ประธานศาลฎีกาตรวจเยี่ยมศาลในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และศาลจังหวัดหลังสวน ย้ำการขับเคลื่อนนโยบายให้สัมฤทธิ์ผลต้องอาศัยการบริหารจัดการที่ดี-การเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้บริหารศาล ชื่นชมศาลในเขตอำนาจสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 บริหารจัดการคดีทิศทางดีขึ้นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ศาลกลุ่มสีเขียว) ถึง 13 ศาล
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เวลา 08.15 น. – 16.45 น. นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ,สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 ,ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และศาลจังหวัดหลังสวน โดยมีศาลจังหวัดเวียงสระ และศาลจังหวัดไชยา เข้าร่วมรับการตรวจเยี่ยม ณ อาคารศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย
นายไตรรัตน์ แก้วศรีนวล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 8, นางสาวนิโลบล หิรัญรัศ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสกลนคร ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นายอำนาจ เพ็งมาก ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลแขวงนครศรีธรรมราช ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงสุราษฎร์ธานี, นายภักดี ราชแป้น ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นายกวี เปรมรัตนชัย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลแขวงดุสิต ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหลังสวน, นายเกรียงศักดิ์ รอดพันธุ์ชู ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเวียงสระ,นายมนูญ จันทร์แก้ว ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดไชยา พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ
โดยประธานศาลฎีกา กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมศาลยุติธรรม ในเขตอำนาจสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 พบว่าการบริหารจัดการคดีมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีศาลที่สามารถบริหารจัดการคดีอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ศาลกลุ่มสีเขียว) จำนวน 13 ศาล ประกอบด้วย ศาลแขวงทุ่งสง ศาลจังหวัดตะกั่วป่า ศาลจังหวัดปากพนัง ศาลจังหวัดเวียงสระ ศาลจังหวัดเกาะสมุย (พิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว) ศาลจังหวัดตะกั่วป่า (พิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว) ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกระบี่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงา ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และยังมีอีกหลายศาลที่มีแนวโน้มจะกลับเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐาน จึงขอให้ทุกศาลมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อพัฒนาระบบงานและยกระดับการบริการประชาชนและให้ผู้พิพากษารักษาสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม โดยดูแลรักษาสุขภาพและหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ประธานศาลฎีกา ยังกล่าวด้วยว่าการที่จะขับเคลื่อนนโยบายประธานศาลฎีกาให้สัมฤทธิ์ผลได้นั้นต้องอาศัยการบริหารจัดการที่ดีและการเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้บริหารศาล การกำกับดูแล และตรวจราชการของสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 จึงมีความสำคัญ
นอกจากเรื่องการบริหารจัดการคดีแล้วการให้บริการประชาชนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ศาลก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ทั้งนี้ประธานศาลฎีกายังมอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรมเร่งพัฒนาระบบการใช้คอมพิวเตอร์แปลงคำพูดพิมพ์เป็นข้อความ (Speech to text) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบพยานและทำคำพิพากษาของศาลต่อไป
ขณะที่การตรวจเยี่ยมศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ประธานศาลฎีกา กล่าวว่า มีคดีรับใหม่ต่อปีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในการบริหารจัดการคดีขอให้พิจารณานำวิธีการไกล่เกลี่ยมาใช้โดยนอกจากผู้ประนีประนอมแล้ว ผู้พิพากษาก็พึงไกล่เกลี่ยในห้องพิจารณาเพื่อให้คู่ความได้รับประโยชน์จากการที่คดีแล้วเสร็จไปโดยรวดเร็ว และยังส่งผลให้ปริมาณคดีที่เข้าสู่การพิจารณาลดลงได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามในกระบวนการไกล่เกลี่ยผู้พิพากษาจะต้องชี้ให้คู่ความเห็นถึงส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้านเพื่อให้แต่ละฝ่ายสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริง นอกจากนี้จะต้องใช้เวลาในการไกล่เกลี่ยอย่างเหมาะสม และไม่เลื่อนคดีโดยไม่จำเป็น ซึ่งประธานศาลฎีกาได้กล่าวให้กำลังใจศาลแขวงสุราษฎร์ธานีที่สามารถบริหารจัดการคดีจนใกล้จะกลับเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานได้ในเวลาอันใกล้ และขอให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อบรรลุผลสำเร็จต่อไป
ในส่วนของการตรวจเยี่ยมศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานศาลฎีกาได้กล่าวชื่นชมที่สามารถบริหารจัดการคดีให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ศาลกลุ่มสีเขียว) อันเป็นการแสดงถึงประสิทธิภาพในการทำงาน ขอให้ใช้ศักยภาพที่มีร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ และแสดงผลงานผ่านทางโครงการจัดประกวดคัดเลือกศาลดีเด่นเพื่อประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ครั้งที่ 2 โดยนอกจากการบริหารจัดการคดีแล้วขอให้มุ่งเน้นการให้บริการประชาชนและดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมควบคู่กันไป เพราะเป็นหนึ่งในเกณฑ์ชี้วัดของโครงการจัดประกวดคัดเลือกศาลดีเด่นดังกล่าวและยังเป็นการนำมาซึ่งภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรศาลยุติธรรมด้วย
ประธานศาลฎีกา ยังกล่าวถึงการถ่ายทอดนโยบาย “รักศาล ร่วมใจ รับใช้ประชาชน”ไปสู่บุคลากรศาลยุติธรรมด้วยว่า จำเป็นที่จะต้องออกตรวจเยี่ยมเพื่อที่จะสามารถสื่อสารทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด และเป็นการลดช่องว่างระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงาน โดยการมาตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดหลังสวนนับว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะเป็นศาลสำคัญที่มีความเก่าแก่และทำหน้าที่ประสิทธิ์ประสาทความยุติธรรมให้แก่ประชาชนในพื้นที่มาเป็นเวลากว่าร้อยปีแล้ว ในการนี้ เพื่อเป็นการธำรงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน ขอให้บุคลากรศาลยุติธรรมทุกคนร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อสังคม ประชาชน และประเทศชาติอย่างเต็มที่ โดยประธานศาลฎีกาได้มอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการแก้ปัญหาเกี่ยวกับบ้านพักและครุภัณฑ์ของศาลจังหวัดหลังสวนต่อไป
ทั้งนี้ ในการตรวจเยี่ยมศาล ประธานศาลฎีกาได้ประชุมมอบนโยบายแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการเจ้าหน้าที่ ตลอดจนคณะผู้พิพากษาสมทบ และผู้ประนีประนอม ซึ่งหลังเสร็จการประชุมประธานศาลฎีกาได้พบปะให้กำลังใจผู้พิพากษา รวมทั้งทักทาย พูดคุย ให้กำลังใจ และรับฟังปัญหาข้อขัดข้องจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามส่วนงานต่าง ๆ และขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยการตรวจเยี่ยมศาลนั้น ประธานศาลฎีกาและคณะ มีกำหนดการที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศาลในพื้นที่จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนองต่อไป ในวันพรุ่งนี้ 27 เมษายน 2566
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี