“ทอม เครือโสภณ” โผล่ศาล ยอมโพสต์ข้อความขอโทษ คดีหมิ่น “สนธิ ลิ้มทองกุล” ชำระค่าเสียหาย 3 แสนบาท-ปมโพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหา “ทักษิณ” เคยเอื้อประโยชน์เป็นความเท็จ ศาลให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาอีกครั้ง 24 เม.ย.นี้
วันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 905 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.2170/2563 ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจุลภาค หรือ “ทอม เครือโสภณ” นักธุรกิจชื่อดัง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย จำนวน 5 ล้านบาท
คดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2563 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า จำเลยเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก ที่ชื่อ Tom Julpas Kruesopon ที่เปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ติดตามเฟซบุ๊กของจำเลยสามารถมองเห็นรับรู้และเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ โดยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2563 จำเลยใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม โดยแพร่ภาพและคลิปผ่านเฟซบุ๊กพาดพิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล กรณีแตกหักกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นข้อความเท็จทั้งสิ้น เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง
การที่จำเลยแพร่ภาพสดและวีดีโอ ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจได้ว่า การที่โจทก์ออกมาต่อต้าน“นายทักษิณ ชินวัตร”ในช่วงปี 2548-2552 เกิดจากการไม่ได้รับส่วนแบ่ง หรือไม่ได้รับผลตอบแทนตามสัญญาจากนายทักษิณ ชินวัตร และทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นคนปลดหนี้เป็นพัน ๆ ล้านบาท ทั้งที่ความจริงแล้ว โจทก์ไม่เคยมีสัญญาหรือมีข้อตกลงว่าจะต้องได้รับผลประโยชน์ตอบแทน และในขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยมี License (ใบอนุญาต) ทีวีออกมาแต่อย่างใด เหตุเกิดที่แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. โดยศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องและประทับรับฟ้องคดีไว้เพื่อมีคำพิพากษา
ต่อมาระหว่างการสืบพยานนายจุลภาค จำเลยได้แถลงยอมรับสารภาพ ขอเจรจาไกล่เกลี่ย โจทก์จึงให้จำเลยลงข้อความขอโทษลงในเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน และชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ จำนวน 3 แสนบาท แต่เนื่องจำเลยไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้ โดยยังไม่ชำระค่าเสียหายอีก 1 แสนบาท และยังไม่ลงข้อความขอโทษลงในเฟซบุ๊ก จึงขอให้ศาลอ่านพิพากษา เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2566 แต่ปรากฏว่าจำเลยไม่มา ศาลจึงออกหมายจับเพื่อให้มาฟังคำพิพากษา
ในช่วงเช้าวันนี้ นายจุลภาค หรือ “ทอม เครือโสภณ”จำเลยซึ่งมีท่าทางยิ้มแย้มและระบุสำนึกในการกระทำแล้ว เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด ส่วนโจทก์มีเสมียนทนายความมาฟังคำพิพากษาแทน
จากนั้นทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย แถลงร่วมกันว่า ล่าสุดจำเลยได้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 3 แสนบาทแล้ว แต่ยังไม่โพสต์ข้อความข้อโทษลงในเฟซบุ๊กให้ครบถ้วน ต่อมาจำเลยแถลงว่ายินดีที่จะปฏิบัติตามข้อตกลง โดยได้ยินยอมโพสต์ข้อความขอโทษโจทก์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวต่อหน้าศาล และรับปากว่าจะอ่านข้อความขอโทษในไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กภายในวันนี้ และจะคงข้อความดังกล่าวไว้นานเป็นระยะเวลา 7 วัน จนถึงวันที่ 6 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ศาลให้จำเลยนำหลักฐานการโพสต์ดังกล่าวมาแสดงให้ศาลทราบด้วย และให้เลื่อนฟังคำพิพากษาอีกครั้ง วันนี้ 24 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ล่าสุดนายจุลภาค ได้โพสต์ข้อความขอโทษนายสนธิแล้ว โดยระบุว่า เรื่อง ขอโทษคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เรียน คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ตามที่ข้าพเจ้านายจุลภาศ เครือโสภณ ได้ถ่ายทอดสดกล่าวพาดพิงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ผ่านทางเฟสบุ๊ค (Facebook) ที่ใช้ชื่อว่า "Tom Julpas Kruesopon" เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563 มีความคลาดเคลื่อนในประเด็นดังต่อไปนี้
1. การออกใบอนุญาต (license) ทีวี ขณะนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีข้าพเจ้าขอเรียนว่า ในขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยมี license (ใบอนุญาต) ทีวีใหม่ ๆ ออกมาแต่อย่างใด คุณสนธิฯ ไม่เคยได้รับผลประโยชน์จากการออกใบอนุญาตทีวี
2. คุณสนธิลิ้มทองกุล ไปเลี้ยงฉลองแชมเปญกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นหรืออนันตรา และยกแก้วและพูดว่า "ทักษิณจงเจริญ ทักษิณ จงเจริญ”ข้าพเจ้าขอเรียนว่าข้าพเจ้าไม่เคยพบเจอคุณสนธิ ลิ้มทองกุล โรงแรมโฟร์ซีซั่นหรือ อนันตรา คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่เคยไปเลี้ยงฉลองแชมเปญกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงแรม โฟร์ซีซั่นหรืออนันตรา และไม่เคยยกแก้วและพูดว่า "ทักษิณจงเจริญ ทักษิณ จงเจริญ" เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่เป็นความจริง ข้าพเจ้าเป็นผู้กล่าวลอย ๆ ขึ้นมาเอง คุณสนธิฯ ไม่เคยมีเรื่องผลประโยชน์ มาเกี่ยวข้องระหว่างคุณสนธิฯ และนายทักษิณฯ
ข้าพเจ้าขอเรียนว่า ข้อความที่ข้าพเจ้าเคยกล่าวพาดพิงคุณสนธิฯ ผ่านทางเฟสบุ๊ค (Facebook)ที่ใช้ชื่อว่า "Tom Julpas Kruesopon" เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563 นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจาก คุณสนธิฯ ไม่เคยมีสัญญาหรือมีข้อตกลงว่าจะต้องได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการทุจริตคอรัปชั่นของนายทักษิณ
ชินวัตร และในขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยมี license (ใบอนุญาต) ทีวีใหม่ ๆ ออกมาแต่อย่างใด และคุณสนธิฯ ไม่เคยไปเลี้ยงฉลองแชมเปญกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงแรม โฟร์ซีซั่นหรือ อนันตรา และไม่เคยยกแก้วและพูดว่า "ทักษิณจงเจริญ ทักษิณจงเจริญ" เกี่ยวกับการปลดหนี้แบงค์กรุงไทยนั้นนายทักษิณ ชินวัตร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ
การกระทำของข้าพเจ้าที่กล่าวพาดพิงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ผ่านทางเฟสบุ๊ค (Facebook) ของข้าพเจ้าที่ชื่อว่า "Tom Julpas Kruesopon" เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563 นั้น เกิดจากการขาดความรอบคอบ และไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนพูดออกไป ทำให้ข้อมูลเกิดความผิดพลาด ข้าพเจ้าจะใช้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและจะไม่กระทำพฤติการณ์ดังกล่าวอีกต่อไปข้าพเจ้าขอขอบคุณคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นอย่างสูงที่เมตตาให้อภัยในการกระทำผิดพลาดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขออภัยและขอขมาต่อคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มา ณ โอกาสนี้