เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง โดย พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง โดย พ.ต.ท.พลวรรธน์ พุ่มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง ร่วมกันบูรณาการผนึกกำลัง กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ดอนเมือง โดย พ.ต.ต.ชัยรันต์ พลหาญ รรท.รอง ผกก.ป.สน.ดอนเมือง ลุยจับหมายค้างเก่าของ สน.ดอนเมือง ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น จำนวน 3 คน ตามหมายจับทั้ง 3 หมายจับ พร้อมของกลาง เป็นอาวุธปืนไม่มีทะเบียนจำนวน 1 กระบอก โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รายละเอียดดังนี 1.นายอาทิตย์ อายุ 26 ปี 2.นางสาวมาริสา อายุ 37 ปี 3.นาย นราหรือสามอายุ 36 ปี
ผู้ต้องหาคนที่ 1 สน.ดอนเมือง โดย พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สน.ดอนเมือง ,พ.ต.ท.พลวรรธน์ พุ่มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ร่วมกับ พ.ต.ต.ชัยรันต์ พลหาญ รรท.รอง ผกก.ป.สน.ดอนเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเหตุ ทะเลาะวิวาทโดยผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน บริเวณ แฟลตการเคหะทุ่งสองห้องตึก 3 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ (5 เม.ย. 66) เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบเหตุที่บริเวณดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงบริเวณดังกล่าวไม่พบตัวผู้ก่อเหตุที่มีอาวุธปืน แต่จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์จึงได้ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายอาทิตย์ หรือฟัก ซึ่งนายอาทิตย์ฯ ผู้ก่อเหตุ ได้หลบหนีออกไปแล้ว เมื่อทราบดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ตรวจสอบประวัติและหมายจับค้างเก่าของนายอาทิตย์ฯ พบว่านายอาทิตย์ หรือฟัก มัฏฐานนท์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 761/2565 ลงวันที่ 14 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2565
ในข้อหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท๑(เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท๑ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายอาทิตย์ฯ ได้กลับมาและซุกซ่อนตัวอยู่ภายในห้อง แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ (สถานที่จับกุม) เมื่อทราบดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมได้นำกำลังและหมายจับที่กล่าวไปในข้างต้น ไปยังที่ห้องพักที่ผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ เมื่อไปถึงพบว่าห้อง ปิดและล็อคประตูจากด้านใน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เคาะประตูเรียกบุคคลภายในห้อง จากนั้นนายอาทิตย์ หรือฟัก มัฏฐานนท์ (ทราบชื่อภายหลัง) เปิดประตูและเดินออกมา พร้อมทั้งแสดงตัวว่าเป็นผู้ครอบครองและพักอาศัยที่ห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้นายอาทิตย์ฯ ตรวจสอบและจากการสอบถามนายอาทิตย์ฯ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญา ที่ ๗๖๑/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๑๔ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๕ฯ จริงและยังไม่เคยถูกจับกุมหรือมอบตัวตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้นายอาทิตย์ฯ ทราบว่าต้องถูกจับกุม พร้อมกับแจ้งสิทธิ์และข้อหา ให้กับนายอาทิตย์ฯ ทราบ ณ สถานที่จับกุม นายอาทิตย์ฯ ทราบและเข้าใจดีแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามถึงอาวุธปืนของนายอาทิตย์ฯ ตามที่ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวข้างต้น นายอาทิตย์ฯ ต่อมารับว่าตนเองได้กระทำการดังกล่าวไปจริงและรับว่าได้มีการนำอาวุธปืนออกมาโชว์ สอบถามรับว่าอาวุธปืนตนเองได้นำไปเก็บไว้ในห้องพัก จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจยึด รายละเอียดปรากฏดังนี้ อาวุธปืนพก แบบแม็กกาซีน ยี่ห้อ Colt Super .๒๒ จำนวน 1 กระบอก แม็กกาซีน จำนวน 1 แม็ก เครื่องกระสุน ขนาด .22 จำนวน 9 นัด ซองพกหนัง จำนวน 1 ซองตลับสีขาว จำนวน 1 ตลับ (สำหรับใส่เครื่องกระสุนปืน)
จากการสอบถามนายอาทิตย์ หรือฟักฯ ให้การว่าตนได้ซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวมาจากอินเทอร์เน็ต มาประมาณ ๑ เดือน ในราคา 13,000 บาท และจากการตรวจสอบพบว่านายอาทิตย์ มัฏฐานนท์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ ๗๖๑/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๑๔ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๕ ในข้อหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท๑(เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท๑ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของ นายอาทิตย์ มัฏฐานนท์ มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๗ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์” ในพื้นที่ สน.ดอนเมือง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๒ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ (พืชกระท่อม)” ในพื้นที่สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๒ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาฯ” ในพื้นที่ สภ.ปากเกร็ด ภ.จว.นนทบุรี เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๓ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาฯ” ในพื้นที่ สน.ดอนเมือง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๕ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “ชักชวน แนะนำบุคคลตามถนนหรือสาธารณสถาน เพื่อการค้าประเวณีฯ” ในพื้นที่ สน.สายไหม มื่อปี พ.ศ.๒๕๖๕ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “จำหน่ายฯหรือครอบครองยาเสพติดฯ” ในพื้นที่ สน.ดอนเมือง
(ผู้ต้องหาที่ ๒) นางสาวมาริสา อายุ 37 ปี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ ๖๖๙/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๐ เดือน มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ต้องหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบียนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
วันนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ดอนเมือง ได้สืบจนทราบว่านางสาวมาริสา เขียวพันธ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ ๖๖๙/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๐ เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2566 ต้องหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบียนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ได้อาศัยอยู่บริเวณซอยสรณคมน์ 16 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงบริเวณบ้านพักไม่ติดเลขที่ ซอยสรณคมน์ 16 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ พบนางสาวมาริสาฯ ยืนอยู่บริเวณบ้านพักไม่ติดเลขที่ ซอยสรณคมน์ 16 จริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงความบริสุทธิ์ใจ จากการสอบถามชื่อ-สกุล นางสาวมาริสา เขียวพันธ์ รับว่าตนมีชื่อและนามสกุลตรงตามหมายจับนี้ จึงได้แสดงหมายจับข้างต้นให้ นางสาวมาริสาฯ ดูและให้อ่านเอง รับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริงและยังไม่เคยถูกจับดำเนินคดีนี้มาก่อน จึงได้แจ้งต่อนางสาวมาริสา เขียวพันธ์ ว่าจะต้องถูกจับ พร้อมได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้นให้นางสาวมาริสาฯ ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้นำผู้ต้องหามาที่ สน.ดอนเมือง จัดทำบันทึกการจับกุมพร้อมได้แจ้งสิทธิให้ทราบอีกครั้ง
จากการสอบถามนางสาวมาริสา เขียวพันธ์ รับว่าได้ตนเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง โดยได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากตนเองทราบว่าเป็นบุคคลที่มีหมายจับและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจึงสลับสับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยไปเรื่อยๆเพื่อป้องกันการติดตามจับกุม จนกระทั่งได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของ นางสาวมาริสา เขียวพันธ์ ไม่พบประวัติอาชญากรรมแต่อย่างใด
(ผู้ต้องหาที่ ๓)นายนรา หรือสาม อายุ 36 ปี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลแขวงดอนเมือง ที่ จ.๗๑/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๕ ต้องหากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์”
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ดอนเมือง ได้ร่วมกันได้ตั้งจุด ว.๔๓ ป้องกันเหตุอาชญากรรมในพื้นที่บริเวณ หน้า ปตท.แยกวัดพุทธสยาม แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ พบรถยนต์โดยสารสารธารณะ (แท็กซี่) ขับเข้ามาบริเวณจุด ว.๔๓ ท่าทางมีพุรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงส่งสัญญาณเรียก นายนรา หรือสาม ศรีเทียนทอง (ทราบชื่อภายหลัง) ซึ่งเป็นคนขับในขณะนั้นให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบและตรวจค้นก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเจ้ากุมทุกนายได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ นายนรา หรือสามฯ ดูจนเป็นที่พอใจและยินยอมให้ตรวจค้นด้วยความสมัครใจประกอบกับบริเวณที่ตรวจค้นมีแสงสว่างจากไฟส่องสว่างภายในจุด ว.๔๓ ซึ่งมองเห็นการตรวจค้นได้อย่างชัดเจนผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงขอดูบัตรประจำตัวประชาชนและตรวจสอบประวัติและหมายจับ ผลการตรวจค้นพบว่า นายนรา หรือสามฯ มีหมายจับศาลแขวงดอนเมือง คดี “ฉ้อโกง” ที่ จ.๗๑/๒๕๖๕
ลงวันที่ 25 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับดังกล่าวให้ นายนรา หรือสามฯ ดูและได้ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับฉบับนี้มาก่อนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งต่อ นายนรา หรือสาม ศรีเทียนทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับว่าจะต้องถูกจับ พร้อมได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น ให้นายนรา หรือสามฯ ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้นำผู้ต้องหามาที่ สน.ดอนเมือง จัดทำบันทึกการจับกุมพร้อมได้แจ้งสิทธิให้ทราบอีกครั้ง
ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของ นายนรา ศรีเทียนทอง ไม่พบประวัติอาชญากรรมแต่อย่างใด
สน.ดอนเมือง ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามการอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างจริงจัง หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดทุกประเภท โปรดแจ้งสน.ดอนเมือง 025661957
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี