รบ.ปราบเด็กแว้นแข่งรถ

แจ้งเบาะแสจนจับกุมได้-รับ 3 พัน

รัฐบาลลุยปราบ เด็กแว้นแข่งรถ แจ้งเบาะแส จนจับกุมได้ถ่ายภาพ-คลิป เป็นหลักฐาน โอนเงินเข้าบัญชี 3 พันบาท ทันที แจ้ง191,หรือ 1599, หรือเฟซบุ๊กศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. ด้าน ตร.เมืองนนท์ ปราบแก๊งนักแข่ง-นักซิ่ง ย่าน บางบัวทอง-บางใหญ่-ชัยพฤกษ์ รวบแอดมินเพจ

‘รถหมอบเมืองนนท์’นัดแข่งจยย.กว่า100 คัน

22ก.พ.2566 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลตระหนักและให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตของเด็กและเยาวชน อันเป็นปัญหาที่สร้างอุบัติเหตุบนท้องถนน เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนในชุมชนและสังคม มุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นางสาวรัชดา กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสการแข่งรถในทาง เมื่อพบเห็นเหตุการณ์ เช่น การแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น หรือรู้ตัวผู้จัด ผู้สนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถ ให้ประชาชนบันทึกภาพและคลิปด้วยตนเองพร้อมข้อมูลรายละเอียดแล้วแจ้งผ่าน 3 ช่องทาง คือ ศูนย์ 191 สายด่วน 1599 หรือเพจเฟซบุ๊คศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. (ส่งข้อมูล inbox )

“สำหรับข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากประชาชนสามารถนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดการแข่งรถในทางได้ ผู้แจ้งจะได้รับค่าตอบแทน รายละ 3,000 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีผู้แจ้ง ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชาชนที่ให้ข้อมูลหรือเบาะแสได้รับค่าตอบแทนแล้ว จำนวน 23 ราย เป็นเงิน 69,000 บาท” นางสาวรัชดา กล่าว

จากกรณีที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาตำรวจทุกโรงพักทั่วประเทศให้เร่งปราบปรามแก๊งรถแข่ง ร้านแต่งรถตลอดจนแอดมินเพจที่มีการโฆษณาชักชวนเด็กแว้นให้มีการออกมาแข่งขัน โดยเฉพาะพื้นที่นนทบุรีชาวบ้านร้องเรียนจำนวนมากที่มีการรวมตัวแข่งขันรถจยย.บ่อยครั้ง บริเวณถนน345 จนไปถึงจ.ปทุมธานีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางบัวทอง จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งทราบว่า admin เพจ ทุเรียนนนท์ รถหมอบ คือนายชัยพร อายุ 22 ปี เป็นผู้ดูแลและควบคุมเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว และพบว่ามีการชักชวน และรวมตัวแข่งขันรถจยย.เป็นจำนวนมากมีทั้งเด็กเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี มาร่วมการแข่งขัน โดยมีการจัดการแข่งขันอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนรำคาญเกรงกลัวอุบัติเหตุ

วันเดียวกัน เวลา 08.30น.ที่สภ.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ภูริธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง พร้อมกำลังฝ่ายป้องกันปราบปรามสืบสวนสภ.บางบัวทอง สภ.บางใหญ่ และ สภ.ชัยพฤกษ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายชัยพร อายุ 22 ปี พร้อมรถจยย.ยี่ห้อ HONDA รุ่น เวฟ125i สีขาวแดง ทะเบียน ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ จ.89/2566 อาศัยอยู่ ม.3 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “จัดโฆษณา ประกาศ ชักชวน หรือดำเนินการด้วยวิธีการใดเพื่อให้มีการแข่งขันในทาง โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่กิน10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” โดยสามารถติดตามจับกุมตัวนายนายชัยพร กำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นรปภ.อยู่บริเวณหน้าตลาด ส.รุ่งเรือง ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี

พ.ต.อ.ภูริธัชกล่าวว่าปัญหากลุ่มวัยรุ่นขี่รถป่วนเมืองมีค่อนข้างเยอะ เห็นเป็นประจำทุกอาทิตย์และแทนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ไปคอยดูแลพี่น้องประชาชนคนอื่นๆ กลับต้องมาคอยดูแลวัยรุ่นกลุ่มนี้แทน ซึ่งเป็นปัญหาที่มีพื้นที่จากปทุมธานีมาจนถึงนนทบุรี ซึ่งกระทบในหลายพื้นที่ทั้ง บางบัวทอง บางใหญ่ ชัยพฤกษ์ ไทรน้อย ซึ่งก่อนหนานี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆและได้ติดตามแอดมินเพจดังกล่าวซึ่งมีการเชิญชวนกลุ่มวัยรุ่นในปทุมธานีและนนทบุรีออกมาแข่งรถตอนกลางคืนสร้างความวุ่นวายให้กับประชาชนคนอื่นๆไปจนถึงการขออนุญาตต่อศาลจังหวัดนนทบุรีในการขอออกหมายจับ

พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่าตอนนี้จากการตรวจสอบรถแข่งมันเยอะและการที่จะมีรถแข่งออกมาในแต่ละคืนประมาณ 50-100 คันจะต้องมีการเชิญชวนหรือชักชวนกันออกมาจึงทำการรวบรวมข้อมูลในเพจดังกล่าวว่ามีผู้ใดเป็นแอดมินเพจและได้ตรวจสอบจากที่ผ่านมามีการทำจริงหรือไม่ จึงได้ทำการขออนุญาตศาลออกหมายจับ และเชื่อว่าหากไม่มีคนชักชวนจะไม่มีคนตามออกมา และจะไม่มีการรวมกลุ่มกัน อยากจะฝากบอกไปถึงกลุ่มวัยรุ่น อย่าคึกคะนองด้วยการชักชวนกันออกไปขี่รถหรือแข่งรถเพราะมีโทษตามกฏหมาย บางคนคิดว่าแค่พิมพ์หรือโพสลงไปในโซเชียลคงจะไม่ผิดอะไร แต่จริงๆแล้วการพิมพ์ในลักษณะเชิญชวนแบบนี้เข้าข่ายผิดกฏหมายและมีโทษหนัก ซึ่งตอนนี้กฏหมายใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้โทษหนักกว่าเดิม จำคุกไม่เกิน 3 เดือน และปรับตั้งแต่ 5,000-10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ