อุตุฯ เตือน 31 จังหวัดรับมือพายุฤดูร้อน เกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ด้านปภ.แจงพายุถล่ม 7 จังหวัดอีสานส่วนจันทบุรีทุเรียนร่วง 600 ตัน ‘หนองคาย’พายุถล่มบ้านเสียหายกว่า400 หลังคา

เมื่อวันที่ 29มีนาคม น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 10 (89/2566) ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวันและเวลาดังกล่าว

สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบมีดังนี้ ภาคเหนือ จ.พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ได้รายงานอ้างถึงสถานการณ์ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางเกิดพายุฤดูร้อนโดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก

ในช่วงวันที่ 27–29 มีนาคม 2566 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 7 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม สุรินทร์ อุดรธานี ยโสธร นครพนม สกลนคร และร้อยเอ็ด รวม 13 อำเภอ 28 ตำบล 68 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 313 หลัง

ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง

ที่ จ.จันทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุฤดูร้อน มีฝนตกและลมกระโชกแรง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ในพื้นที่ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี มีต้นทุเรียนของเกษตรกร หักโค่นเป็นจำนวนมาก ทำให้ทุเรียนที่กำลังจะใกล้ตัดขายได้ ในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ร่วงหล่นจากต้นหลายร้อยตัน

หลังพายุสงบลง นายอำเภอเขาคิชฌกูฎพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เบื้องต้นพบว่า 1.พื้นที่ ต.ชากไทย ต้นทุเรียนโค่นล้มประมาณ 20 ไร่ ลูกร่วง 200 ตัน 2.พื้นที่ ต.พลวง โค่นล้ม 10 ไร่ ลูกร่วง 300 ตัน 3.พื้นที่ ต.ตะเคียนทอง ต้นโค่นล้ม 5 ไร่ ลูกร่วง 50 ตัน 4.พื้นที่ ต.จันทเขลม โค่นล้ม 3 ไร่ ลูกร่วง 30 ตัน และ 5.พื้นที่ ต.คลองพลู โค่นล้ม 2 ไร่ ลูกร่วง 20 ตัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อขอรับการเยียวยาความเสียหายแล้ว

จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจความเสียหายจากฤทธิ์พายุฤดูร้อนถล่มเมื่อคืน28 มี.ค.โดยเป็นลักษณะลมกระโชกแรง ฝนตกเล็กน้อยแต่ลมแรงนานหลายนาทีทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะงในพื้นที่ ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เบื้องต้นมีบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 400 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่หลังคาบ้านถูกแรงลมพัดสังกะสีมุงหลังคาปลิวว่อน หลุดออกทั้งแถบ บางหลังหลุดออกบางส่วน บางหลังส่วนต่อเติมบ้านถูกลมพัดแรงจนพังเสียหาย

ส่วนที่โรงเรียนบ้านเดื่อ ต้นจามจุรียักษ์อายุกว่าร้อยปี หักโค่นทับสนามตะกร้อ สังกะสีอาคารเรียนหลุดออกเป็นแถบ ครูต้องเร่งช่วยกันเก็บทรัพย์สินของทางราชการให้อยู่ในที่ปลอดภัย ขณะที่ประตูทางเข้าวัดโนนสว่าง บ้านน้อย หมู่ 1 ต.บ้านเดื่อ ถูกแรงลมพัดพังเสียหาย ไฟฟ้าดับหลายชั่วโมง

ที่ จ.ขอนแก่น เครือข่ายเพื่อนเตือนภัย จ.ขอนแก่นได้รับรายงานจากพื้นที่ อ.สีชมพูว่าหน่วยงานราชการ โรงพยาบาลสีชมพู และโรงเรียนสีชมพูศึกษา รวมถึงบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้น เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 มี.ค.โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหาย ซึ่งลมกระโชกแรงทำให้หน้าต่างกระจกในสถานที่แห่งหนึ่งพังครืนลงมาได้รับความเสียหายและแรงลมยังทวีความรุนแรงขึ้นเช่นเดียวกับบริเวณโรงพยาบาล อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่นมีพายุฝนตกกระหน่ำ และแรงลมกระโชกแรง

ขณะที่ จ.ศรีสะเกษ มีรายงานว่า ได้เกิดฝนตกหนักในช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน ที่บริเวณพื้นที่ ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ ส่งผลให้เกิดมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่แล้ว