ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานีเผยเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงผู้อำนวยการโรงเรียนบนเกาะสมุยเกี่ยวกับความไม่โปร่งใส่อาหารกลางวันเด็กนักเรียน หากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีมูล หลังถูกเพจดังออกมาแฉ
วันที่ 18 ก.พ.66 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายชยพล อินทรสุภา นายอำเภอเกาะสมุย เดินทางไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพบกับนางจิรฉัตร ไชยสกุล รอง ผอ.สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 และผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว พูดคุยเรื่องข้อเท็จจริงและประเด็นการสอบสวนต่างๆ จากกรณีที่เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้านได้ออกมาแฉถึงความไม่โปร่งใส่เกี่ยวกับอาหารกลางวันของโรงเรียน
โดยเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้แฉเรื่องอาหารกลางวันของโรงเรียนว่า "ไม่อิ่มไม่มีเติมสภาพอาหารกลางวันของเด็ก ๆ โรงเรียน.. อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเช่นนี้ทุกวันยกเว้นวันที่มีการเข้าตรวจจะดีขึ้นหน่อยและไม่ตรงปกกับที่เอาขึ้นโชว์ในเว็บไซต์ ที่นี่เป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีตั้งแต่อนุบาลถึง ม.ต้น รวม 591 คน คำนวณเงินอุดหนุนต่อหัว 491 คน ตกวันละประมาณ 10,800 บาท เก็บค่าอาหารจากเด็กมัธยมอีกคนละ 20 บาทต่อวัน เด็ก 100 คน เป็นเงินวันละ 2,000 บาท ส่วนครู 30 คน จ่ายรายเดือนคนละ 300 ถึงเวลาทำก็ให้เด็กทั้งหมดตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม มากินในงบอุดหนุน ส่วนที่เก็บเพิ่มจากเด็กมัธยมกับครู ยักเอาไว้ อ้างว่าเอาไว้รับรองแขก เด็กกินไม่อิ่มขอเติมไม่มีให้เติม"
ทางด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ใช้เวลาพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนประมาณ 30 นาที ก่อนไปประชุมร่วมกับนางจิรฉัตร ไชยสกุล รอง ผอ.สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 และคณะกรรมตรวจสอบ อีกประมาณ 30 นาที จึงได้ออกจากห้องประชุม
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากประเด็นการสอบสวนพบว่ามีมูลในเรื่องของการเอาเงินอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา ที่ได้งบอาหารกลางวันมาคนละ 22 บาทต่อวัน แต่ได้มาใช้ทำอาหารรวมกันกับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา 60 คนและคุณครู 30 คนให้รับประทานด้วย ซึ่งนักเรียนมัธยมจะถูกเก็บเงินค่าอาหารกลางวันคนละ 20 บาท ส่วนคุณครูเก็บเดือนละ 300 บาท แต่เงินส่วนนี้ได้เอามาใช้ซื้อวัตถุดิบบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะใช้งบอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนระดับอนุบาลและระดับประถมศึกษาทำให้มีปัญหาในเรื่องของคุณภาพอาหาร ปริมาณอาหาร อาจจะไม่ตรงกับที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ในเรืองของ "ไทยสคูลลันช์"
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวอีกว่า เงินโครงการอาหารกลางวันจะใช้ทำอาหารกลางวันเฉพาะเด็กนักเรียนระดับอนุบาลและระดับประถมศึกษา แต่ทาง ผอ.ได้นำมาใช้ทั้งหมดเลย ส่วนเงินที่เก็บจากเด็กมัธยมและคุณครูได้มีการทำบัญชีนอกระบบงบประมาณของโรงเรียน ซึ่งผิดระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ถึงแม้จะมีคณะกรรมการฝ่ายการเงินตรวจนับก็ตาม แต่ที่สำคัญเงินส่วนนี้เอามาใช้บ้างเพียงบางครั้ง แต่จริงๆ แล้วถ้าจะทำอย่างนั้นเงินที่เก็บจากนักเรียนมัธยมและคุณครูจะต้องเอามารวมทั้งหมดในการที่จะเอามาซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีปริมาณอาหารที่เพียงพอ ถูกต้องตามหลัก "ไทยสคูลลันช์" และให้เงินจำนวนนี้มาเป็นรายได้ของโรงเรียนด้วยตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้กำหนดไว้
สำหรับแนวการดำเนินการของจังหวัดสุราษฎร์ธานี คณะกรรมการตรวจสอบก็จะนำเรื่องไปที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 เพื่อสรุปผลข้อเท็จจริงต่างๆ ถ้ามีมูลขึ้นมาก็จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่สิ่งแรกที่ต้องดำเนินการก่อนคือย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนออกไปที่อื่นก่อน เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาหาข้อมูลความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี