'ทนายตั้ม'ควงไฮโซสาวเข้าพบตำรวจเมืองนครพนม กรณี "ครูแก้ว ลูกสาว" และคนใกล้ชิดฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ยืนยันเดินหน้าหาความยุติธรรม
วันที่ 29 มี.ค.66 เมื่อเวลา 08.30 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม อายุ 42 ปีพร้อมด้วย น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ อายุ 55 ปีเจ้าของบริษัทรับผลิตจำหน่ายน้ำยางพารารายใหญ่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีอาญาที่ 1425/2565 ฐานความผิดร่วมกันหมิ่นประมาท โดยการโฆษณาโดยมีผู้กล่าวหาจำนวน 3 คนคือ 1.นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต ส.ส.นครพนมเขต 1 และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร 2.น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) นครพนม และ 3.นายธนบวร สิริคุณากรกุล ประธานคณะกรรมการติดตามแผน อบจ.นครพนม เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลทั้งสอง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ทนายตั้ม และ น.ส.ช่อฉัตร ได้จัดให้มีการแถลงข่าวโดยการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวระบุว่า "...ผู้ก่อเหตุ คนนี้นอกจากว่าเขาจะมีตำแหน่งทางรัฐสภาแล้ว เขาก็ยังไปเป็นที่ปรึกษานายก อบจ.และเป็นสามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยนะครับ ก็เอาง่ายๆ นะ ก็เหมือนกับเป็นลูกเขยอ่ะ ลูกเขยของรองประธานสภาคนหนึ่ง ไม่บอกว่าคนไหนนะครับ พี่พี่สื่อมวลชนพากันไปหาเอาเอง..." ส่งผลให้ผู้ที่รับชมการแถลงข่าวดังกล่าวทำให้ผู้คนเข้าใจนายก อบจ.ว่า ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับนายธนบวร คู่กรณีของ น.ส.ช่อฉัตร ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วนายก อบจ.ยังไม่ได้แต่งงานและไม่มีครอบครัวแต่อย่างใด ซึ่งถือได้ว่าเนื้อความที่ทนายตั้ม และ น.ส.ช่อฉัตร ได้ให้สัมภาษณ์เป็นการใส่ความให้นายก อบจ.เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง ซึ่งทนายตั้มและ น.ส.ช่อฉัตร ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คดีนี้ผู้กล่าวหาทั้ง 3 คนได้แจ้งความดำเนินคดีรวม 5 คดี แต่เป็นข้อหาหมิ่นประมาททั้งหมด โดยใช้พนักงานสอบสวนถึง 3 นายได้แก่ 1.พ.ต.ท.กวินธ์พงศ์ ดำรงดาลัยพงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม 2.พ.ต.ท.ธานินทร์ กันภัย และ 3.ร.ต.อ.จำรัส ศรีหาตา
หลังจากทนายตั้ม ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว ได้เปิดเผยถึงการถูกนายศุภชัย โพธิ์สุ, น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ และนายธนบวร สิริคุณากรกุล แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ว่า เป็นเจตนาให้ตนลำบากในการเดินทางและเป็นเรื่องที่แปลกเพราะไม่เคยเอ่ยชื่อใครแม้แต่คนเดียว และการที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกซ้ำซ้อนก็จะนำเรื่องนี้ไปขอความเห็นจากตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเพื่อขอโอนคดีไปที่ส่วนกลาง
ด้าน น.ส.ช่อฉัตร กล่าวว่า ดูจากรายละเอียดคำฟ้องแล้วไม่มีอะไรหนักใจ เหมือนต้องการฟ้องเพื่อปิดปากเท่านั้น ตนพร้อมต่อสู้และจะฟ้องกลับส่วนมูลเหตุของเรื่องเงิน 25 ล้านบาทยืนยันว่าเกิดขึ้นเมื่อ 2562 มีชายหญิงคู่หนึ่งไปหาที่บริษัท พร้อมระบุว่าเป็นสามีภรรยากันต้องการเงินจำนวนหนึ่งไปใช้ในการหาเสียง การนำความจริงมาเปิดเผยต่อสาธารณะคือไม่ต้องการคู่กรณีลอยนวลแม้จะโดนขู่ว่าจะให้หายไปจากโลกนี้เมื่อไหร่ก็ได้ พร้อมจะต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี