ทลายโกดังเถื่อน

ปลอมเครื่องสำอาง-ยาสีฟัน

ส่งขายเกลื่อนร้านค้าออนไลน์

ยึดของกลางอื้อมูลค่ากว่า14ล.

บก.ปคบ.ร่วมกับอย. บุกทลายโกดังเครื่องสำอางแบรนด์ไทยปลอมหลากยี่ห้อ และยาสีฟันปลอมยี่ห้อดัง มูลค่าของกลางกว่า 14 ล้านบาทยึดของกลางได้กว่า 70 รายการ 6.7 หมื่นชิ้น พบจ้างคนงานจีนดูแล โดยมีนายทุนจีนสั่งการเบื้องหลัง ขณะเดียวกัน ยังบุกค้น 4 โกดังสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าปลอมไม่มี มอก. เสียหายกว่า 2.5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วยนพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมแถลงผลการปฏิบัติงานกรณีทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้าเครื่องสำอางแบรนด์ไทยปลอมหลากยี่ห้อและกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดัง โดยล่อซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตรวจยึดของกลางได้มากกว่า 70 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 14,000,000 บาท

พล.ต.ท.จิรภพกล่าวว่า ปฎิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) รับเรื่องร้องเรียนจาก บริษัท เทพไทย โปรดัคท์ จำกัดว่า พบผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสมุนไพรยี่ห้อเทพไทยปลอม ระบาดในตลาดออนไลน์จำนวนมาก จึงสืบสวนจนทราบว่ามีการจำหน่ายยาสีฟันสมุนไพรเทพไทยปลอมบนแพลตฟอร์มขายออนไลน์จริง โดยกลุ่มคนทำผิดลักลอบนำสินค้าปลอมเข้ามาจากประเทศจีน มาเก็บไว้ที่โกดังเก็บสินค้าในเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เพื่อบรรจุส่งขายให้ลูกค้า

พฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาคือ จะสับเปลี่ยนบัญชีที่รับโอนเงินค่าสินค้าและสถานที่จัดเก็บสินค้าตลอดเวลา รวมถึงเปลี่ยนแปลงชื่อร้านในแพลตฟอร์มขายออนไลน์ชื่อดัง ระหว่างเดือน ตุลาคม 2564 - ธันวาคม 2565 เกินกว่า 10 ครั้ง และใช้รถขนส่งเอกชนจัดส่งสินค้าในลักษณะอำพราง ให้ตรวจสอบได้ยาก อีกทั้ง พบหลักฐานความเชื่อมโยงว่ามีร้านค้าออนไลน์ที่เครือข่ายดังกล่าวใช้ที่อยู่หน้ากล่องสำหรับจัดส่งพัสดุสำหรับการขายสินค้าในแพลตฟอร์มขายออนไลน์ชื่อดัง 18 ร้าน

กระทั่งวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ร่วมกับ อย. นำหมายค้นศาลอาญาพระโขนง เข้าค้นสถานที่เก็บสินค้าในเขตประเวศ 2 จุดคือ บ้านเลขที่ 7/58 ซอยสุภาพงษ์ 1 แยก 12 แขวงหนองบอน ใช้เป็นสถานที่เก็บและแพ็คสินค้าปลอมส่งให้ลูกค้า ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ยาสีฟันปลอม ยี่ห้อเทพไทยได้ 36 หลอดและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห้ออื่นที่ต้องสงสัยว่าปลอม 21 รายการ และที่บ้านเลขที่ 234 หรือ 70/70 หมู่บ้านนุชเวศน์ ซอยอ่อนนุช 70/1 แขวงประเวศ ยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ต้องสงสัยว่าปลอม รวม 8 รายการ และกระเป๋าแบรนด์เนมปลอมพร้อมกล่องบรรจุภัณฑ์ 3 รายการ รายละเอียดดังนี้ กระเป๋าถือ ยี่ห้อ หลุยส์ วิตตอง 30 ใบ กระเป๋าถือ ยี่ห้อ กุชชี่ 35 ใบ กระเป๋าถือยี่ห้อ อีฟ แซง โรลองท์ 2 ใบ

ผบช.ก.กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนขยายผลยังพบว่า สินค้าปลอมดังกล่าวส่งมาจากโกดังเก็บสินค้าในจ.สมุทรปราการ ต่อมาวันที่ 7 กุมภาพันธ์ร่วมกับ อย. นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้น บริษัท โลจิสติกส์แห่งหนึ่ง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ต้องสงสัยว่าปลอม 16 รายการ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 จำนวน 14 รายการ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 จำนวน 1 รายการ, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จำนวน 1 รายการ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.สมุนไพร พ.ศ.2562 จำนวน 2 รายการ

รวมตรวจค้นทั้งหมด 3 จุดตรวจยึด 1.ยาสีฟันปลอมยี่ห้อเทพไทย 36 หลอด, 2. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่นที่ต้องสงสัยว่าปลอม ตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 จำนวน 45 รายการ มากกว่า 37 ยี่ห้อ 3.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 จำนวน 14 รายการ 4. ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 จำนวน 1 รายการ 5.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จำนวน 1 รายการ 6.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.สมุนไพร พ.ศ.2562 จำนวน 2 รายการ และกระเป๋าถือแบรนด์เนม 67 ใบ รวมของกลาง 67,430 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 14,000,000 บาท ในส่วนผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดอื่น อยู่ระหว่างติดต่อตัวแทนแต่ละบริษัทเพื่อมายืนยันเพิ่มเติม

พล.ต.ท.จิรภพกล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบเครือข่ายดังกล่าวพบว่ามี Mr.Zhong หรือนายจง (สงวนนามสกุล) สัญชาติจีน เป็นผู้ดูแล เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.แจ้งข้อกล่าวหา นายจงความผิดฐานขายเครื่องสำอางปลอมตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ตามพ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534” โดยนายจงให้การปฏิเสธ แต่รับว่ามีหน้าที่นำสินค้าปลอมมาบรรจุจัดส่งให้ลูกค้าตามคำสั่งซื้อ มีนายทุนชาวจีนสั่งการ ได้รับค่าจ้างออเดอร์ละ 7-8 บาท เฉลี่ยวันละ 500-1,000 ออเดอร์ โดยนายจงรับว่าทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน ตำรวจเร่งขยายผลถึงตัวผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป

สำหรับพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นความผิดตามพ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ฐานขายเครื่องสำอางปลอมมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม โทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.จิรภพยังแถลงถึงปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม บก.ปคบ.ที่สืบสวนจนพบการทำผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(ไม่มี มอก.) และผลิตภัณฑ์ที่ปลอมยี่ห้อแบรนด์ดังที่ไม่มี มอก. ทั้งจากช่องทางออนไลน์ การลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และตรวจสอบร้านจำหน่าย จนนำไปสู่การเข้าตรวจค้นแหล่งผลิตและกักเก็บผลิตภัณฑ์ที่ไม่มี มอก.ทั้งหมด 4 จุดคือ โกดังเก็บสินค้า อ.เมือง จ.นครปฐม อาคารพาณิชย์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร โกดังเก็บสินค้า เขตบางขุนเทียน กทม.และ อาคารพาณิชย์ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

ผลการตรวจค้น พบของกลางเป็น เครื่องรับวิทยุ (ปลอม) ไม่มี มอก. 2,460 หน่วย แบตเตอรี่สำรองไม่มี มอก. 1,880 หน่วย เตาย่าง เตาปิ้ง และเครื่องทำอาหารที่เคลื่อนย้ายได้ ไม่มี มอก. 112 หน่วย ลำโพงซาวน์บาร์ 90 หน่วย พัดลมไฟฟ้ากระแสสลับ 34 หน่วย มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,500,000 บาท เป็นการข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพ.ศ.2511 คือ ทำหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต เข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักร เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 20, 21 โทษตามมาตรา 48 จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่าย ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำหรือนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักร เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 36 โทษตามมาตรา 55 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังเข้าข่ายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 110 ประกอบ 108 มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท