ทนายช่วยด้วย!ถูกหลอกขายบ้านน็อคดาวน์ รื้อบ้านเก่าทิ้งแต่ไม่ได้บ้านใหม่ ต้องไปเช่าอยู่
2 มีนาคม 2566 จากกรณีนายสนั่นศิลป์ สุขใส อายุ 34 ปี อาชีพสไตลิสต์ทำผมชื่อดังย่านปทุมธานี โพสต์เรื่องราวผ่านโลกโซเชี่ยล หลังถูกบริษัทสร้างบ้านน็อคดาวน์แห่งหนึ่ง หลอกขายบ้านน็อคดาวน์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก สูญเงินสร้างบ้านไปกว่าแสนบาท ซ้ำยังลงทุนจ้างช่างมาปรับพื้นหมดเงินไป 70,000 กว่าบาท ขณะเดียวกันพบผู้เสียหายมากกว่า 15 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท ขณะที่เพจดังกล่าวยังเปิดขายบ้านน็อคดาวน์ตามปกติ เกรงว่าจะมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเพิ่ม จึงรวมตัวกันปรึกษาทนาย เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายสนั่นศิลป์ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า บ้านของตนอยู่ที่เขตสายไหม ตนมีความสนใจที่จะต่อเติมบ้านและที่บ้านมีพื้นที่ว่างอยู่พอดี จึงหาบริษัทรับสร้างบ้านจนกระทั่งมาเห็นเพจดังกล่าวมีการขายบ้านน็อคดาวน์ จึงได้ติดต่อและจะทำการซื้อบ้าน โดยคุยผ่านคนที่อ้างว่าเป็นแอดมินเพจชื่อ น.ส.กัญญาพัชญ์ เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2565 ได้ทำการตกลงซื้อบ้านน็อคดาวน์ในราคา 350,000 บาท และโอนเงินค่ามัดจำงวดแรกไปจำนวน 50,000 บาท โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารชื่อ รังสิมันตุ์ ต่อมาได้รับการติดต่อจาก น.ส.ยุ้ย ให้โอนเงินมัดจำงวดที่ 2 อีก จำนวน 52,000 บาท รวมสองครั้งเป็นเงิน 102,000 บาท
ต่อมา น.ส.ยุ้ย ได้บอกว่าจะต้องมีการปรับพื้นเพื่อนำบ้านมาวาง และให้ตนโอนเงินอีกจำนวน 90,000 บาท เพื่อเป็นค่าช่างและค่าอุปกรณ์ โดยบอกว่าช่างจะเข้าไปทำการปรับพื้นให้หลังจากที่โอนแล้ว ตนเห็นว่าผิดปกติจึงไม่ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไป จึงได้จ้างช่างข้างนอกมาทำการปรับพื้นด้วยตัวเองในราคา 70,000 บาท โดยมีการพูดคุยและมีสัญญาการสร้างบ้านและจะส่งมอบภายในเดือน พฤศจิกายน 2565 แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาส่งมอบบ้าน กลับไม่ได้บ้านที่ตนสั่งไว้ จึงได้โทรไปสอบถามกับทาง น.ส.ยุ้ย แต่ได้รับคำตอบว่า บ้านยังไม่เสร็จขอเลื่อนกำหนดส่งไปเป็นช่วงเดือนธันวาคม 2565
อย่างไรก็ตาม พอถึงกำหนดส่งเดือนธันวาคม ก็ยังไม่เสร็จและ น.ส.ยุ้ย ก็ยังขอเลื่อนไปอีกเป็นเดือน มกราคม 2566 พอถึงกำหนดส่งบ้านก็ยังไม่เสร็จอีก โดย น.ส.ยุ้ย อ้างว่า ช่างไม่ว่าง ช่างไม่สบายบ้าง ช่างเป็นโควิดบ้าง จึงได้เดินทางไปที่ออฟฟิศของ น.ส.ยุ้ย อยู่ที่คลอง 8 จ.ปทุมธานี แต่ก็ไม่พบ น.ส.ยุ้ย พบแต่คนดูแลออฟฟิศ พอถามถึงคนดูแลก็บอกเพียงแค่ไม่ทราบว่า น.ส.ยุ้ย ไปไหน ซึ่งตนสังเกตถึงความผิดปกติและคิดว่าตนโดนหลอกแน่ๆ จึงได้โทรไปหา น.ส.ยุ้ย และสอบถามถึงบ้านที่ตนสั่ง และหากว่ายังไม่ได้รับบ้านที่สั่งตนจะไปแจ้งความ แต่ น.ส.ยุ้ย กลับพูดท้าทายตนว่าให้ไปแจ้งความไม่กลัวหรอก ต่อมาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ตนจึงเดินทางไปแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ
นายสนั่นศิลป์ กล่าวอีกว่า เมื่อตำรวจไม่รับแจ้งความ ตนจึงติดต่อผู้เสียหายที่โดนหลอกในลักษณะเดียวกัน 15 คน ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ที่กระทรวงยุติธรรม ต่อมาวันที่ 2 มีนาคม 2566 รวมผู้เสียหายที่ติดต่อเข้ามาที่ตนทั้งหมด 5 คน ไปแจ้งความที่ สภ.หนองเสือ อีกครั้ง โดยทั้ง 5 คน ได้ทำการสั่งซื้อบ้านน็อคดาวน์จากเพจดังกล่าว และได้ติดต่อกับ น.ส.ยุ้ย ทุกคน ในราคาบ้านหลังละ 2-5 แสนบาท รวมความเสียหายปัจจุบันกว่า 6 ล้านบาท และมีคุณส้ม ผู้เสียหายอีกรายที่ติดต่อซื้อบ้านกับ น.ส.ยุ้ย และ น.ส.ยุ้ยได้บอกกับคุณส้มว่าจะต้องรื้อบ้านหลังเก่าออกเพื่อทำการปรับพื้นที่และได้ให้ทีมช่างของบริษัทเข้ามารื้อบ้านหลังเก่าออก จนตอนนี้บ้านที่คุณส้มซื้อกับ น.ส.ยุ้ย ก็ยังไม่ได้แถมบ้านหลังเก่าก็ถูกรื้อจนตอนนี้ไม่มีที่อยู่ต้องลำบากออกไปหาเช่าบ้านอยู่ข้างนอกแทน
ขณะที่นายนที เตชะไตรภพ อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ตนได้ทำการติดต่อซื้อบ้านน็อคดาวน์ในเพจดังกล่าวผ่าน น.ส.ยุ้ย ในราคา 325,000 บาท แต่บ้านของตนอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม น.ส.ยุ้ย จึงแนะนำให้ตนสร้างฐานยกสูงในราคา 180,000 บาท โดยโอนค่าก่อสร้างฐานดังกล่าวจำนวน 2 งวด งวดแรกโอนผ่านบัญชีนาย รังสิมันตุ์ จำนวน 100,000 บาท และงวดที่สองโอนผ่านบัญชีชื่อบริษัทแห่งหนึ่ง 179,000 บาท
ต่อมา น.ส.ยุ้ย ได้ให้ช่างเข้ามาก่อสร้างฐานยกสูงตามที่ตกลงกันไว้จนตอนนี้ก็ยังก่อสร้างฐานไม่เสร็จ ก่อนหน้านี้ตนก็เคยซื้อบ้านน็อคดาวน์และถูกหลอกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ใช่บริษัทนี้ พอจะซื้อบ้านหลังนี้ตนต้องเอารถยนต์ของตนไปขายเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าบ้านหลังนี้ ตอนนี้ตนก็ต้องไปเช่าบ้านอยู่เหมือนกันเพราะ บ้านที่สั่งไว้กับ น.ส.ยุ้ย ยังไม่ได้ ก่อนหน้านี้เคยติดต่อไปที่ น.ส.ยุ้ย เพื่อสอบถามถึงบ้านที่ตนสั่งไว้ แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงตลอดมา โดยอ้างว่าช่างไม่พอบ้าง ช่างไม่สบายบ้าง ช่างเป็นโควิดบ้าง จนมาจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อ น.ส.ยุ้ยได้เลย ตอนนี้รู้สึกแค้นใจเป็นอย่างมาก หากใครพบเห็น น.ส.ยุ้ย ช่วยตบแทนตนสักที ตนยินดีมอบเงินรางวัลให้ 10,000 บาททันที
ด้านนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายจิตอาสา กล่าวว่า จากเรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นความผิดในเรื่องของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และจากข้อมูลมีการโอนเงินก็จะเข้าข่ายในเรื่องของการฉ้อโกงด้วย ส่วนเรื่องมูลค่าความเสียหายหลังจากนี้ทางผู้เสียหายจะรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.หนองเสือ และตนได้ประสานกับทางร้อยเวรเจ้าของคดีแล้ว และได้นัดหมายทางผู้เสียหายเข้าให้ปากคำในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม นี้ ทางพนักงานสอบสวนจะได้ทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อขออนุมัติหมายศาลในเรื่องของการปิดเพจดังกล่าวไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อรายอื่นอีก และจะอายัดบัญชีธนาคารดังกล่าวเพื่อตรวจสอบว่าเป็นบัญชีม้าหรือไม่
ส่วนในเรื่องของการฉ้อโกงประชาชนนั้นจะต้องดูว่ามีผู้เสียหายกี่คน อยากฝากไปถึงผู้การฯปทุมธานี , ผกก.สภ.หนองเสือ , พนักงานสอบสวน สภ.หนองเสือ ช่วยเร่งดำเนินการคดีดังกล่าวเพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก คดีนี้มีผู้เสียหายหลายคน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท จะต้องจับตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพื่อจะได้ไม่มีผู้เสียหายเพิ่มเติมนอกจากนี้อีก
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี