แม่PRสาวร้านข้าวต้ม เหยื่อแฟนหนุ่มที่ทำร้ายแล้วลากตัวไปกับพื้นบาดเจ็บสาหัสได้รับการประกันตัวแล้ว หวั่นความปลอดภัยร้องยธ.ขอความคุ้มครอง แม่เผยทำกับลูกตนเหมือนหมา ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
วันที่ 19 เมษายน 2566 จากกรณีที่น.ส.นันทิยา อายุ 33 ปี พีอาร์สาวร้านข้าวต้ม จ.พิษณุโลก ถูกแฟนหนุ่มคบหากันประมาณ 5 เดือน ได้ขับรถจักรยานยนต์ไปหา ก่อนจะทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสทั้งตบตีแล้วลากร่างผู้เสียหายไปกับพื้น โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 14 เมษายน ต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าต้องนอนโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 1 เดือน เนื่องจากฟันหัก ปากแตกเย็บปาก หัวแตก หัวเข่าทั้งสองข้างและนิ้วโป้งมีบาดแผลทะลุถึงกระดูก ซึ่งเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมความรุนแรงของแฟนหนุ่มตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข อาคารกระทรวงยุติธรรม นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พานางกิ่งกาญจน์ ผู้เป็นแม่ของพีอาร์สาว เข้าร้องกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอรับการคุ้มครองความปลอดภัยและการเยียวยาต่างๆที่รัฐจะดูแลให้ ทั้งนี้ กัน จอมพลัง ระบุว่าเนื่องจากวันนี้ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัว จึงทำให้แม่กับเพื่อนของน.ส.นันทิยา ห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้บาดเจ็บ และหวาดกลัวว่าจะบุกมาทำร้ายร่างกายผู้เสียหายซ้ำอีกหรือไม่ จึงมาขอชุดคุ้มครองพยาน และเงินเยียวยาต่างๆที่รัฐบาลจะดูแลให้ ขณะที่ด้านผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ส่งสายตรวจไปดูที่บ้าน และติดตู้แดงสายตรวจเพื่อความปลอดภัยแล้ว
นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งเป็นตัวแทนฯมารับเรื่อง กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะเข้ามาดูแลการเยียวยาชดเชยในสิ่งที่ผู้เสียหายจะได้รับในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ค่าฟื้นฟูสภาพจิตใจ และความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ซึ่งเท่าที่ฟังดูได้เงินแน่นอน แต่อาจจะช้า เพราะผู้บาดเจ็บยังรักษาไม่เสร็จสิ้น ที่จะคำนวณจากระยะเวลาที่เข้ารับการรักษา คูณกับค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งหากทุพพลภาพจะจ่ายเป็นเงิน คูณด้วยจำนวน 1 ปี ส่วนเรื่องการดูแลเรื่องความปลอดภัย หากเป็นพยานในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิฯจะดูแลพยานในเรื่องความปลอดภัย รวมไปถึงรับ-ส่งพยานในการเบิกความในชั้นศาล หรือดูแลจนกว่าคดีจะสิ้นสุด อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เป็นคดีครอบครัวทะเลาะกันของสามีภรรยา อาจจะต้องเสนอให้ยุติธรรม จ.พิษณุโลก ดูแลหาทนายความในการให้คำปรึกษาเรื่องการฟ้องหย่า ในฐานะทำร้ายร่างกายเกินกว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันฉันท์สามีภรรยาได้
ด้านนางกิ่งกาญจน์ กล่าวว่า อยากฝากบอกผู้ก่อเหตุว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใคร ทุกคนเป็นลูกมีพ่อมีแม่ และจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด และชีวิตตอนนี้ลำบากขึ้นเพราะแม่ก็หาเช้ากินค่ำเป็นลูกจ้างเทศบาล สัญญาปีต่อปี ลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว เบื้องต้นต้องรักษาประมาณ 2 เดือน แต่จะกลับมาเดินได้เหมือนเดิมหรือไม่หมอยังตอบไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี