‘ปธ.กมธ.สิทธิ วุฒิสภา’ บี้เร่งปิด ‘หงษ์ทอง-มังกรฟ้า’ หลังพบ ‘นิติกรรมอำพราง ชี้ ‘นอท กองสลากพลัส’ ตั้งพรรค เป็นสิทธิตามกฎหมาย แนะ ‘กกต.‘ ถ้าสงสัยปมเงินอุดหนุนให้ถาม ‘ปปง.’ หลังยังไม่ถูกตรวจสอบคดีฟอกเงิน
16 มีนาคม 2566 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงการประชุมกมธ. เพื่อติดตามคดีเกี่ยวกับการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา การดำเนินการกับแพลตฟอร์มสลากผิดกฎหมายว่า การค้าสลากเกินราคามีผลกระทบกับผู้บริโภค ทั้งนี้สมาคมคนพิการเข้าร้องเรียนเรื่องโควต้าสลาก อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบติดตามและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงกับกมธ.ฯ พบว่า มีการปิดแพลตฟอร์มค้าสลากออนไลน์ผิดกฎหมาย 13 แพลตฟอร์ม เหลืออีก 2 แพลตฟอร์มที่ยังไม่ถูกสั่งปิด คือ หงษ์ทอง และ มังกรฟ้า เนื่องจากทั้งสองนั้นต่อสู้ว่าเป็นเพียงเซิร์ฟเวอร์ หรือ คนกลางรับฝากขายลอตเตอรี่เท่านั้น แต่พฤตินัยแล้ว พบว่าเป็นนิติกรรมอำพราง
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า จากการชี้แจงของหน่วยงานพบว่า ผู้บริหารของแพลตฟอร์มดังกล่าว เคยชี้แจงว่ามีการเตรียมเงินงวด 200 ล้านบาท และเงินเพื่อเป็นรางวัล 100 ล้านบาท เท่ากับว่าเตรียมเงินเพื่อกว้านซื้อและจำหน่ายสลาก ดังนั้นพฤติกรรมแล้วไม่ใช่คนกลางรับฝากขายสลาก และต้องถูกตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ที่ฝากว่าเป็นใคร รวมถึงบุคคลที่นำสลากมาฝากขายว่า เป็นนอมินี หรือผู้ค้ารายย่อย หรือผู้ค้าสลากที่ได้รับโควต้า หากผู้ที่ได้รับโควต้าสลากแต่นำมาจำหน่ายต่อแพลตฟอร์ม ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
“ประเด็นการค้าสลากออนไลน์ มีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพียงผู้เดียวที่ดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะรัฐไทยไม่อนุญาตให้รายใดทำกิจการแข่ง ซึ่งไม่เหมือนกับการให้บริการเครือข่ายมือถือ ดังนั้นรัฐไทยผูกขาดการค้าสลาก แต่เมื่อมีเซิร์ฟเวอร์ที่อ้างว่าดำเนินการ จะถือว่าผิดกฎหมาย ทั้งกฎหมายว่าด้วยสลากกินแบ่งรัฐบาล และผิดกฎหมายกรพนัน ดังนั้นสิ่งที่กมธ.ได้รับทราบข้อมูล จึงมองว่าแพลตฟอร์มที่เปิดอยู่ต้องถูกปิด เหมือนกับกองสลากพลัส แต่หากตรวจสอบในที่สุดแล้ว 2แพลตฟอร์มนั้นไม่ถูกปิด ต้องให้อีก 13 แพลตฟอร์มที่ถูกปิดไปก่อนหน้านี้ ต้องเปิดได้ตามหลักการให้ความเป็นธรรม” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นการตรวจสอบเส้นทางการเงินนั้น ทราบว่าแพลตฟอร์มนั้นต้องมีส่วนของการลงทุน ซึ่งสัมพันธ์กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ที่พบเส้นทางการเงิน หลักพ้นล้านบาทที่กองสลากพลัสโดน ซึ่งการตรวจสอบเท่าที่ทราบพบว่ามีนิติกรรมอำพราง เพราะจากการตรวจค้น ก่อนการอายัดทรัพย์พบว่ามีการโอนเงินออกไป ดังนั้นหากการลงทุนในเรื่องดังกล่าวเข้าข่ายเกี่ยวกับการพนัน คนที่ร่วมลงทุนต้องถือว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด ขณะนี้ ปปง. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยรายละเอียดทั้งหมดนั้น กมธ.เชื่อว่าหากสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย จะทำให้ช่วยลดปัญหาค้าสลากราคาแพงได้ และประชาชนได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสลาก
“กรณีของนอท กองสลากพลัส แม้จะมีการปรับเงินข้อหาค้าสลากราคาแพงแล้ว แต่คดีฟอกเงิน 39 เส้นทาง มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทยังคงถูกตรวจสอบ ซึ่งผมไม่ขอก้าวล่วงในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ดีสิ่งที่ตรวจสอบเจอ คือ เรื่องของการฟอกเงิน กับเว็บพนันที่พันกันไปหมด ทั้งวงการฟอกเงิน เว็บพนัน คาสิโนออนไลน์ คาสิโน ซึ่งถือเป็นคดีที่รัฐมีความเสียหาย ซึ่งกมธ.พร้อมติดตาม ในคดีของนอท” นายสมชาย กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ นอท กองสลากพลัส ตั้งพรรคเพื่อลงเลือกตั้ง นายสมชาย กล่าวว่า เป็นสิทธิตามกฎหมาย ที่สามารถตั้งพรรคเพื่อลงเลือกตั้งได้ แต่จะได้รับเลือกตั้งหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ส่วนกรณีที่นอท กองสลากพลัส ยังถูกดีเอสไอ ตรวจสอบในเส้นทางการเงินนั้น เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา
“การตั้งพรรคของนอท กองสลากพลัส เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่การเคลื่อนไหวในฐานะพรรคการเมืองควรได้รับการตรวจสอบ หากมีข้อสงสัยว่าเข้าข่ายทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง หรือการกระทำผิด การกระทำที่เข้าข่ายฟอกเงิน แม้ได้รับเลือกตั้งเมื่อศาลตัดสินต้องพ้นจากตำแหน่ง ขณะที่เส้นทางการเงินในการทำพรรค หาก กกต. สงสัย สามารถประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อตรวจสอบ” นายสมชาย กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี