วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
กฎหมายแอลกอฮอล์กับกัญชา สองความเหมือนที่แตกต่าง?

กฎหมายแอลกอฮอล์กับกัญชา สองความเหมือนที่แตกต่าง?

วันจันทร์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2566, 18.42 น.
Tag : กฎหมายแอลกอฮอล์ กัญชา สองความเหมือนที่แตกต่าง?
  •  

สังคมไทยยังคงถกเถียงเรื่องความเหมาะสมในการซื้อขายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมถึงกัญชา โดยเฉพาะปัจจุบันที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกรัฐควบคุมอย่างเข้มงวด ออกกฎหมายเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กัญชานั้นได้รับการปลดล็อคจากบัญชียาเสพติด โดยยังไม่มีกฎหมายควบคุมดูแลอย่างชัดเจนเหมาะสม ทำให้ผู้คนในสังคมไม่ทันได้ตั้งตัว และเกิดการตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง

ประเทศไทยบังคับใช้กฎหมายไทยควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตั้งแต่อดีตทั้งด้านการผลิต การจำหน่าย และการบริโภค และเริ่มเข้มงวดขึ้นในสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร โดยมีการออกประกาศคณะปฏิวัติปี ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ห้ามมิให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเวลา 14.00-17.00 น. และ 24.00 – 11.00 น. และในปัจจุบันได้มีการออกพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ตามด้วยการออกกฎหมายลูกอื่นๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ มาตรการควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการควบคุมฉลากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น


ส่วนกัญชานั้น กระทรวงสาธารณสุขประกาศปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด นับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เป็นต้นมา เพื่อให้นำกัญชาไปใช้ประโยชน์ที่หลากหลายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ทางด้านการแพทย์ และจุดประสงค์ในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศ ทว่าประเทศไทยต้องอยู่ในภาวะสูญญากาศทางกฎหมายในการควบคุมกัญชา แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขจะออกประกาศเพื่อให้มีแนวทางกำกับควบคุมการใช้ตามมาในขณะที่รอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ผ่านการพิจารณาจากสภา แต่แนวทางเหล่านั้นก็ยังไม่ครอบคลุมกับสถานการณ์  ไม่มีบทลงโทษ และไม่สามารถตอบคำถามความสงสัยของของประชาชนได้

ผศ.สุรินรัตน์ แก้วทอง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หนึ่งในคณะผู้วิจัยเรื่อง “แนวทางการพัฒนากฎหมายควบคุมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” และ “มาตรการทางกฎหมายในการควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ” ให้แนวคิดต่อคำถามที่ว่า เราควรคิดและเรียกร้องให้รัฐจัดการกับกฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์และกัญชาอย่างไร? โดยกล่าวว่า สังคมไทยควรมองทั้งประโยชน์และโทษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกัญชา แทนที่จะมองเพียงโทษอย่างเดียวจนทำให้ทั้งสองสิ่งนี้เป็นตัวร้ายในการสื่อสารและสร้างการรับรู้ของสังคม

“เราต้องยอมรับก่อนว่าเราสามารถใช้ประโยชน์จากทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกัญชาได้จริง แต่มีความพิเศษบางอย่างที่ต้องควบคุม และพิจารณาต่อไปว่าเราต้องควบคุมอะไรบางอย่างเพื่อลดผลกระทบที่สร้างความเสียหายต่อคนในสังคม แม้สินค้าทั้งสองนี้จะมีผลกระทบต่อสติสัมปชัญญะของผู้เสพ ซึ่งจะต้องหาจุดสมดุลระหว่างสิทธิของผู้บริโภคกับการอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งจุดสมดุลคือจุดที่ยากที่สุดว่าเราจะให้เสรีภาพในการเสพของผู้บริโภคมากแค่ไหน รัฐจะต้องควบคุมมากแค่ไหน ควบคุมอะไรบ้าง คือสิ่งที่ต้องร่วมกันพิจารณาอย่างละเอียด แต่ไม่ใช่การตัดสินว่าเป็นโทษแต่เพียงอย่างเดียว”

เมื่อถามถึงสถานการณ์ล่าสุดของกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกฎหมายกัญชาในปัจจุบัน ผศ.สุรินรัตน์ ให้ความเห็นว่า รัฐยังมองสินค้าทั้งสองชนิดนี้ในระนาบเดียวกันโดยไม่ได้ใส่ใจรายละเอียด เช่น กฎหมายแอลกอฮอล์ รัฐกำหนดเรื่องเวลาห้ามขายแบบเหมารวมทั่วประเทศโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องสถานที่ ส่วนกฎหมายกัญชา รัฐก็ไม่ได้พิจารณาประเภทของอาหารที่ควรหรือไม่ควรใสกัญชา

“ภายใต้ความเหมือนนั้น สิ่งที่แตกต่างของกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกฎหมายกัญชา คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีการควบคุมมายาวนานแบบอนุรักษ์นิยม ส่วนกัญชามีการปลดล็อคจากสถานะจากยาเสพติดอย่างรวดเร็วเนื่องจากเหตุผลทางการเมืองและผลประโยชน์ทางธุรกิจ จริงๆ ควรพิจารณาปรับปรุงกฎหมายทั้งคู่ เราควรมีการควบคุมกัญชามากกว่านี้ และต้องปล่อยแอลกอฮอล์มากกว่านี้”

หนึ่งในข้อเสนอของผศ.สุรินรัตน์ต่อกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่พ้องกับข้อเสนอของหลายฝ่ายในสังคมก็คือ การทำโซนนิ่ง“เนื่องจากบริบทของสังคมที่แตกต่างกัน บางพื้นที่เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมเชิงศาสนา บางพื้นที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ เราก็อาจจะต้องจัดให้บางพื้นที่มีความเข้มงวดมากหน่อย บางพื้นที่มีเสรีมากหน่อย แต่มันจะมีค่ากลางแล้วก็บวกลบไปด้วยเหตุผลต่างๆ นอกจากการโซนนิ่งพื้นที่ ก็อาจจะมีการอนุโลมในเชิงเวลา เช่น การกินดื่มของชาวบ้านในงานบวชงานแต่ง ก็ต้องเอาเรื่องประเพณีวัฒนธรรมมาพิจาณาผ่อนปรนให้เขามากกว่าปกติ อันนี้คือโซนนิ่งที่จัดกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ทางวัฒนธรรม แล้วก็ผูกกับตัววัฒนธรรมท้องถิ่น ส่วนพื้นที่อีกแบบที่อาจจะต้องมีการควบคุมดูแลก็คือพื้นที่ที่มีกิจกรรมของคนจำนวนมาก”

ข้อเสนอนี้ตรงกับหนึ่งในผลลัพธ์และคำแนะนำจากงานวิจัย เรื่อง มาตรการทางกฎหมายในการควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะที่ ผศ.สุรินรัตน์ เป็นหนึ่งในคณะผู้วิจัย พบว่า เมื่อเปรียบเทียบมาตราการการกำหนดโซนนิ่ง หรือบริเวณในพื้นที่สาธารณะที่อยู่ในการควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์กับประเทศอื่นๆ ประเทศสิงคโปร์ มีการกำหนดคำนิยามของพื้นที่สาธารณะ โดยใช้เกณฑ์การเข้าถึงของประชาชนและระบุว่าพื้นที่ใดบ้างจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและพื้นที่ใดบ้างสามารถดำเนินการได้ สอดคล้องของจุดประสงค์ของบริบทในแต่ละพื้นที่

นอกจากนี้ ผศ.สุรินรัตน์ ยังให้แนวคิดด้วยว่า หากเป็นพื้นที่ที่มีตัวแปรมากกว่าหนึ่งอย่าง เช่น เป็นทั้งพื้นที่ท่องเที่ยวและมีวัดหรือโรงเรียนตั้งอยู่ ก็ควรพิจารณาบริบทของผู้คนเป็นหลัก โดยประเมินถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับเสรีนโยบายหรือกฎระเบียบใดๆ ในพื้นที่ ทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์ อันรวมถึงเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชน หรือเชิงคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ไม่ใช่ความเชื่องมงาย

ผศ.สุรินรัตน์ ยังให้ความเห็นด้วยว่าวิธีคิดภายใต้ประกาศกำหนดเวลาห้ามซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเวลา 14.00-17.00 น. นั้นเก่าเกินไปแล้วและรัฐควรปลดล็อคเรื่องนี้ 
“อย่างน้อยที่สุดก็ในสถานที่ท่องเที่ยวควรผ่อนปรนต่อกฎหมายนี้ อาจเปลี่ยนรูปแบบกฎหมายโดยกำหนดให้ผู้ขายและผู้ประกอบการมีหน้าที่ตรวจสอบอายุของผู้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกครั้งอย่างเคร่งครัด ถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างรัฐและผู้ขายหรือผู้ประกอบการในการควบคุมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยไม่ใช่สัดส่วนหารเท่า แต่ให้ผู้ประกอบการและผู้บังคับใช้กฎหมายร่วมกันทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบด้วย” ผศ.สุรินรัตน์ กล่าวย้ำ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘กัญชา-กาสิโน’ยังทำได้! เริ่มแล้ว‘เอ็มพาวเวอร์’ล่าชื่อปลด‘ขายบริการทางเพศ’พ้นอาชีพผิดกม. ‘กัญชา-กาสิโน’ยังทำได้! เริ่มแล้ว‘เอ็มพาวเวอร์’ล่าชื่อปลด‘ขายบริการทางเพศ’พ้นอาชีพผิดกม.
  • ‘หมอธีระวัฒน์-รสนา-ปานเทพ’ นัดแถลงยื่น สธ. ประกาศกัญชาเป็นยาเสพติดแบบมีเงื่อนไข ‘หมอธีระวัฒน์-รสนา-ปานเทพ’ นัดแถลงยื่น สธ. ประกาศกัญชาเป็นยาเสพติดแบบมีเงื่อนไข
  • ม็อบกัญชาบุกทำเนียบฯ  ค้านกลับเป็นยาเสพติด ม็อบกัญชาบุกทำเนียบฯ ค้านกลับเป็นยาเสพติด
  • \'ภท.-สายเขียว\'รุมต้านดึงกัญชากลับสู่ยาเสพติด เปิดปมพิรุธมีมติตั้งแต่ยังไม่ได้ประชุม 'ภท.-สายเขียว'รุมต้านดึงกัญชากลับสู่ยาเสพติด เปิดปมพิรุธมีมติตั้งแต่ยังไม่ได้ประชุม
  • ดับฝัน‘สายเขียว’!  สธ.ชูผลโหวต80%  กัญชาคืนยาเสพติด ดับฝัน‘สายเขียว’! สธ.ชูผลโหวต80% กัญชาคืนยาเสพติด
  • ‘หมอใหญ่ ม.ขอนแก่น’ เบรคนำกัญชากลับยาเสพติด แนะฟังความรอบด้านก่อนตัดสินใจ ‘หมอใหญ่ ม.ขอนแก่น’ เบรคนำกัญชากลับยาเสพติด แนะฟังความรอบด้านก่อนตัดสินใจ
  •  

Breaking News

มัลดีฟส์ลุกเป็นไฟ! 'มุก วรนิษฐ์'อวดหุ่นเซ็กซี่ในชุดบิกินี่สดใส

ไม่ปล่อยให้ผ่านมือ!'รอง ผกก.สืบฯฮีโร่'ขับรถกลางดึกเจอโจรผัวเมียงัดตู้เติมเงินจับทันที

สางไฟใต้!!! 'นายกฯ'ถก'รมว.กลาโหม-ผบ.ตร.-ปลัดมท.'

โอละพ่อ! คนสนิท 'สว.โชคชัย' บอกพิกัดบ้านผิด ทำ 'กกต.-DSI' หลงทาง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved