นายกฯสั่งทบ.-ทส.ระดมสรรพกำลัง
ดับไฟป่าเขาแหลม
ส่งเฮลิคอปเตอร์โปรยน้ำสกัดเพลิง
‘บิ๊กป้อม’ลงพื้นที่นครนายก31มี.ค.
ย้ำมท.ประสานกองทัพ-สธ.ดูแลปชช.
เตรียมพื้นที่รองรับถ้าจำเป็นให้อพยพ
ปลัดมท. เรียกประชุมด่วน 62 จังหวัดเผชิญไฟป่าหมอกควัน รับลูกนายกฯสั่งการ “มท.-ทส.-สธ.”รวมถึงกองทัพบกระดมกำลังสนับสนุนอากาศยานดับไฟป่าเขาแหลม-เขาชะพลู นครนายก ให้ได้เร็วที่สุด “บิ๊กตู่” ปัดลงพื้นที่ เผยงานเยอะ
ส่งมท.1เป็นตัวแทนไปติดตามสถานการณ์ ด้านผวจ.นครนายกฯระดมสมองปรับแผนสกัดเพลิงลุกลาม ตั้งศูนย์บัญชาการระดับจว.“บิ๊กป้อม”ลงพื้นที่เขาแหลม31มีค. กำชับสาธารณสุขดูแลกลุ่มเปราะบาง ถ้ามลพิษเกินมาตรฐานให้เตรียมพื้นที่รองรับการอพยพ จิสด้าเผยจุดความร้อนในไทยเหลือ2.8พันจุด ‘เชียงใหม่’แซงขึ้นมาเป็นอันดับ1 ส่วนPM2.5 แม่ฮ่องสอนพุ่งเกิน500มคก.
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานข้อมูลการตรวจจับจุดความร้อนในประเทศไทยจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 29 มีนาคม ปรากฏว่าสถานการณ์ไฟป่า ฝุ่นควันยังน่าเป็นห่วง
จุดความร้อนลดลง-เชียงใหม่อันดับ1
ไทยพบจุดความร้อน 2,870 จุด โดยเมียนมายังมีจุดความร้อนมากเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนอยู่ที่ 3,964 จุด ลาว 2,139 จุด เวียดนาม 205 จุด กัมพูชา 195 จุด และมาเลเซีย 53 จุด สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,479 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,080 จุด พื้นที่ชุมชนอื่น 111 จุด พื้นที่เกษตร 100 จุด พื้นที่เขต สปก. 86 จุด, และริมทางหลวง 14 จุด จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ เชียงใหม่ 608 จุด แม่ฮ่องสอน 522 จุด และ เชียงราย 435 จุด
PM2.5แม่ฮ่องสอนพุ่ง500มคก.
ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ภาคเหนือยังน่าเป็นห่วงมาก ข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น”รายชั่วโมง พบหลายจังหวัดมีค่า PM 2.5 อยู่ในระดับสีแดง และมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะจ.แม่ฮ่องสอนมีค่า PM 2.5 สูงสุดกว่า 500 ไมโครกรัม เกินค่ามาตรฐานไปถึง 10 เท่า (ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 ไมโครกรัม) ตามด้วยเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก และเลย ควรสวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมนอกอาคารสถานที่ ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ ขณะที่กรุงเทพมหานครคุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี
นายกฯสั่งมท.-ทส.เร่งดับไฟป่าทั่วปท.
มีท่าทีรัฐบาลหลังสถานการณ์ฝุ่นควันไฟป่าทั่วประเทศเข้าขั้นวิกฤติ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์ไฟป่าบริเวณเขาชะภู อ.เมือง จ.นครนายก เชียงใหม่ เชียงราย และหลายจังหวัดภาคเหนือใกล้ชิด นายกฯสั่งการกระทรวงมหาดไทย (มท.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช ส่งทีมชุดดับไฟป่าเข้าปฏิบัติการเข้าดับไฟป่า พร้อมให้กองทัพสนับสนุนการปฏิบัติการ เพื่อดับไฟป่าที่เกิดขึ้นให้ได้เร็วที่สุด
ระดมสรรพกำลังสกัดไฟบ้านนา
ทั้งนี้ กรณีไฟป่าจ.นครนายกนั้น ปภ.นำรถสูบน้ำระยะไกลเข้าปฏิบัติการดับไฟป่า ร่วมกับทีมไฟป่าของกรมอุทยานแห่งชาติฯ พื้นที่เกิดเหตุเป็นเขาสูงชัน ทำให้ชุดดับไฟป่าของสถานีควบคุมไฟป่าไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อดับเพลิงได้ อีกทั้ง เพลิงยังลุกลามไปเขาแหลม ซึ่งอยู่ติดจ.นครนายกประสานขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยพร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ ปภ.เขต 3 ปราจีนบุรี และเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย (KA-32) จาก ปภ. เข้าดับไฟแล้ว โดยมีเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ประกอบด้วยรถสูบส่งน้ำระยะไกล รถดับไฟป่า รถส่องสว่าง รถบรรทุกน้ำ 10,000 ลิตร รถกู้ภัยรวม 5 คัน ออกปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อ.บ้านนา จ.นครนายก ตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา
ขอเลขาอาเซียนฯถกลดฮอตสปอต
ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯได้หารือกับดร.เกา กิม ฮวน (Dr. Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะหลังเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนอย่างเป็นทางการ โอกาสนี้ นายกฯย้ำถึงสถานการณ์หมอกควันข้ามแดน เป็นความท้าทายที่รุนแรงของภูมิภาค พร้อมขอรับการสนับสนุนจากเลขาธิการอาเซียนผลักดันการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยขอให้ช่วยประสานหรือสนับสนุนจัดการประชุมเร่งด่วนกับประเทศสมาชิกเพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะการลดจำนวนจุดความร้อน (hotspot) ให้สถานการณ์ดังกล่าวดีขึ้นโดยเร็ว
มอบมท.1ตัวแทนนายกฯลงพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะลงไปดูพื้นที่จ.นครนายกฯ เองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ไป รับฟังรายงานก่อน และมีงานเยอะที่ตนต้องบริหาร และศูนย์สั่งการอยู่ที่นี่กรุงเทพฯ ให้ติดตามตั้งแต่เช้าแล้ว ทั้งเรื่องฮ.กองทัพบกด้วย ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันตระหนักรู้ว่าเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ส่วนที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่นั้น ก็ไปในหน้าที่ของท่านก็ไป จะไปก็ไป วันนี้ตนก็ดูหมดแล้ว แล้วได้คุยกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สั่งการไปหมดแล้ว ฉะนั้น ใครจะไปดูก็ไป
“บิ๊กป้อม”จะไปก็แล้วแต่ท่าน
“พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย เดินทางลงไปในพื้นที่แล้ว ก็ไปในนามผมนั่นแหละ ผมสั่งตั้งแต่เมื่อคืน รวมถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เมื่อพล.อ.อนุพงษ์ลงไปดูวันนี้ก็โอเค นายกฯทำงานของนายกฯ แล้ว มีเวลาก็จะไป แต่ถ้าไม่มีเวลาหรือมีภารกิจอื่นที่สำคัญ นายกฯก็ต้องให้คนอื่นไป แต่ไม่ใช่ว่าเออ ใครไปแล้วใครได้ ไม่ใช่ นี่คือหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาล ใครจะไปก็แล้วแต่ เข้าใจไหม แล้วใครไปในนามนายกฯล่ะ นายกฯได้สั่งกระทรวงมหาดไทย ก็ไป คนอื่นจะไปก็แล้วแต่ท่าน”นายกฯกล่าว
31มีค.บิ๊กป้อมลงพื้นที่นครนายกฯ
วันเดียวกัน พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 31 มีนาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าเขาแหลม จ.นครนายก พร้อมสั่งการย้ำกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯสนับสนุน ปภ.วางแผนร่วมระดมคน เครื่องมือช่างและจัดอากาศยาน เข้าช่วยเหลือดับไฟพื้นที่ป่าเขาแหลม ต.พรหมณีเป็นการด่วน แต่เน้นปฏิบัติการเวลากลางวัน ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานทุกคนเป็นหลัก เพื่อลดความรุนแรงและจำกัดการขยายตัวของไฟป่าพื้นที่เขาแหลมให้ได้โดยเร็ว
เตรียมพื้นที่รองรับต้องอพยพ
สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน ฝุ่นเขม่าที่ลอยมาตามสายลมทั้งพื้นที่ต.พรหมณี และ ต.เขาพระให้มท. จังหวัดประสานกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ช่วยกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุที่เดือดร้อนทันที ให้เตรียมพื้นที่รองรับการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่หากจำเป็น อันเกิดจากมลภาวะอากาศเกินเกณฑ์ที่กำหนด
มท.ถกด่วน62จว.แก้ฝุ่นควันไฟป่า
วันเดียวกัน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เรียกประชุมด่วนติดตามและแก้ไขปัญหากรณีไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางรวม 62 จังหวัด โดยนายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องตื่นตัว แก้ปัญหาอย่างรวดเร็วให้ประชาชน ขณะนี้มีจังหวัดที่มีเหตุการณ์ไฟป่าและมีหมอกควันรุนแรง ซึ่งทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะที่เป็นผู้นำเผชิญเหตุ ต้องทำให้สังคมเห็นว่า เราทำเต็มที่แล้ว ซึ่งต้องพูดคุยกับประชาชน กับสื่อมวลชน ให้ชัดเจน ถึงขั้นตอนการปฎิบัติราชการการทำงาน สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน ที่ผ่านมาทุกจังหวัดปฏิบัติการให้ปัญหาเรื่องหมอกควันไฟป่าอยู่ในวงที่ดูแลได้ ยังไม่มีเหตุการณ์ที่อาสาสมัครบาดเจ็บ แต่ขอให้มีระบบวางแผนคำนึงถึงความปลอดภัยของจิตอาสาและอาสาสมัครอย่างเต็มที่
ปัดส่งฮ.ช่วยช้าแจงบินได้วันละ12ชม.
ส่วนกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเฮลิคอปเตอร์ที่ส่งไปช่วยดับไฟป่าเขาแหลม จ.นครนายกล่าช้านั้น นายสุทธิพงษ์ ชี้แจงว่า เฮลิคอปเตอร์มีจำกัด และชั่วโมงบินสามารถบินได้แค่วันละ 12 ชั่วโมง ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ไม่ได้นิ่งนอนใจ และขอความช่วยเหลือแล้ว
เสียหาย700ไร่-ตั้งศูนย์คุมสถานการณ์
ขณะที่นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวรายงานสถานการณ์ไฟป่าที่เขาแหลมว่า ไฟเริ่มลุกไหม้ที่เขาชะพลู ต.พรหมณี อ.เมืองนครนายก จากนั้นไฟลุกลามถึงเขาแก้ว เขาแหลม ลามไปที่เขาตะแบก หลังโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งพื้นที่เขาแหลมมีประมาณ 700 ไร่ ได้รับความเสียหายประมาณ 500 ไร่ และเขาพระประมาณ 200 ไร่ ได้ประสานผู้บัญชาการโรงเรียนในร้อยพระจุลจอมเกล้าตั้งกองบัญชาการระดับจังหวัดขึ้น กระทรวงมหาดไทย กองทัพบกส่งเฮลิคอปเตอร์มาช่วย คาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ใน 3 วัน
ผวจ.นครนายกฯระดมสมองสกัดไฟลาม
วันเดียวกัน ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกประชุมด่วนร่วมกับทหารจากโรงเรียนนายร้อย จปร.และโรงเรียนเตรียมทหาร ปภ. นครนายก กอ.รมน.จังหวัดวางแนวทางดับไฟป่าบนเขาแหลม เขาชะพลู ซึ่งทำให้พื้นที่ป่าเสียหายแล้ว 700 ไร่ สาเหตุที่ไฟลุกลามวงกว้างเนื่องจากเป็นป่าไผ่และหญ้าคา เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี รวมถึงลมพัดแรง ช่วงเช้าวันนี้จะใช้เครื่องบินจากกองทัพอากาศ และโดรนบินตรวจสภาพอากาศ หาหัวไฟและหาจุดความชื้นเพื่อวางแผนดับไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับวันที่ 30 มีนาคม จะมีเฮลิคอปเตอร์ ka 32 ของปภ.มาสนับสนุนภารกิจดับไฟป่ารวมถึงเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนจากกองทัพ และกรมทรัพยากรธรรมชาติฯ ขณะที่เครื่องบินจากกองทัพอากาศจะบินสำรวจถ่ายภาพทางอากาศใช้ประเมินวางแผนทำงาน
มท.1ลงพื้นที่สั่งจ.สระบุรีเตรียมพร้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เดินทางไปศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ไฟป่า และหมอกควันในจ.นครนายก ที่องค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระ จังหวัดนครนายก เพื่อติดตามการแก้ปัญหาไฟป่า โดยกำชับต้องควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัด และให้ประสานจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อ รับทราบสถานการณ์เตรียมพร้อมผลกระทบที่อาจเกิดในขึ้นพื้นที่
ตัดทางไฟคุมพื้นที่ไฟไหม้ได้แล้ว
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ หากสถานการณ์มีแนวโน้มขยายวงกว้างให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาขอรับการสนับสนุนอากาศยานปีกหมุน KA-32 ของ ปภ. และของ ทอ. เพื่อเสริมกำลังดับไฟป่าในพื้นที่นครนายก สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและปฏิบัติการควบคุมไฟป่าในขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมพื้นที่ไฟไหม้บนเขาไม่ให้ขยายวงกว้างได้แล้ว และใช้วิธีการสร้างความชุ่มชื้นบนผิวดินเพื่อตัดทางไฟ ซึ่งยังไม่พบอุปสรรคในการปฏิบัติงาน สำหรับเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติงานในช่วงกลางวัน เนื่องจากการบินบนพื้นที่เขาช่วงกลางคืนค่อนข้างมีความอันตราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี