“ชูวิทย์”มาแล้วบุกทำเนียบ! ร้องนายกฯปูดทุจริตคมนาคมหมื่นล้าน ด้าน"เสธ.หิ"พาเข้าหารือ“พีระพันธุ์”ถกแก้ปัญหาพนันออนไลน์-กรมอุทยาน-สปก.แย่งพื้นที่ทับซ้อน-รฟฟ.สายสีส้ม” ยันไม่มีเบื้องหลัง ลั่นถ้าพบไม่ได้จะเป็นนายกฯของผมได้อย่างไร
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 ก.พ. 66 ที่บริเวณประตูพิษณุโลก ทำเนียบรัฐบาล นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกและรมว.กลาโหม โดยนายชูวิทย์ ได้เปิดเผยถึงข้อมูลทุจริตของกระทรวงคมนาคมหลายหมื่นล้าน พร้อมเปิดโต๊ะโหราศาสตร์ ตรวจดวงชะตาบ้านเมือง พร้อมกล่าวว่า “ทุกวันนี้บ้านเมืองเกิดทุจริตคอรัปชั่น มีชะตาดับ ชะตาตก ชะตาถึงคาด และชะตาพัง และตนจะไม่เอ่ยถึงพรรคในว่าพรรคไหนถึงคาด และพรรคไหนชะตาดับ และพรรคไหนชะตาพัง ” ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ได้ยกหูโทรศัพท์ ถึงนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
จากนั้นเวลา 14.10 น.นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ "เสธ.หิ" ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้มารับนายชูวิทย์ เพื่อเข้าไปยังภายในทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ ในระหว่างที่นายชูวิทย์ กำลังเดินเข้ามายังภายในทำเนียบรัฐบาล มีการกล่าวว่า “นี่คือนายกฯของผม ถ้าผมเข้ามาหานายกฯผมไม่ได้ แล้วจะเป็นนายกฯผมได้ยังไง”
ต่อมาในเวลา 14.15 น. นายชูวิทย์ได้พบกับนายพีระพันธุ์ที่บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนมาพูดเรื่องพนันออนไลน์ กรณีสารวัตรซัว ซึ่งตอนนี้พบเงินเป็นหมื่นๆล้าน นี่เป็นอีกปัญหาหนึ่งว่า ทำไมจึงปล่อยให้นายบ่อนเป็นนายตำรวจได้ ตนจึงพูดต่อไปอีกว่า การพนันออนไลมีทั้งไซต์ S M L XL ขึ้นอยู่กับเงินหมุนเวียน นอกจากนั้นตนยังพูดเรื่องที่มีการทะเลาะกันของ 2 หน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ สำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) โดยกรมอุทยานฯต้องการให้รักษาจำนวนอุทยานให้คงไว้ แต่สปก. บอกว่าที่ดินที่ให้ชาวบ้านไปแล้ว ไม่ใช่รีสอร์ทอย่างเดียว นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ซึ่ง ณ วันนี้ กำลังจะเซ็นเพื่อลดขนาดอุทยานหรืออย่างไร ตนจึงอยากมาสอบถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประเด็นสุดท้ายที่อยากให้นายกฯทราบคือ กรณีฮั้วรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งมีจำนวนเงินตกหล่นถึง 3 หมื่นล้านบาท
นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดเหล่านี้ตนอยากมาหารือเพื่อสร้างความกระจ่างให้กับสังคมตนคิดว่านายกฯเป็นคนสุจริต กระทำการเรื่องนี้ให้ชัดเจนโปร่งใส ในอนาคตอยากจะเป็นผู้นำต่ออีก 2 ปี ดังนั้นตนคิดว่า ในฐานะประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะทราบ เพราะตนไม่ได้สังกัดหรือสนับสนุนพรรคการเมืองใด ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และตนคิดว่าการปราบทุจริตคอรัปชัน ถือว่าเป็นนโยบายที่สำคัญอันดับแรก ซึ่งนายกฯก็ได้ใช้เรื่องดังกล่าวในการยึดอำนาจเมื่อ 8 ปีที่แล้ว คิดว่านายกฯคงจะมองเห็นปัญหานี้
“ผมคิดว่าคนที่สังกัดพรรค หรือคนที่จะทำงานการเมือง อยู่พรรคไหนก็ย่อมเชียร์พรรคนั้น ท่านอาจจะเกลียดรัฐบาลได้ แต่ท่านต้องรักชาติ ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมไทยขาด วันนี้ผมเลยตำหนิติเตียนไป และผมถือโอกาสขอเข้ามากราบเรียนนายพีระพันธุ์ กราบเรียนนายกฯ ว่าปัญหาต่างๆเหล่านี้ ท่านพอจะจัดการให้กับประชาชนได้ไหม” นายชูวิทย์กล่าว
ด้านนายพีระพันธุ์กล่าวว่า เรื่องต่างๆนายกฯได้สั่งการให้รายงานความคืบหน้าทุกวัน ดังนั้นจึงมีความคืบหน้าตลอด ก็ต้องร่วมกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ซึ่งตนจะเข้าไปคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกับนายชูวิทย์ จากนั้น นายพีระพันธุ์ได้พานายชูวิทย์เข้าไปยังตึกบัญชาการเพื่อหารือกัน.-001