เปิดภาพมุมสูง!บินลาดตระเวนรอยต่อ‘เชียงราย พะเยา น่าน’ ชี้เป้าจุดเกิดไฟป่า
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 นายชุติเดช กมนณชุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 15 (เชียงราย) จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ จ.เชียงรายและ จ.พะเยา หลังจากยังคงมีปัญหาเรื่องฝุ่นละอองและหมอกควันในพื้นที่หนาแน่นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษรายงานว่าที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีปริมาณฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตรหรือ PM 2.5 ในอากาศเกินค่ามาตรฐานล่าสุดวัดได้ 101 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ เกินค่ามาตรฐานล่าสุดวัดได้ 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทาง สบอ.ที่่ 15 (เชียงราย) ได้ปรับแผนด้วยการใช้เครื่องบินหรืออากาศยานปีกตรึง Kodiak 100 ของศูนย์เทคโนโลยีดิจิตอลอากาศยานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกทำการบินเพื่อลาดตระเวนวิเคราะห์สถานการณ์และแจ้งข่าวสารแก่เจ้าหน้าที่ดับไฟภาคปฏิบัติการเป็นครั้งแรก โดยจะปฏิบัติการบินช่วงแรกตั้งแต่วันที่ 9-10 มี.ค.นี้ และอีกช่วงในวันที่ 13-14 มี.ค.ภายใต้การควบคุมของนายภาสกร พจนาพันธ์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการบินภาคเหนือ ซึ่งทาง สบอ.ที่ 15 (เชียงราย) ได้สั่งการให้พื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น พื้นที่อุทยานแห่งชาติ วนอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ฯลฯได้จัดตั้งห้องควบคุมสถานการณ์เพื่อติดต่อกับอากาศยานที่จะแจ้งข้อมูลที่พบเห็นทางอากาศให้รับทราบและให้แต่ละห้องควบคุมได้ปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมงด้วย โดยเมื่อทราบเหตุไฟไหม้ให้รีบเข้าไปจัดการดับโดยทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการบินลาดตระเวนของเครื่องบิน Kodiak 100 เป็นวันแรกนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการบินตามพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.เชียงราย จ.พะเยา และ จ.น่าน ซึ่งพบว่าในวันนี้เกิดไฟไหม้ในพื้นที่ จ.พะเยา จ.น่าน และ จ.เชียงราย หลายจุด ซึ่งส่วนในอยู่ในพื้นที่ที่ยากต่อการเดินเท้าเข้าไปดับ จึงได้มีการประสานงานเพื่อขออากาศยานให้เข้ามาช่วยในการดับไฟ ส่วนในจุดที่เจ้าหน้าที่ภาคสนามเข้าเดินเท้าเข้าได้ มีการประสานงานเพื่อเร่งเข้าทำการดับไฟแล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะมีการเข้มงวดตรวจสอบต่อไปเนื่องจากทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่าจะมีฝนตก และพายุลมพัดแรงในพื้นที่ภาคเหนือระหว่างวันที่12-14 มี.ค.นี้ ทำให้คาดว่าจะมีผู้เร่งเผาพื้นที่ทางการเกษตรก่อนที่พื้นที่จะเปียกทำให้จัดเตรียมพื้นที่เพาะปลูกได้ยากอีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ด้านหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ ได้มีการวิเคราะห์สภาพอากาศและหากพบว่าความชื้นอากาศมีเพียงพอก็จะส่งเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงโดยทันที ล่าสุดได้นำเครื่องบินเกษตรชนิด CASA จำนวน 2 ลำ ขึ้นทำการตรวจสอบและลาดตระเวนทางอากาศแล้ว.........-005