วันที่ 5 เมษายน 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากหม่อมราชวงศ์รายหนึ่ง และพวกรวม 4 คน เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อหาตามหมายจับศาลในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันลักทรัพย์ เมื่อวานนี้ จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและให้ข้อมูลทั้งหมดว่าเงินจำนวน 176 ล้านบาท ที่ต้องการเบิกถอนจากธนาคารเป็นเงินของชาวจีนคนหนึ่งคาดว่าเสียชีวิตไปแล้ว และกำลังขยายผลว่าเป็นเงินจากการค้ายาเสพติดหรือไม่
โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้ว่าจ้างชาวกัมพูชาให้ปลอมตัวเป็นคนจีนเจ้าของเงิน โดยมีการไปยื่นขอเบิกเงินกับธนาคารหลายครั้งแต่ไม่ผ่านการอนุมัติ เนื่องจากมีข้อมูลหลายอย่างดูไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะใบหน้าของตัวละครชาวกัมพูชาที่จ้างมาไม่ตรงกับเจ้าของบัญชี หรือไม่ตรงปก กลุ่มผู้ต้องหาพยายามอ้างว่ามีการไปทำศัลยกรรมใบหน้ามา แต่ทางธนาคารก็ยังไม่เชื่อ โดยต้องการเอกสารประกอบการเบิกถอนเงินเพิ่มเติม
จากการขยายผลตรวจสอบในพื้นที่เขตบางรัก พบว่ามีต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ถูกว่าจ้างให้ไปถอนเงิน ใช้พาสปอร์ตปลอมและมีการตราประทับ โดยพบหลักฐานบัตรต่างด้าวสีชมพูที่ออกโดยนายทะเบียนเขตบางรัก จึงเชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะมีการทุจริตของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และจากการไล่ข้อมูลยังพบความเชื่อมโยงกับขบวนการอุ้มบุญชาวจีน เนื่องจากจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น พบเตียงและยาบำรุง สันนิษฐานว่าจุดดังกล่าว อาจเป็นจุดที่ใช้พาสหญิงไทยที่รับจ้างอุ้มบุญ
รอง ผบ.ตร. ยังระบุว่า หากปล่อยให้ขบวนการอุ้มบุญชาวจีนขยายตัวเชื่อว่าระยะยาวจะกลืนชาติไทยเพราะเด็กที่เกิดจากแม่อุ้มบุญชาวไทยจะได้สัญชาติไทย และได้สิทธิ์อยู่ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม สั่งการให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 2 คน รวมทั้งเร่งรัดดำเนินคดีกับนายทะเบียนเขตบางรัก ที่พบหลักฐานเกี่ยวข้องเชื่อมโยงด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี