ศาลอาญาคดีทุจริตฯพิพากษาตามบอร์ด ‘ป.ป.ท.’ ยื่นฟ้องพนักงานธนาคารทำเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นเท็จ 562 ครั้ง รวม 121 ล้านบาท เจ้าตัวรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1,405 ปี แต่รวมโทษทุกกระทงแล้วจำคุก 50 ปี หรือให้จำเลยจ่ายเงินคืน
3 มีนาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ท.) เผยแพร่ผลการพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดของศาลตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูล ระบุว่า คดีที่มีการกล่าวหา นาง ป. ซึ่งเป็นพนักงานบัญชีอาวุโส ส่วนค่าตอบแทนและสวัสดิการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล ธนาคาร อ. ว่ากระทำการทุจริตในภาครัฐนั้น
พฤติการณ์ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่จัดทำข้อมูลในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของพนักงานธนาคาร อ. ได้อาศัยโอกาสที่ตนมีอำนาจหน้าที่ดังกล่าวทำการบันทึกข้อมูลค่ารักษาพยาบาลลงในระบบ HR Net ก่อนที่ธนาคารอนุมัติค่ารักษาพยาบาลด้วยการเพิ่มเติมหมายเลขบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ของผู้ถูกกล่าวหา และเพิ่มเติมจำนวนเงินที่จะเบิกจ่ายอันเป็นเท็จโดยไม่มีใบคำขอเบิกเงินและหลักฐานใบเสร็จรับเงินของสถานพยาบาล
นอกจากนี้ยังได้ทำการแก้ไขเพิ่มเติมรายการหลังจากที่ธนาคารได้อนุมัติการเบิกค่ารักษาพยาบาลให้กับพนักงานธนาคารแล้ว โดยเพิ่มเติมหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้ถูกกล่าวหาและเพิ่มเติมจำนวนเงินที่เบิกจ่าย อันเป็นเท็จลงในไฟล์ข้อมูล Text และนำไฟล์ข้อมูล Text ที่แก้ไขเพิ่มเติมส่งเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หลักของธนาคารเพื่อให้ฝ่ายปฏิบัติการ โอเปอร์เรเตอร์ (Operator) มีการจ่ายเงินตามระบบคอมพิวเตอร์ไปยังหมายเลขบัญชีธนาคารและจำนวนเงินที่ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมดังกล่าวทั้งที่ธนาคารไม่ได้มีการอนุมัติแต่อย่างใด แล้วผู้ถูกกล่าวหาเบียดบังเงินจำนวนไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริต จำนวน 562 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 121,323,843.63 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณาแล้วในคราวประชุมครั้งที่ 10/2561 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 มีมติชี้มูลความผิดว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ต่อมาพนักงานอัยการยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้พิพากษาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 164/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อท 175/2565 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 มาตรา 8 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต และความผิดฐานเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ทั้งสองบทมีโทษเท่ากัน
จึงให้ลงโทษฐานเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 รวม 562 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 2,810 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1,405 ปี แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา 91 (3) ให้จำเลยคืนทรัพย์หรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ธนาคาร อ. ผู้เสียหาย เป็นเงินจำนวน 121,323,843.63 บาท
โดยพนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ไม่อุทธรณ์ คณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณาเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 แล้วมีมติเห็นชอบไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตามความเห็นของพนักงานอัยการ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี