ตำรวจทางหลวงพิษณุโลก เผยวินาทีเกลี้ยกล่อมช่วยครูโรงเรียนดังหวังรมควันฆ่าตัวตายคารถเก๋งหลังมากราบหลวงพ่อพระพุทธชินราช เชื่อบารมีองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราชทำให้อาจารย์ดังกล่าวไม่ถึงฆาต

วันที่ 15 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พ.ต.อ.สาธิต สมานภาพ ผกก.5 บก.ทล.สั่งการให้ พ.ต.ท.ยุทธนัน จันทร์เนตร รอง ผกก.5 บก.ทล., พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล.3 (พิษณุโลก) กก.5 บก.ทล. นำกำลังตรวจพื้นที่รับผิดชอบเฝ้าระวังขบวนการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ใช้เส้นทาง ทล.126 เมื่อมาถึงแยกหนองอ้อ ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พบรถต้องสงสัยยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ จึงขอตรวจสอบ พบนายชลัท อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว

ตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่ที่เบาะนั่งผู้โดยสารฝั่งซ้ายพบเตาอั้งโล่พร้อมถ่านฟืนและจดหมายสั่งเสียฉบับหนึ่ง เขียนด้วยลายมือของนายชลัท เจ้าหน้าที่จึงรีบเชิญตัวมาพักสงบสติอารมณ์ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงสีหราชเดโชชัย เพื่อพูดคุยปรับทุกข์ และสอบถามหาสาเหตุจูงใจ

จากการสอบถามทราบว่าเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา มีข่าวนักเรียนโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งของ กทม.เกือบ 40 คน ที่เดือดร้อนเพราะถูกนายชลัท ซึ่งเป็นอาจารย์ของโรงเรียนโกงค่าทัวร์มูลค่าหลายล้านบาท เพราะก่อนหน้าการเดินทาง นายชลัท แจ้งว่าที่บ้านทำธุรกิจทัวร์ จึงอาสาเข้ามาดูแลการเดินทางไปญี่ปุ่นของคณะนักเรียน ผู้ปกครอง และอาจารย์ของโรงเรียน พร้อมเก็บค่าเดินทางคนละประมาณ 5 หมื่นบาท

ต่อมาก่อนการเดินทาง นายชลัท แจ้งกับลูกทัวร์ว่าเตรียมตั๋วเครื่องบินต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดวันเดินทางพบว่านายชลัท หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อสอบถามทางเคาน์เตอร์สายการบินพบว่าไฟลต์บินตามกำหนดเดินทางนั้นเต็มแล้ว แต่ไม่มีรายชื่อผู้โดยสารจากโรงเรียนดังกล่าวในไฟลต์บินแต่อย่างใด จนกระทั่งมีการเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท

ส่วนนายชลัท นั้นก็หายตัวไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงมาพบตัวก่อนที่จะรมควันฆ่าตัวตายและเข้ายับยั้งได้ทัน เบื้องต้นทราบว่า นายชลัทกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ทำให้หมุนเงินซื้อทัวร์ญี่ปุ่นได้ไม่ทัน จึงมีความคิดที่จะมาฆ่าตัวตายดังกล่าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมารับตัวนายชลัทไปดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล.3 (พิษณุโลก) กก.5 บก.ทล เปิดเผยว่า หลังจากได้พูดคุยกับนายชลัท ที่ยังมีสีหน้าท่าทีกังวลใจและเครียดกับปัญหาชีวิตที่ประสบอยู่ ก่อนจะเล่าระบายความรู้สึกว่าตนเองขับรถไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดหมายปลายทางเพราะหาทางออกชีวิตไม่ได้ จากนั้นได้โทรติดต่อไปยังเพื่อนที่รู้จักเพื่อที่จะขอซื้อปืนต่อมาจบชีวิตตัวเอง แต่เพื่อนคนดังกล่าวไม่ขายให้และให้สติว่าให้สู้ต่อไป กระทั่งขับมาถึง จ.พิษณุโลก ช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของวานนี้และได้แวะกราบพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ เพื่อให้จิตใจสงบลงก่อนจะตัดสินใจไปตระเวนซื้อเตาอั้งโล่พร้อมถ่านฟืนหวังจะมารมควันฆ่าตัวตายภายในรถเก๋ง แต่สุดท้ายก็ไปเจอกับด่านตรวจของตำรวจทางหลวงในที่สุด ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจพบของต่างๆ ในรถเก๋ง พร้อมเชิญตัวมาพูดจาเพื่อเกลี้ยกล่อมจนกลับตัวกลับใจไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายแล้ว ส่วนเรื่องคดีอื่นๆ ให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ พร้อมส่งตัวไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำาความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจต่อไป

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล.3 (พิษณุโลก) กก.5 บก.ทล ยังกล่าวอีกว่า เหตุที่สามารถช่วยเหลือนายชลัท ตนเชื่อว่าน่าจะมาจากบารมีขององค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช เพราะจากที่นายชลัทเล่าให้ฟังว่าได้กราบองค์หลวงพ่อแล้วเตรียมที่จะหาสถานที่ฆ่าตัวตาย แต่เมื่อขับรถไปหาสถานที่ก็หลงวนอยู่บริเวณตัวเมืองพิษณุโลกไม่สามารถออกไปไหนได้จนกระทั้งเจอกับตำรวจในที่สุด - 003