ไทยเข้าหน้าร้อน5มี.ค.
อุณหภูมิสูงสุด43องศา
‘สุโขทัย’ระอุ/เตือนพายุ
ค่าPM2.5พุ่งถึง10มีนา
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศไทยเข้าหน้าร้อน 5 มีนาคม ช้ากว่าปกติ3 สัปดาห์ คาดการณ์ปีนี้ร้อนกว่าปีที่แล้ว อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 43 องศาฯช่วงเดือนเมษาอบอ้าวร้อนจัด “สุโขทัย-ตาก-ลำปาง-แม่ฮ่องสอน” ร้อนที่สุด เตือนระวังพายุฤดูร้อนลูกเห็บตก ด้านค่าฝุ่น PM 2.5 รายวันยังเกินมาตรฐาน 26 จว. “เชียงใหม่”ติดอันดับ 4 โลกเมืองมลพิษทางอากาศสูงสุด ส่วนกทม. 15 พื้นที่กระทบสุขภาพ แนวโน้มค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นอีกถึง 10 มี.ค.
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาแถลงว่า ประเทศไทยจะสิ้นสุดฤดูหนาวและเข้าสู่ฤดูร้อนวันที่ 5 มีนาคมนี้ โดยพื้นที่ประเทศไทยตอนบนส่วนใหญ่มีอากาศร้อนตอนกลางวัน อุณหภูมิวัดได้ตั้งแต่ 35 องศาเซลเซียสขึ้นไป ฤดูร้อนปีนี้เริ่มต้นช้ากว่าปกติ และคาดว่าจะสิ้นสุดฤดูร้อนช่วงกลางเดือนพฤษภาคมตามปกติ
สุโขทัยร้อนสูงสุด43องศา
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า คาดการณ์ฤดูร้อนปี 2566 อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35.5 องศาเซลเซียสซึ่งใกล้เคียงค่าปกติที่ 35.4 องศาเซลเซียส แต่สูงกว่าปี 2565 ที่อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35.5 องศาเซลเซียสซึ่งสูงกว่าปีที่ 2534 องศาเซลเซียสแล้ว สำหรับอุณหภูมิสูงที่สุดประมาณ 40-43 องศาเซลเซียส โดยจังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงสุดได้แก่ จังหวัดสุโขทัย ตาก ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิสูงสุด 38-39 องศาเซลเซียส จากคาดหมายลักษณะอากาศประเทศไทยตอนบนช่วงตั้งแต่เริ่มต้นฤดูร้อนไปถึงกลางเดือนมีนาคม อากาศร้อนหลายพื้นที่ตอนกลางวันกับมีหมอกหนา โดยที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นตอนเช้า จากนั้นถึงปลายเดือนเมษายน อากาศจะร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป รวมทั้งมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่
เมษาพีค“เหนือ-อีสาน”ระอุ
ทั้งนี้ ในเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด โดยพื้นที่ที่จะมีอุณหภูมิสูงถึง 40-43 องศาเซลเซียสได้อยู่ในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี ส่วนภาคกลางและตะวันออกรวมทั้งชายฝั่ง อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 40-42 องศาเซลเซียส บริเวณจ.อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี นครนายก ปราจีนบุรีและสระแก้ว
เตือนระวังพายุฤดูร้อน-ลูกเห็บตก
“สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเดือนเมษายน ซึ่งอากาศร้อนจัดอบอ้าว อาจเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนผลผลิตการเกษตร จากนั้นปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงปลายฤดูร้อน อากาศเริ่มแปรปรวน ยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวบางช่วงกับมีฝนฟ้าคะนอง”อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาระบุ
เหนือน่าห่วงฝุ่น-หมอกควันเพิ่ม
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง มีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภ สำหรับภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณฝนฟ้าคะนอง ส่วนสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ระยะนี้ ไทยตอนบนมีแนวโน้มการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง เว้นแต่ภาคเหนือที่ยังมีแนวโน้มสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน
เชียงใหม่อันดับ4โลกเมืองมลพิษ
ด้านศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานคุณภาพอากาศประจำวันที่ 3 มีนาคม ตรวจพบค่าฝุ่น PM 2.5 มีค่าเกินมาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 26 จังหวัด ขณะที่เว็บไซต์ iqair เผยข้อมูลจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูงสุดในโลก ปรากฏว่าจ.เชียงใหม่เข้าขั้นน่าเป็นห่วงหลังขยับขึ้นมาติดอันดับ 4 เมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูงสุดในโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 197 AQI ส่วนกรุงเทพฯติดอันดับ 26 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 113 AQI
PM2.5เกินเกณฑ์กระทบสุขภาพ26จว.
จังหวัดที่พบปริมาณค่าฝุ่น PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐาน และเริ่มมีผลต่อสุขภาพมี 26 จังหวัด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ สมุทรสาคร เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ราชบุรี สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ ตราด เลย โดยจังหวัดในภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 56-178 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 26-64 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตกเกินค่ามาตรฐาน 3 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 34-79 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 37-51 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10-26 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 19 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 32-74 มคก./ลบ.ม.
กทม.15พื้นที่สำลักฝุ่นกระทบสุขภาพ
ขณะที่ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่างเวลา 05.00-07.00 น. ได้ 33-76 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 47.0 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มลดลง เกินมาตรฐาน 15 พื้นที่ อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 15 พื้นที่ ได้แก่ 1.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 วัดได้ 73 มคก./ลบ.ม. 2.เขตหนองแขม ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 วัดได้ 68 มคก./ลบ.ม. 3.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนาวัดได้ 59 มคก./ลบ.ม. 4.เขตประเวศวัดได้ 57 มคก./ลบ.ม. 5.เขตตลิ่งชัน 55 มคก./ลบ.ม. 6.เขตสัมพันธวงศ์ วงเวียนโอเดียน 54 มคก./ลบ.ม. 7.เขตยานนาวา 54 มคก./ลบ.ม. 8.เขตหลักสี่ 54 มคก./ลบ.ม. 9.เขตปทุมวันหน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ 53 มคก./ลบ.ม. 10.เขตบางเขน 52 มคก./ลบ.ม. 11.เขตบึงกุ่ม 52 มคก./ลบ.ม. 12.เขตบางซื่อ 52 มคก./ลบ.ม. 13.เขตธนบุรี 52 มคก./ลบ.ม. 14.เขตบางรัก 51 มคก./ลบ.ม. 15.เขตภาษีเจริญ 51 มคก./ลบ.ม.
แนวโน้มค่าฝุ่นสูงขึ้นถึง10มี.ค.
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกทม.คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศ การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างอ่อน ประกอบกับมีสภาวะอากาศปิดต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่น PM2.5 แนวโน้มสูงขึ้น ช่วงวันที่ 4-10 มีนาคม การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี อากาศค่อนข้างเปิด ส่งผลให้ฝุ่น PM2.5 แพร่กระจายและมีแนวโน้มลดลง อีกทั้ง ควรระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศเย็นตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียสจนถึงวันที่ 8 มีนาคม พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงบางพื้นที่
สภาพอากาศอุปสรรคทำฝนเทียมแก้ฝุ่น
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ติดตามความพร้อมของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ใน 5 ภูมิภาคจำนวน 7 ศูนย์ เพื่อเข้าแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5ที่เกินมาตรฐาน รวมถึงเข้าช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง สร้างความชุ่มชื้นให้ป่าไม้ การป้องกันการเกิดไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน ซึ่งทุกหน่วยมีความพร้อมขั้นสูงสุด สามารถออกปฏิบัติการในทุกโอกาสเมื่อสภาพอากาศเหมาะสม อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 มีนาคม กรมฝนหลวงฯรับเรื่องขอรับบริการจากพื้นที่ภาคเหนือ จ.กําแพงเพชร ตาก ลําปาง อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ และภาคตะวันออก จังหวัดฉะเชิงเทรา และระยอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกปฏิบัติการได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เหมาะสม ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำกว่า 60% อากาศมีเสถียรภาพส่งผลให้เมฆไม่ก่อตัวในพื้นที่เป้าหมาย หรือกลุ่มเมฆในพื้นที่เป้าหมายไม่เข้าเงื่อนไขปฏิบัติการ ซึ่งรมว.เกษตรฯมอบแนวทางปฏิบัติการฝนหลวงให้ยืดหยุ่น ปรับตามสถานการณ์สภาพอากาศและความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน
แม่สอดสาหัสทำเครื่องบินดีเลย์
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตากว่า สภาพอากาศในพื้นที่มีปัญหาหมอกควันปกคลุมไปทั่ว ประกอบกับสภาพอากาศหนาวเย็น และวันนี้เป็นวันที่ 3 โรงเรียนสรรพวิทยาคม ในสังกัด สพม.ตาก ต้องงดใช้สนามฟุตบอลเป็นสถานที่ตั้งแถวยืนเคารพธงชาติตอนเช้า เนื่องจากค่า PM 2.5 สูงถึง 380 มคก./ลบ.มส่งผลต่อสุขภาพ ขณะที่เทศบาลนครแม่สอดระดมรถน้ำออกไปพ่นน้ำตามถนนในเขตเทศบาลนครแม่สอด เพื่อลดปริมาณฝุ่นขนาดเล็ก นอกจากนี้ สายการบินนกแอร์ที่เดินทางจากกรุงเทพฯไปแม่สอดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ไม่สามารถลงท่าอากาศยานแม่สอดได้ เพราะปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี ต้องบินวนจนน้ำมันเชื้อเพลิงเกือบหมด และบินไปลงท่าอากาศยานที่ จ.พิษณุโลก และบินกลับมาท่าอากาศยานแม่สอดเป็นครั้งที่ 2 เพื่อส่งผู้โดยสาร ทำให้เครื่องบินต้องดีเลย์ไปกว่า 3 ชั่วโมง
กำแพงเพชรฝุ่นพุ่งสั่งห้ามเผา
เช่นเดียวกับ จ.กำแพงเพชร สภาพอากาศขมุกขมัวจากฝุ่นปกคลุมทั่วตัวเมือง ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานถึง 3 เท่าต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น โดยกองควบคุมมลพิษตรวจพบคุณภาพอากาศในต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร ตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ พบปริมาณฝุ่น PM 2.5 มีค่า 102 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ยังพบปริมาณฝุ่นขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 136 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมออกคำเตือนประชาชนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท และถ้าออกจากบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ขณะที่นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซักซ้อมแนวทางแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน กำหนดมาตรการควบคุมป้องกันไฟป่าในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยขอรับการสนับสนุนฝนหลวง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้มาตรการของจังหวัด บทกำหนดโทษการห้ามเข้าในเขตอุทยานแห่งชาติ ป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี