นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส). กล่าวว่า ได้ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำขนาดเล็กเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ให้เกษตรกรมีแหล่งน้ำสำหรับใช้ในการอุปโภค-บริโภค และใช้ทำการเกษตร โดยการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ปัญหาภัยแล้งของชุมชน ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต เมื่อชุมชนมีน้ำ ย่อมก่อให้เกิดการต่อยอดการพัฒนาได้อย่างมีประโยชน์สูงสุดครบทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมจากชุมชนและหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมในแต่ละด้าน
สำหรับการดำเนินการ มีดังนี้ 1.พัฒนาน้ำ ชุมชนมีส่วนร่วมดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำ 12,225 ราย 359 ชุมชน ทำให้มีแหล่งน้ำ 523 แห่ง เป็นแหล่งน้ำในการอุปโภค-บริโภคอย่างเพียงพอ 42 แห่ง และแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 481 แห่ง มีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ มีการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุด มีการแบ่งปันการใช้น้ำอย่างเป็นธรรมทั่วถึงเท่าเทียม และลดความขัดแย้ง รวมทั้งมีการสร้างภาคีเครือข่ายในการดำเนินงานร่วมกันทุกภาคส่วน อีกทั้งความต้องการในการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาภัยแล้งอีกปี 2566 ยังคงมีความต้องการอีก 60 ชุมชน 120 แห่ง
2.แก้จนคนบนพื้นที่สูง พัฒนาต่อยอดด้านเศรษฐกิจ ชุมชนมีแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร 481 แห่ง ทำให้ชุมชนมีโอกาสและทางเลือกในการประกอบอาชีพที่จากเดิมต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก รวมทั้งพัฒนาคุณภาพและผลผลิตพืชส่งเสริมเดิม มีการพัฒนาอาชีพที่หลากหลาย สร้างรายได้ที่พอเพียง มีความมั่นคงด้านอาหาร กระจายการพัฒนา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการปรับระบบเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลูกพืชทางเลือกจากงานวิจัยทดแทนการปลูกพืชเดิมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ พืชผักในและนอกโรงเรือน เช่น มะเขือเทศ พริกหวาน หน่อไม้ฝรั่ง เมล่อนผักใบ องุ่น เสาวรส อะโวคาโด พีช ไม้ผล และไม้ยืนต้น เป็นต้น ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งระยะสั้นและระยะยาวตลอดทั้งปี โดยปลูกพืชแบบประณีต ใช้พื้นที่น้อยรายได้สูง ใช้น้ำน้อยอย่างมีประสิทธิภาพ ลดใช้สารเคมี ลดการเผาเศษพืช เพาะปลูกในระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ตามแผนการใช้ที่ดิน ผู้ได้รับประโยชน์ 12,225 ราย พื้นที่ รับประโยชน์ 32,653 ไร่ สร้างรายได้ที่พอเพียงต่อการดำรงชีวิตและครอบครัว โดยพืชที่ปลูกมีการรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัย (GAP) และอินทรีย์ โดยเกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินชุมชนบนพื้นที่สูง
3.ฟื้นฟูป่า ชุมชนมีส่วนร่วมในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดเขตการใช้ประโยชน์ที่ดิน แบ่งแยกพื้นที่ป่าและที่
ทำกิน ป้องกันการบุกรุกป่า 440 ชุมชน อนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำลำธาร 1,104,038 ไร่ โดยการจัดทำแนวกันไฟ ลาดตระเวนป้องกันไฟป่า จัดทำฝายชะลอน้ำ 79 แห่ง ปลูกเพื่อฟื้นฟูเพิ่มความหลากหลายของระบบนิเวศต้นน้ำและเพิ่มพื้นที่สีเขียว 18,284 ไร่ ทำให้ชุมชนมีแหล่งน้ำใช้พอเพียง มีอัตราการเกิดจุด Hotspot ในพื้นที่น้อยกว่าพื้นที่ไม่ได้รับการพัฒนา คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี