ทวงความยุติธรรม!! ญาติเด็ก14 เหยื่อโจ๋ยิงหัวกลายเป็นคนพิการ​ คดีไม่คืบ​

ทวงความยุติธรรม!! ญาติเด็ก14 เหยื่อโจ๋ยิงหัวกลายเป็นคนพิการ​ คดีไม่คืบ​

วันอาทิตย์ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2566, 18.41 น.

19 มี.ค.66 นางปราณี อรัญพันธ์ อายุ 60 ปี พร้อมด้วย น.ส.แสงเดือน อรัญพันธ์ อายุ 22 ปี ชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นยายและอาของน้องพี อายุ 14 ปี ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังจากน้องพีหลานชายได้ถูกนายโน๊ต อายุ 17 ปี ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่หมวกกันน็อค กระสุนทะลุศรีษะด้านขวา หลังจากนัดมาเคลียร์ปัญหาคาใจกัน บริเวณหลังศาลากลางจังหวัดหลังเก่าในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 3 ก.ย.65 ที่ผ่านมา จนอาการสาหัสถูกส่งไปรักษาที่ รพ.บุรีรัมย์นานกว่า 20 วัน พออาการเริ่มดีขึ้นหมอให้ออกมาพักรักษาตัวต่อที่บ้านตอนแรกก็พอช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ตอนนี้ต้องกลายเป็นคนพิการนอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่เหตุการณ์ผ่านไปกว่า 6 เดือนแล้วคดีกลับไม่มีความคืบหน้า ทำให้ครอบครัวซึ่งมีฐานะยากจนอยู่แล้วได้รับความเดือดร้อน ยายก็อายุมากดูแลหลานพิการคนเดียวไม่ไหว อาต้องออกจากงานมาคอยดูแลหลานที่บ้านทำให้ขาดรายได้  และที่คาใจคือตำรวจบอกให้รอผลตรวจเขม่าดินปืนก็รอมาจน 6 เดือน แต่ล่าสุดตำรวจกลับบอกว่ายังไม่เจอปืน ทำให้ครอบครัวรู้สึกคาใจและเกรงว่าหลานจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้ทางตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา  เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย    

 


 

น.ส.แสงเดือน อรัญพันธ์ อาผู้บาดเจ็บ บอกว่า หลังจากหลานชายถูกยิงก็ให้ทนายช่วยติดตามเรื่องคดีความให้ตอนแรกทางตำรวจก็บอกว่าจับกุมตัวคนก่อเหตุได้แล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลตรวจเขม่าดินปืน แต่พอผ่านไป 6 เดือนตำรวจกลับบอกว่ายังไม่เจอปืนของกลาง   ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ มีเพียงคำสารภาพของผู้ก่อเหตุ และทราบว่าทางคู่กรณีได้รับการประกันตัวไปแล้วและใช้ชีวิตตามปกติ และทางทนายแจ้งว่าพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนไปอัยการแล้ว แต่ถูกตีสำนวนกลับให้มาดำเนินการเพิ่มเติม จึงทำให้ครอบครัวรู้สึกไม่สบายใจเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกไปพูดคุยไกล่เกลี่ยเรื่องการดูแลเยียวยาเบื้องต้น ตอนแรกทางครอบครัวจะยังไม่รับแต่ร้อยเวรฯ บอกว่าให้รับไปก่อน ซึ่งก็ทำบันทึกกันไว้ว่าจะเยียวยาให้ 50,000 บาท แต่เบื้องต้นเขาจ่ายให้ 20,000 บาทก่อน ที่เหลือเขารับปากจะจ่ายให้อีกแต่จนถึงขณะนี้ก็เงียบหายไปเลย

ด้านนางสุปราณี ยายของน้องพี  บอกว่า ตอนนี้สงสารหลานมากเพราะต้องกลายเป็นคนพิการ และดูเหมือนอาการจะทรุดลงกินอาหารได้น้อยลงไม่ค่อยพูด และที่สะเทือนใจคือ หลานเคยพูดสั่งเสียกับตนเองว่า “ถ้าผมตาย เอาหมี่กะทิ กับขนมจีน ให้ผมกินด้วย” ตนรู้สึกใจคอไม่ดีก็บอกหลานว่าอย่าพูดแบบนี้ถ้าหลานตายแล้วยายจะอยู่กับใคร ก็ได้ร้องไห้ปลอบหลานก็อยากจะขอความเป็นธรรมด้วยทั้งเรื่องการเยียวยา เพราะครอบครัวเดือดร้อนมากเงินที่มีก็หมดไปกับค่าดูแลหลาน จนแทบจะไม่มีเงินพาหลานไปหาหมอตามนัดแล้ว ส่วนเรื่องคดีก็ขอความเป็นธรรมให้หลานด้วย กลัวหลานจะถูกยิงเจ็บฟรี.-008 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top