นายอำเภอเมืองกาญจนบุรีเผยไม่พบฐานข้อมูลบัตรประชาชน 7 ใบเชื่อทำปลอมขึ้นมาทั้งหมด ส่วนเจ้าของบัตรตัวจริงเพิ่งทำบัตรใหม่เมื่อเดือน ม.ค.66 ที่ผ่านมา
จากกรณีมีบุคคลเป็นชายชาวตำบลลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีบัตรประจำตัวประชาชนคนเดียวมากถึง 7 ใบแต่ละใบมีมีชื่อที่แตกต่างกัน ซึ่งบัตรประชาชนดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ทางโลกโซเชียลออนไลน์ เนื่องจากเกรงว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ โดยกรมการปกครองจะมีหนังสือแจ้งจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นนายทะเบียนท้องที่ดำเนินการจัดทำหนังสือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายนั้น
ล่าสุดวันนี้ (9 มี.ค.66) นายธนณัฏฐ์ ศรีสัตน์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า บัตรประชาชนทั้ง 7 ใบเป็นบัตรปลอมทั้งหมดและจากการเข้าไปดูในฐานข้อมูลไม่มีเช่นกันถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ทางอำเภอจะดำเนินการอย่างไรนั้น เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่เราและทราบมาว่าคนที่นำบัตรไปหลอกลวงอยู่ทางภาคเหนือ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการคลอเซนเตอร์ที่หลอกลวงประชาชน ซึ่งขอแจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่าปัจจุบันการทำบัตรประชาชนมันสามารถไปทำได้ในทุกสำนักทะเบียนทั่วประเทศ เมื่อเห็นบัตรประชาชนดังกล่าวเป็นคนเมืองกาญจนบุรี นักข่าวหรือประชาชนเข้าใจว่าอำเภอเมืองกาญจน์จะมีการทุจริต ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะถ้าหากมีการทุจริตจริงเมื่อกดเข้าไปดูในฐานข้อมูลก็จะรู้ได้เลยว่าบัตรประชาชนออกมาจากสำนักเบียนไหน และจากการตรวจสอบบัตรดังกล่าวพบว่าบุคคลดังกล่าวบ้านอยู่เทศบาลตำบลลาดหญ้า แต่เจ้าของมาทำบัตรที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรี เมื่อทราบข่าวดังกล่าวตนก็เป็นห่วงว่าเจ้าหน้าที่ของเรามีการทุจริตหรือไม่ จริงรีบทำการตรวจสอบโดยด่วนแต่ก็ไม่พบการทุจริตแต่อย่างใด
สำหรับเจ้าของบัตรตัวจริงชื่อ... (ขอสงวนนาม) อายุ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน ตรงกัน แต่ในบัตรที่ปลอมขึ้นมา มีการเปลี่ยนรหัสเลข 13 หลักสลับกันไปมา รวมทั้งชื่อนามสกุลในบัตรทั้ง 7 ใบก็ไม่เหมือนกันด้วย สรุปแล้วต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่าใครเป็นคนปลอมแปลงเอกสารบัตรประชาชนจำนวนดังกล่าว โดยเจ้าของบัตรตัวจริงได้ไปทำบัตรประชาชนล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมปี 2566 ที่ผ่านมาที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรี เนื่องจากบัตรหมดอายุ และรูปในบัตรเป็นรูปหน้าเจ้าของบัตรในปัจจุบัน
ถามว่าในกรณีนี้ทางอำเภอจะต้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่นั้น เพราะกรณีนี้อำเภอเมืองกาญจนบุรีของเราไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะตามที่นำเรียนสื่อมวลชนไปแล้วว่าบัตรประชาชนในปัจจุบันสามารถเดินทางไปทำได้ในทุกสำนักทะเบียนทั่วประเทศและหากใครนำบัตรคนอื่นไปใช้ในทางเสียหาย เจ้าของบัตรตัวจริงจะเป็นผู้เสียหายโดยตรง แต่ถ้าหากเราตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่ามีการปลอมแปลงบัตรประชาชนจริง กรมการปกครองจะเป็นผู้เสียหายไม่ใช่อำเภอเป็นผู้เสียหาย
อยากจะแจ้งเตือนไปถึงประชาชนผ่านสื่อมวลชนว่า บัตรประชาชนนั้นมีความสำคัญมาก ทุกวันนี้หากนำบัตรประชาชนไปแสดงเพื่อทำธุรกิจหรือธุรกรรมอะไรต่างๆ ก็ใช้บัตรประชาชนแค่ใบเดียว เพราะฉะนั้นอย่าไว้ใจและให้ใครไปเด็ดขาดและหากทำธุรกรรมอะไรก็ให้ขีดค่อมแล้วเขียนระบุใช้เฉพาะธุระนั้นให้ชัดเจน สำหรับบัตรทั้ง 7 ใบเหมือนกันเฉพาะที่อยู่ จากการตรวจสอบแล้วไม่พบในฐานข้อมูล จึงไม่รู้ว่าออกมาได้อย่างไร เพราะฉะนั้นสำนักทะเบียนจึงยังไม่เกิดความเสียหาย แต่ถ้าหากมีการนำบัตรไปใช้สำนักทะเบียนกรมการปกครองจะเป็นผู้เสียหาย เพราะเป็นหน่วยงานที่ดูเรื่องบัตรประชาชนในภาพรวมทั้งประเทศ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี