ตำรวจ บช.ปส.รวบเครือข่ายยานรกลอบขนจากภาคเหนือ ทั้งใช้รถขนและส่งผ่านพัสดุ ยึดของกลาง ยาบ้ากว่า 6.7 ล้านเม็ด เคตามีน 400 กิโลกรัม เร่งสอบสวนขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลังในการสั่งการ
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัยผบช.ปส.พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ผบก.ปส.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.แถลงผลปฏิบัติการทลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่และรายย่อยที่มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ผบ.ตร.โดยสามารถจับกุมได้ 3 เครือข่าย พร้อมตรวจยึดของกลาง ยาบ้า 6.7 ล้านเม็ด และคีตามีน น้ำหนักรวม 400 กิโลกรัม
สำหรับเครือข่ายแรก ตำรวจ กก.1 บก.ปส.2 และศูนย์วิเคราะห์ข่าว ปส.2 สืบทราบว่า นายสนธยา(สงวนนามสกุล) เป็นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ ด้าน จ.เชียงราย มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางและพื้นที่ใกล้เคียง ทางพัสดุผ่านบริษัทขนส่ง ต่อมาในวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริษัทขนส่งดังกล่าว พบพัสดุถูกสำแดงว่าเป็นน้ำผลไม้ 15 กล่อง ระบุชื่อผู้รับคือนายเปี๊ยกถูกส่งมาจาก จ.เชียงรายเมื่อสแกนตรวจสอบ พบวัตถุรูปทรงสี่เหลี่ยมวางเรียงกัน
จากนั้นได้นำส่งพัสดุดังกล่าวไปส่งตามที่อยู่ปลายทาง โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปด้วย กระทั่งมีการส่งพัสดุถึงปลายทาง พบตัวนายสุริยา แจ้งว่าพักอาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามที่ระบุให้จัดส่ง โดยให้ข้อมูลว่า นายเปี๊ยก ที่มีชื่อระบุในกล่องพัสดุเป็นญาติตนที่เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีก่อน เจ้าหน้าที่จึงนำภาพถ่ายนายสนธยา ให้ตรวจสอบ โดยนายสุริยา ยืนยันว่าบุคคลในภาพคือ นายสนธยา เป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน เจ้าหน้าที่และพนักงานบริษัทขนส่ง จึงร่วมกันเปิดกล่องพัสดุทั้ง15 กล่อง เพื่อตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นคีตามีน บรรจุในลังไม้น้ำหนักรวม 300 กิโลกรัม
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปส.2 ได้ขยายผลจากการตรวจยึดคีตามีนดังกล่าว จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 4 ล้านเม็ด ที่มีการนำมาบรรจุในกล่องใส่น้ำผลไม้ เพื่อตบตาบริษัทขนส่ง ว่าได้จัดส่งน้ำผลไม้ไปยังปลายทาง จ.พิษณุโลก ทางเจ้าหน้าที่และบริษัทขนส่ง จึงร่วมกันติดตามไปตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางไว้ได้ดังกล่าว โดยจะเร่งสืบสวนขยายผลไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการสั่งการที่เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ต่อไป
เครือข่ายที่ 2 ตำรวจ กก.3บก.ปส.2 ตรวจสอบพบว่านายวัฒนา(สงวนนามสกุล) มีพฤติการณ์ขนยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เลย ไปส่งให้ผู้ค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยในวันที่ 23 มีนาคม ตำรวจ บก.ปส.2 ได้ติดตามรถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีขาว ซึ่งทราบว่าพาหนะที่ใช้ขนยาเสพติด ไปจนถึง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ก่อนจะพบรถจอดที่หน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาหนองหาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบคีตามีน ที่ท้ายรถกระบะ บรรจุในถุงชาจีน สีเขียว อยู่ภายในกระสอบพลาสติก 4 กระสอบ รวม 100 กิโลกรัม นอกจากนี้กำลังตำรวจอีกชด ได้ติดตามรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีขาว และรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีเทา ซึ่งเป็นรถสำรวจเส้นทาง ก่อนจะเข้าจับกุมนายวัฒนา (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปีนายสุภชีพ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปีนายวีรธรรม(สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี และนายทิวทอง(สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ได้ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.แจ้งข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
ส่วนอีกเครือข่าย ตำรวจ กก.2บก.ปส.3 สืบทราบว่านายอำนาจ (สงวนนามสกุล) จะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากชายแดน อ.เชียงแสน ไปยัง อ.เมือง จ.เชียงราย โดยใช้รถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน สีขาว จึงเฝ้าติดตามกระทั่งในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ดังกล่าว บนถนนบายพาสเชียงแสน-เชียงราย มุ่งหน้า อ.เมือง จ.เชียงราย จึงสะกดรอยติดตามจนถึงบริเวณสี่แยกแม่ข้าวต้ม ถนนเวียงบูรพา (บายพาสตะวันออก) ต.นางแล อ.เมืองจ.เชียงราย จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบตัวนายอำนาจ เป็นคนขับรถ พร้อมของกลาง ยาบ้า2.7 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถจึงจับกุมตัวพร้อมของกลาง ไว้ดำเนินคดีในความผิดข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนขยายผลติดตามตัวผู้สั่งการในขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป ขณะที่ยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดไว้จะนำส่งไปตรวจพิสูจน์ ทั้งที่สำนักงาน ป.ป.ส.กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการในการทำลายต่อไ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี