กรมการปกครองโร่ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีคนเดียวมีบัตรปชช.โผล่ 7 ใบ เผยเจ้าของภาพยืนยันเป็นผู้เสียหายที่ถูกนำบัตรไปปลอมแปลง และนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ขณะที่เผยผลตรวจสอบไม่ใช่วัสดุของฝ่ายทะเบียน เป็นการทำโดยมิจฉาชีพด้วยแอปพลิเคชันหนึ่ง
9 มี.ค.66 นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีข่าวที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ที่บุคคลคนเดียวมีบัตรประชาชน 7 ใบ ซึ่งกรมการปกครอง ในฐานะสำนักทะเบียนกลาง ได้มอบหมายให้สำนักบริหารการทะเบียน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และได้พบกับเจ้าของบัตรประชาชนตัวจริงตามหลักฐานทางทะเบียนและข้อมูลการขอมีบัตรประชาชน ซึ่งได้รับรายงานว่า นายภาคิน เจ้าของบัตรฯ ได้ลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า โดยแจ้งว่า ตนเคยขอกู้ยืมเงินจำนวน 50,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง ซึ่งได้มีการส่งภาพถ่ายบัตรประชาชนเป็นหลักฐานเพื่อประกอบการกู้ยืมเงิน และได้เสียเงินค่าธรรมเนียมให้กับผู้ให้กู้ จำนวน 500 บาท แต่ก็ไม่ได้รับเงินตามที่ขอกู้แต่อย่างใด ซึ่งในภายหลังพบว่าได้มีการนำเอาภาพถ่ายบัตรประชาชนของตนไปแก้ไขชื่อตัว ชื่อสกุล และเลขประจำตัวประชาชน และมีการนำไปใช้ จนเกิดการเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ตามที่ปรากฏในข่าว พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนเป็นผู้เสียหายที่ถูกนำบัตรประชาชนไปปลอมแปลงและนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง
นายแมนรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีเล่ห์กลที่แยบยลหลากหลายรูปแบบ และยังมีการสร้างแรงจูงใจให้หลงกลหลงเชื่ออย่างสนิทใจ โดยกำหนดว่า ผู้ที่จะซื้อสินค้าออนไลน์ หรือกู้เงินออนไลน์ จะต้องส่งสำเนาบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน จึงขอย้ำเตือนให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังและตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อน เพราะหากท่านส่งรูปบัตรประชาชนไปแล้วปลายทางคือมิจฉาชีพ ท่านอาจจะถูกนำรูปไปปลอมแปลงบัตรประชาชนได้
“การปลอมแปลงรายละเอียดชื่อในบัตรประจำตัวประชาชน เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท โดยหากพี่น้องประชาชนท่านใดมีข้อสงสัย หรือมีเบาะแสการกระทำผิดในลักษณะนี้ในพื้นที่อื่นๆ สามารถแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายแมนรัตน์ กล่าวในช่วงท้าย
ด้านนายเอกอนันต์ ศรีอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามการทุจริตการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน สำนักบริหารการทะเบียน กล่าวว่า ในวันนี้ ตนได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมการปกครอง ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฏบัตรประชาชนทั้ง 7 ใบดังกล่าว ซึ่งพบว่า บัตรเหล่านั้นไม่ได้มีการออกให้โดยจัดทำด้วยวัสดุอุปกรณ์ของสำนักบริหารการทะเบียน และไม่ปรากฏชื่ออื่นๆ ในฐานข้อมูลทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน เป็นการทำโดยมิจฉาชีพด้วยแอปพลิเคชันหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี