“ตรีนุช” มอบนโยบาย อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ใหม่ 245 เขต เน้นธรรมาภิบาลความโปร่งใสบริหารงานบุคคล
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบนโยบายการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา “เปลี่ยนผ่านความหวังและความท้าทาย : จาก กศจ. สู่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา” โดยมีนายอรรถพล สังขวาสี ปลัด ศธ. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 245 เขต แต่ละเขตพื้นที่มีองค์คณะบุคคล เขตละ 11 คน รวมเป็น 2,695 คน เข้าร่วมการประชุมว่า ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงของการก้าวข้ามและเปลี่ยนผ่านการบริหารงานบุคคล จากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) มาเป็น อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ โดยเจตนารมย์ของการตั้ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ก็เพื่อต้องการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่พื้นที่มากยิ่งขึ้น เราต้องยอมรับว่าบริบทของการศึกษาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ก็ยิ่งตอกย้ำ ว่า เราต้องพัฒนาการศึกษา แต่จะทำอย่างไร ให้การจัดการศึกษามีความยืดหยุ่น คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การกระจายอำนาจสู่พื้นที่จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ถือเป็นองค์คณะที่สำคัญ เพราะนอกจากดูแลบริหารงานบุคคลจัดสรรคนให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่แล้ว ยังมีหน้าที่การประสานงานด้านต่าง ๆให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการศึกษาในระดับภูมิภาค ลดความซ้ำซ้อน พร้อมผลักดันการทำงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา
"ได้เน้นย้ำให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ยึดหลักธรรมาภิบาลการทำงาน การดำเนินงานต่างๆ ต้องโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับครู และบุคลากรทางการศึกษา ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านนี้ อยากจะให้ กศจ. และ ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) มากำกับติดตาม ช่วยดูแล และเป็นพี่เลี้ยงส่งมอบงานต่าง ๆ ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ เพื่อให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ดิฉัน ได้มอบหมายให้ ก.ค.ศ. ลงไปติดตามและประเมินผลการทำงานของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ในช่วง 3-6 เดือนแรก ว่ามีการทำงานเป็นอย่างไร มีเกณฑ์อะไรที่ควรปรับปรุงเพื่อทำให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ สามารถทำงานบริหารงานบุคคลได้อย่างโปร่งใส สร้างขวัญกำลังใจให้กับครู และสอดรับกับการศึกษาในบริบทของพื้นที่" น.ส.ตรีนุช กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลว่าเมื่องานบริหารบุคคลกลับมาที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จะทำให้เกิดปัญหาเรียกรับผลประโยชน์เหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า หากมีเรื่องไม่โปร่งใสเกิดขึ้น ศธ.ก็พร้อมจะตรวจสอบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากคนหรือระบบ และจะปรับปรุงให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้การบริหารงานเกิดความโปร่งใส และเป็นธรรม
ด้านนายอัมพร กล่าวว่า อยากให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เพราะหากเราย้อนกลับไปดูโครงสร้างการบริหารงานบุคคลตั้งแต่ที่มี อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ เดิม จะเห็นว่าการได้มาของคณะกรรมการ มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งตนเชื่อว่า หากดำเนินการตามระบบที่กำหนดไว้ คือ เลือกตั้งและได้คนมาอย่างสุจริต มีการทำงานที่เที่ยงธรรม จะไม่เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้น จะเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากระบบ แต่เกิดขึ้นจากตัวบุคคล ที่ทำระบบเปลี่ยนแปลงไปในทางไม่สุจริต เช่น เปลี่ยนแปลงระบบเพื่อพรรคพวกของตน เป็นต้น จึงทำให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ บางแห่ง เกิดการทุจริตขึ้น ซึ่งทำให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ทั้งหมดถูกเหมาเข่งว่า ไม่ควรจะมีอยู่ จึงมีคำสั่งโอนอำนาจบริหารงานบุคคลไปให้ กศจ.ดูแล แต่การโอนอำนาจครั้งนี้ ทำให้เกิดปัญหา เพราะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ไม่สามารถผลักดันงานตามนโยบายของส่วนกลางได้ การทำงานด้านต่างๆ มีความล่าช้า จึงต้องโอนภารกิจการบริหารงานบุคคลกลับมาให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ตามเดิม
"สพฐ.ยินดีต้อนรับ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ใหม่ทั้ง 245 เขตฯ การคืนอำนาจกลับมาที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯ ครั้งนี้ จะต้องไม่มีปัญหาในการทุจริต หรือมีปัญหาในการเอารัดเอาเปรียบเรื่องบริหารงานบุคคลเกิดขึ้น การดำเนินงานจะต้องโปร่งใสมีธรรมาภิบาล ซึ่งระบบการบริหารงานบุคคลเดิมไม่มีปัญหา แต่ปัญหามาจากคนที่ไม่สุจริต ดังนั้น ผู้ที่จะทำให้กลไกการขับเคลื่อนงานบุคคลเกิดประสิทธิภาพ คือ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ จะต้องเข้าใจกฏหมาย หลักเกณฑ์และวิธีการทำงาน และทำงานประสาน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ในการพิจารณางานบุคคลต่าง ๆต้องพิจารณาด้วยความเป็นธรรม ไม่ลำเอียง ให้ยึดผลประโยชน์ของเด็กและโรงเรียนเป็นที่ตั้ง รวมถึงความสุขของครู แต่ถ้ายังทำงานเหมือนเดิมคือไม่กล้าตัดสินใจ เกรงกลัวบารมี เกรงว่าจะไม่ถูกใจคนนั้นคนนี้ ก็จะกลับมาสู่วังวนเดิม" นายอัมพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี