13 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชน กับ รถ จยย. ชาวบ้านทีร่วมขบวนแห่นาค ได้ช่วยผู้บาดเจ็บนำตัวมานอนข้างถนนอาการสาหัส บนถนนสาย 333 หน้าวัดวังหิน หมู่ 4 ต.วังหิน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี หลังจากได้รับแจ้ง จึงวิทยุประสานกู้ภัยอุทัยธานี (จุดเมืองการรุ้ง) รีบรุดไปช่วยผู้บาดเจ็บ

หลังจากนั้น ร.ต.อ.จตุพร แก้วการไร่ ร้อยเวร สภ.เมืองการรุ้ง  รีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ในสภาพนอนพลิกตะแคงอยู่กลางถนนพังยับเหยิน  ห่างไป 5 เมตร ข้างถนนพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ในสภาพด้านซุ่มล้อ แก้มกระโปร่ง ประตู ด้านซ้ายยุบ หัก จอดประกบอยู่กับรถยนต์กระบะ โต้โยต้า ในสภาพพังเสียหาย แก้ม ฝากระโปร่งยุบ ซึ่งรถกระบะคันดังกล่าวที่ขับสวนทางมา  

บริเวณหน้าวัดวังหินชาวบ้านที่มาร่วมขบวนแห่นาค ได้ช่วยกันนำผู้บาดเจ็บ มานอนอยู่ริมถนนเพื่อรอกู้ภัย นำตัวส่งโรงพยาบาลทราบชื่อผู้บาดเจ็บนางลำพอง ทองมี อายุ 70 ปี หมู่ 2 ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี โดยมีหลานชายทราบชื่อนายบูม อายุ 14 ปี เป็นขับ จยย.

โดยให้การว่าตนเองได้ขับ จยย.ซ้อนผู้บาดเจ็บมา พอมาถึงทางแยก ตนเองก็มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นมีรถ จึงขับข้ามถนน พอมาถึงกลางถนน ได้มีรถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ชนเข้ากลางคัน จนยายกระเด็นได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

หลังจากนั้น ได้สอบถามเจ้าของรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สิบตำรวจโท ชนะกิจ หะมะยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไร่  ให้การว่า ตนเองพร้อมเพื่อนตำรวจ อีก 2 คน ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ไปยัง ภจ.ว.อุทัยธานี เพื่อไปปฏิบัติหน้า พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งเล็กน้อยหน้าวัดหิน พอรถตนเองหลุกโค้งมาเห็นรถ จยย.คันดังกล่าว จู่ ๆวิ่งข้ามถนนแบบกระทันหัน ตนเองจึงหักหลบซ้ายมาริมถนน และเบรกจนล้อรถยนต์ตาย เสียงดังสนั่น แล้วหมุนไปชน จยย. หลังจากนั้นก็หมุนไปประกบชนรถกระบะที่สวนทางมาดังกล่าว

จากการสอบถามชาวบ้านทีมาร่วมขบวนแห่นาคเข้าวัดวังหิน ว่าทุกคนได้ยินเสียงเบรกรถยนต์คันดังกล่าวสนั่นวัด จึงวิ่งรีบออกมาดูที่หน้าวัด ก็พบว่ารถกระบะไปชนกับ จยย. ช่วยกันรีบนำตัวผู้บาดเจ็บมาปฐมพยาบาลข้างถนนดังหล่าว.012