เมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 ที่ห้องประชุมโรงแรมแกรนด์อินเตอร์โฮเทล ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครปี 2564 - 2565 เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 โดยมีนางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานอาวุโสและคณะกรรมการตลอดจนอดีตประธานหอการค้า อาทิ ดร.สุนทร วัฒนาพร, ดร.ปรีชา ศิริแสงอารัมพี, นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล สมาชิกวุฒิสภา นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสมุทรสาคร และที่ปรึกษา ตลอดจนสมาชิกหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
วาระสำคัญในการประชุมครั้งนี้คือเรื่องเลือกตั้งคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ปี 2566 เพื่อการขับเคลื่อนภารกิจหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ที่วางไว้อย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัล โดยมี ดร.สุนทร วัฒนาพร อดีตประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครได้ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมในการเลือกตั้งคณะกรรมการ และต่อมาคณะกรรมการชุดใหม่ได้เลือกให้นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล เป็นประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ปีบริหาร 2566 ต่ออีกหนึ่งสมัยเป็นสมัยที่ 2 ชนิดไร้คู่แข่ง
นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เรามีการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายโดยในส่วนของภาคเอกชนก็ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง ซึ่งหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร สมาคมการประมงสมุทรสาคร สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสมุทรสาคร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนสมาคมหรือองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวกับภาคเอกชนทั้งหมด สิ่งเหล่านี้คือความร่วมมือที่เราได้ทำร่วมกันมาตลอด ขณะที่ในส่วนของภาครัฐก็ได้ทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงภาคีเครือข่ายชุมชน ที่มีการทำงานร่วมกันกับหลายๆ พื้นที่ อันจะนำไปสู่การได้รับทราบข้อมูลที่ตรงต่อความต้องการของคนในพื้นที่แล้วนำมาเสนอต่อภาคราชการระดับจังหวัดเพื่อหาแนวทางในการกำหนดยุทธศาสตร์สู่การพัฒนาที่ตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้เป็นการทำงานในห้วงที่ผ่านมา และในปีนี้เราก็จะยังคงสานต่อแนวทางเดิมเพื่อการทำงานต่ออีก 2 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ เรายังมองในเรื่องของการต่อยอดยุทธศาสตร์จากความร่วมมือต่างๆ โดยจะพยายามต่อยอดให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ซึ่งรูปธรรมที่ชัดเจนจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเกิดจากความร่วมมืออีกเช่นเดียวกัน โดยจะเป็นการทำงานผ่านคณะทำงานในหลายๆ ด้าน เพื่อการกำหนดวิธีการแก้ปัญหา เช่น การแก้ไขปัญหาร่องน้ำตื้นเขิน ซึ่งหลังจากที่เราได้ลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาแล้วนั้น ก็ได้นำเข้าสู่ กรอ.จังหวัด เป็นต้น โดยสิ่งที่เราได้ก็คือ เป้าหมายร่วมกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแนวทางนี้นับเป็นแนวทางต่อเนื่องที่เราจะใช้ในการบริหารงาน 2 ปีข้างหน้านี้และสิ่งที่อยากจะทำมากที่สุดอีกหนึ่งเรื่องคือ การเพิ่มรายได้ และส่งเสริม SMEs ในจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ประกอบการขนาดเล็กในทุกๆ ด้านทั้งในเรื่องของการส่งเสริมการผลิต การตลาด และต้นทุน
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เรามีการวางเป้าหมายเอาไว้อย่างชัดเจน โดยส่วนหนึ่งอาจจะผ่านทางบริษัทประชารัฐฯ หรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจ SMEs ลงมาช่วยเหลือเราให้มากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นความตั้งใจของผมในการบริหารงาน 2 ปีนี้คือ การยกระดับองค์กรภาคเอกชนในจังหวัดสมุทรสาครทุกหน่วย ให้มาทำงานร่วมกันในเชิงภาคีที่เข้มแข็งด้วยรูปแบบสมัชชาภาคเอกชน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางในการทำงาน และ 2 ปีนับจากนี้เป็นต้นไป ผมอยากจะทำในเรื่องของการกำหนดยุทธศาสตร์จังหวัดในอีก 5 ถึง10 ปีข้างหน้าให้ได้อย่างเป็นรูปธรรมที่เป็นเสมือนกับมาสเตอร์แพลนของจังหวัด ว่าต่อไปการพัฒนาจังหวัดควรเป็นไปในทิศทางไหนตามมาสเตอร์แพลนของจังหวัด ซึ่งก็คาดการณ์ว่าในอีกไม่ช้าแนวทางนี้จะต้องประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน - 003