ผบ.ตร. สั่งตรวจข้อเท็จจริง กรณี สว.สืบ สน.พญาไท" ขอออกหมายจับ และเพิกถอนหมายจับ ส.ว.ทรงเอ พร้อมย้ำการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจชุดทำคดี "ทุน มิน หลัด" เป็นอำนาจผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และไม่ได้เป็นการลดชั้น
วันที่ 13 มีนาคม 2566 พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า เห็นเอกสาร 7 แผ่นที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลพญาไท เขียนชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องขอออกหมายจับ ส.ว.ทรงเอ และการเพิกถอนหมายจับต่อ กรรมการตุลาการศาลยุติธรรมแล้ว จึงสั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ไปตรวจสอบที่มาที่ไปของเอกสารดังกล่าว รวมถึงขั้นตอนและข้อเท็จจริงของการขอออกหมายจับ และเพิกถอนหมายจับต่อศาลอย่างละเอียด ซึ่งจะไม่เข้าไปก้าวล่างการใช้ดุลพินิจของศาล
เบื้องต้นททราบว่า ไม่ได้มีการรายงานการขอออกหมายจับ และเพิกถอนหมายจับ ให้กับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ 3 วันรับทราบ
กรณีเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 พ.ต.ท.มานะพงษ์ ร้องทุกข์กล่าวโทษให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดดำเนินคดีกับ ส.ว.ทรงเอ หลังถอนหมายจับ โดยมีการระบุให้ออกหมายเรียก มาสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ตามเอกสารชี้แจง 7 แผ่น ข้อที่ 19 นั้น ประเด็นนี้ ผบ.ตร. บอกว่า เรื่องไปได้เงียบหาย หรือล่าช้า พร้อมย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
ผบ.ตร. ยืนยันว่า การแต่งตั้งโยกย้าย ผู้กำกับ รองผู้กำกับ และ พ.ต.ท.มานะพงษ์ สารวัตรที่ทำคดี ส.ว.ทรงเอ พ้นจากตำแหน่งเดิม โดยเฉพาะสารวัตร และรองผู้กำกับ การโยกย้ายเป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยประเมินจากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งเห็นว่าตำรวจที่ย้ายมาแทนสามารถทำผลงานได้ดีกว่า ทั้งนี้ คดีเครือข่ายยาเสพตืดของนายทุน มิน หลัด เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. แต่ก็จะดำเนินการให้เกิดความชัดเจน