว่าตกลงจะมีการกำกับดูแลอย่างไร” ศ.ดร.เจอเกน กล่าว.-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี