‘อรัญประเทศ’อ่วม

พายุฤดูร้อนถล่มเสียหาย2ตำบล

บ้านเรือนพัง47หลัง

อุตุฯเตือน27-29มี.ค.

พายุซัดอีกหลายแห่ง

พายุฤดูร้อนถล่ม “อรัญประเทศ” จ.สระแก้ว เสียหาย2 ตำบล บ้านเรือนพัง 47 หลัง นายอำเภอ-ปภ.รุดสำรวจช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้านอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อนถล่ม ช่วงวันที่ 27-29 มีนาคมนี้ ประเดิมภาคอีสาน

เมื่อวันที่ 26มีนาคม นายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมด้วยนายธวัฒชัย บุญแสง ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง อ.อรัญประเทศได้พานายอวิรุทธ์ วรกิตติ์ไพศาล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.สระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของบ้านเรือนราษฎร ภายหลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ ต.ฟากห้วย และ ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางอำเภออรัญประเทศได้เข้าสำรวจพบว่ามีบ้านเรือนราษฎรซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนพัดถล่มจนหลังคาบ้านปลิวหายไปบางส่วน และบางหลังโครงสร้างหลังคาถูกแรงลมพัดกระโชก จนได้รับความเสียหาย รวม 47 หลังคาเรือน

ทั้งนี้ ประกอบด้วย พื้นที่ ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ33หลังคาเรือน ใน 5 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 1บ้านพักอาศัยเสียหาย 1หลัง,หมู่ 2บ้านพักอาศัยเสียหาย1หลัง คอกวัว1แห่ง,หมู่ 3 บ้านพักอาศัยเสียหาย 13หลัง,หมู่ 7 บ้านพักอาศัยเสียหาย 12หลัง และหมู่ 10 บ้านพักอาศัยเสียหาย 6หลัง ส่วนที่ ต.บ้านใหม่หนองไทร มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย14หลังคาเรือนใน 2 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 3 บ้านพักอาศัยเสียหาย 5หลัง และหมู่ 8 บ้านพักอาศัยได้รับความเสียหาย 9หลังคาเรือน

อย่างไรก็ดี นายอุเทนพิมพิสาร นายกเทศมนตรี ต.ฟากห้วยนายก่อเกียรติ คติกำจร นายกเทศมนตรี ต.บ้านใหม่หนองไทรและนายบรรพต ศรีพรหม กำนัน ต.บ้านใหม่หนองไทร ได้ร่วมลงพื้นที่ด้วย ทั้งนี้นายจักรพงษ์ ได้ขอรับการสนับสนุนถุงยังชีพจากสำนักงานเหล่ากาชาด จ.สระแก้วเพื่อนำไปมอบให้กับครอบครัวผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว

นายจักรพงษ์เปิดเผยว่าขณะนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจความเสียหาย เมื่อสำรวจเสร็จสิ้นก็จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือจากทางจังหวัดสระแก้ว เพื่อดำเนินการช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วนต่อไป

วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26-29มีนาคม2566) ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบน ประเทศลาวตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันเดียวกันนี้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นช่วงวันที่ 26-29 มีนาคม 2566 โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกทม.และปริมณฑลจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวันและเวลาดังกล่าว