30 มีนาคม 2566 นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เผยว่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมามีการแจ้งเตือนพายุฤดูร้อน เหตุการณ์ปกติ แต่จะมีควันไฟอยู่บ้างในพื้นที่สาเหตุที่เกิดไฟไหม้มาจากฟ้าผ่าที่เขาชะพลู 1 จุด ทำให้เกิดไฟปะทุลามมาที่เขาแหลม และมาวันที่ 29 มี.ค. พบว่า มีลมแรงมาก ซึ่งด้านหน้าเขาแหลมคือพื้นที่หลังสนามยิงปืนโรงเรียน จปร. ส่วนพื้นที่หมู่ 13 ตำบลเขาพระ เรียกว่า หลังเขาแหลม ในส่วนด้านหน้าเขาแหลม หลังสนามยิงปืน จปร.ทาง พลโทปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้บัญชาการในส่วนของพื้นที่โรงเรียน จปร. แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า สภาพเขามีความชันสูง ทิศทางลม รวมถึงความมืดในช่วงตอนกลางคืน และที่สำคัญคืออันตรายของกำลังพลที่เข้าไปทำงานในพื้นที่ จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการทำงาน

ในส่วนของด้านหลังเขาแหลม พื้นที่หมู่ 13 ต.เขาพระ ตามที่ได้ข้อมูลมา ไฟจะไหม้ลามอยู่บนสันเขาโดยรอบ ทางผู้นำท้องถิ่นเตรียมรถน้ำต่างๆ สแตนบายด้านล่างในกรณีที่ไฟลามลงมาด้านล่าง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้จะคล้ายกับปี 63 ซึ่งในปี 63 ไฟลามลงมาด้านล่าง เจ้าหน้าที่ก็จะทำการเก็บดับไฟตามจุดต่างๆ ที่ไหลลงมา แต่ครั้งนี้ไฟมันลามอยู่ที่แนวสันเขาสูง และมีจุดเสี่ยงอันตรายเยอะ จึงต้องเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของการทำงานเป็นหลัก รวมถึงคำนึงถึงทิศทางลม ซึ่งสถานการณ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นมา มีช่วงปะทุที่เขานางดำบางจุด ที่อยู่ติดกับเขาแหลมที่เป็นจุดสูงสุดใน ต.เขาพระ แต่ข้อดีคือจุดที่สูงของเขามีความชื้นอยู่บ้าง เป็นป่าเบญจพรรณ ทำให้มีการชะลอตัว

“เมื่อคืนออกมาจากพื้นที่ตอนเวลา 01.00 น. และได้ประเมินสถานการณ์ตอนเวลา 05.00 น. กับผู้อำนวยการท้องถิ่น โดยมอบหมายให้นายอำเภอเมืองนครนายก ในฐานะผู้อำนวยการอำเภอ นาย อบต.เขาพระ ในฐานะผู้อำนวยการท้องถิ่น ทำงานร่วมกันในภาคพื้นที่เพื่อร่วมประเมิน ในตอนเช้าก็จะพบว่ามีการปะทุ และมีควันสีขาวขึ้นมาจากเขา ทำให้เข้าใจว่ามาจากความชื้นส่วนหนึ่งทำให้ไฟเบาลง แต่ความรุนแรงต่างๆ จะพบว่า ในช่วงบ่ายและช่วงเย็นจะมีการปะทุสูง เนื่องจากเป็นการเก็บความร้อนและทิศทางลมเหมือนเมื่อวานตอนเย็น เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานสู้ทิศทางลมไม่ไหว ทั้งที่มีการวางแผนที่จะนำรถแบ็กโฮ รถน้ำต่างๆ รวมถึงกำลังพลเดินเข้าไปทำการดับไฟ แต่เมื่อเจอทิศทางลมที่ทำให้ไฟรุนแรงขึ้นมา จึงต้องเซฟกำลังพล จึงอยากให้เข้าใจว่า การทำงานนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องดูทิศทางลม แต่หากไม่มีลมก็จะสามารถดำเนินการได้ในระดับหนึ่ง”

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวอีกว่า หลังมีภาพเผยแพร่ออกไปทางสื่อ จึงต้องยกระดับการดับไฟขึ้นมาในระดับจังหวัด ซึ่งมีตนเป็นผู้บัญชาการศูนย์ ในส่วนภาคพื้นดินมอบหมายให้นายอำเภอเมืองนครนายก เป็นผู้คุมกำลังพลเรือนในการดับไฟ ที่อาจลุกลามลงมาด้านล่าง ซึ่งอาจจะอันตรายต่อบ้านเรือนประชาชน จะมีรถน้ำคอยดูแล และในช่วงสายจะมี ฮ.จากหน่วยงาน กองทัพบก อุทยานและ ปภ. มาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยมี นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขึ้น ฮ.และทำการชี้เป้าให้ข้อมูลในเชิงพิกัด นำข้อมูลมาสรุปเพื่อเข้าทำการดับไฟตามจุดต่างๆ ซึ่งเมื่อชุดของอุทยานประเมินสถานการณ์ พบว่าไฟอาจลามลงมาด้านล่าง ก็จะประสานนายอำเภอ นำรถน้ำ กำลังพล มาทำการดับไฟในภาคพื้นด้านล่างเชิงเขา โดยแยกการทำงาน คือ ภาคพลเรือนรับผิดชอบจุดเชิงเขา ทางภาคพื้นอากาศ ฝ่ายทหารรับผิดชอบ ทางภาคยุทธศาสตร์ในการดับไฟ ชี้เป้าให้ความชื้น เป็นหน้าที่ของทางอุทยาน แบ่งออกเป็น 3 ชุด

นอกจากนี้ จากการประสานกับโรงเรียนเตรียมทหาร จะมีเครื่องบินของกองทัพอากาศมาช่วยเหมือนครั้งปี 63 เป็นชุดประเมินขึ้นไปภาพถ่าย รวมถึงภาพถ่ายจากโดรนจากภาคเอกชนและทางอุทยานฯ ประเมินและกำหนดยุทธศาสตร์ในการดำเนินการ และในเวลา 18.00 น. จะมีประเมินผลการทำงานว่าเป็นอย่างไร เข้าเป้าหรือไม่เข้าเป้า

เวลา 11.00 น.ฮ. KA-32 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้บินมาถึงในพื้นที่เขาแหลม ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก โดยได้ลงจอดรอคำสั่งชี้จุดปล่อยน้ำที่โรงเรียนจปร. หลังจากได้คำสั่งชี้เป้าในพื้นที่เขานางดำ ได้ใช้ถุงบิ๊กแบ็กขนาดใหญ่ตักน้ำในพื้นที่โรงเรียนนายร้อยจปร. ที่มีถึง 3 แหล่งและอ่างเก็บน้ำห้วยปรือที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ประสานกับหัวหน้าชลประทานจังหวัดนครนายก ให้นำน้ำในอ่างเก็บน้ำไปใช้ในภารกิจดับไฟป่า ขณะเดียวกันมีฮ.จากกองทัพมาร่วมสนับสนุนในการดับไฟอีก 1 ลำ ส่วนภาคพื้นดินด้านล่างมีกำลังพลนำอุกปกรณ์ รถน้ำ เฝ้าระวังไฟที่อาจจลามลงมาด้านล่าง