ตร.-สรรพากรเตือน‘ภัยออนไลน์’รอบ 7 วัน เปิดชื่อ‘เพจปลอม’หลอกขายสินค้า
1 พฤษภาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นาย วินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ร่วมกันแถลงข่าวเตือนภัยอาชญากรรมทางออนไลน์ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (23-29 เม.ย.2566) มีสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุดยังเป็นคดีเดิมๆ 5 อันดับ ได้แก่ 1. คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 2. คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ 3.คดีหลอกลวงให้กู้เงิน 4. คดีข่มขู่ทางทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) และ 5. คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์สำหรับภัยออนไลน์ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นมากในรอบสัปดาห์ มีจำนวน 2 เรื่อง ดังนี้
1. “สรรหาวิธีแอบอ้างสรรพากร หลอกเอาเงิน”
1.1 คดีนี้รูปแบบแรก แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหาผู้เสียหายแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร และกล่าวหาผู้เสียหายว่ามีการกระทำผิด เช่น ติดค้างค่าภาษีจากการก่อตั้งบริษัท หรือถูกแอบอ้างเอาข้อมูลไปใช้เปิดบริษัท หรือมีคดีฟอกเงิน หรือเลี่ยงภาษี แล้วให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อน LINE สถานีตำรวจที่ไกลจากบ้านผู้เสียหาย(LINE ปลอมของคนร้าย) แล้วส่งเอกสารปลอมข่มขู่ให้เชื่อ และหลอกให้โอนเงินอ้างว่าเป็นการตรวจสอบข้อมูล จากนั้นให้เพิ่มเพื่อน LINE กับ ปปง. (LINE ปลอมของคนร้าย) แล้วหลอกให้โอนเงินเพิ่มอีก
1.2 รูปแบบที่ 2 แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหาผู้เสียหาย แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร สามารถช่วยยกเลิกหรือสมัครโครงการต่างๆ ของ รัฐบาล เช่น ธงฟ้า คนละครึ่ง ถุงเงิน บัตรประชารัฐ หรือลดหย่อนภาษี หรือช่วยดำเนินการไม่ให้เสียภาษีย้อนหลัง แล้วให้ผู้เสียหายเข้าเว็บปลอมเพื่อกรอกและเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว จากนั้นให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพื่อเข้าควบคุมเครื่องโทรศัพท์ แล้วโอนเงินของผู้เสียหายออกไป
จุดสังเกตตรวจสอบได้ดังนี้ 1. ชื่อเว็บไซต์กรมสรรพากรปลอม เช่น https://www.rd-go-th.xyz, https://www.rd-go- th.co, https://www.rd-go-th.top และ https://www.rd-go-th.org เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร มีจุดสังเกตหลายจุด 2. หนังสือราชการที่ใช้ข่มขู่ ไม่เป็นไปตามแบบฟอร์มและภาษาของทางราชการ 3. บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ แบบอักษรที่ใช้ ชื่อ ยศ ตำแหน่ง ไม่ถูกต้อง 4.กรมสรรพากร สถานีตำรวจ และ ปปง. ไม่มีช่องทางติดต่อบัญชี LINE ส่วนตัวที่สามารถส่ง สติ๊กเกอร์ โทร วีดีโอคอล หรือดู LINE VOOM ได้
ทั้งนี้วิธีป้องกันจะต้องศึกษาช่องทางการติดต่อกรมสรรพากร ซึ่งมี 2 ช่องทาง คือ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาและ ทางออนไลน์ ผ่านระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร 2. ตรวจสอบชื่อเว็บไซต์ที่ถูกต้องของกรมสรรพากร คือ https://www.rd.go.th ก่อนกระทำการใดๆ 3. สอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161 ส่วน 4. สำหรับการดาวน์โหลดเว็บไซต์ของทางราชการหรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ควรดาวน์โหลดจาก Appstore และ Play Store กรณีมีความจำเป็นต้องกดลิงก์ดาวน์โหลด ควรไปค้นหาใน Appstore และ Play Store เพื่อเป็นการกรองอีกชั้นหนึ่ง
ช่องทางที่ 2. “ซื้อสินค้ามือสอง แต่ได้สินค้ามือเปล่า”
คดีนี้มิจฉาชีพทำการสร้างเพจ หรือ โพสตามเพจต่างๆ เพื่อซื้อขายสินค้ามือสอง (โทรศัพท์,ไอแพด,ไอพอด ฯลฯ) หรือสินค้าทั่วไป โดยใช้รูปโปรไฟล์เป็นผู้หญิงหน้าตาดีหรือสร้างเพจขึ้นมาโดยใช้ชื่ออื่น จนมีผู้ติดตามจำนวนมาก รวมถึงมีหน้าม้ากดเพิ่มเครดิต จนมีความน่าเชื่อถือ หลอกขายสินค้ามือสองหรือสินค้าทั่วไป โดยให้ผู้เสียหายจ่ายเงินมัดจำ หรือ จ่ายเงินก่อน เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้แล้ว จะไม่ส่งสินค้าให้ แล้วบล็อกผู้เสียหายไม่ให้ติดต่อได้
สถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1. โทรศัพท์/Ipad โดยโทรศัพท์ส่วนใหญ่เป็น Iphone โดยหลอกผ่านเพจ Facebook 2. ผลไม้หรือของกิน เช่น อาหารคลีน นมกล่อง โดยหลอกผ่านเพจ Facebook 3.เสื้อผ้า ของแบรนด์เนม โดยหลอกผ่านเพจ Facebook/IG 4.เกมส์ (จ้างอัพเลเวล หรือซื้อเกมส์) โดยหลอกผ่านเพจ Facebook/IG และ 5.บัตรงาน บัตรคอนเสิร์ต โดยหลอกผ่าน Twitter/IG ความเสียหายจากการหลอกขายสินค้าและบริการ ตั้งแต่ 1 มี.ค.65 ถึง 29 เม.ย.66 จำนวน 89,577 เคส ความเสียหาย 1,308,527,198 บาท
ส่วนเพจปลอมที่หลอกขายสินค้า ได้แก่ Smart Shop, พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์,แซลมอน สายพันธุ์นอร์เวย์เจียน, Wholesale sashimi ส่งทั่วประเทศไทย และทุเรียนเขยจันทร์จากสวนคุณชาคริต ปลีก – ส่ง เป็นต้น จุดสังเกต 1.ถ้าเป็นเพจทางการ(Official) จะมี “เครื่องหมาย”ถูกแสดงให้เห็น 2. ดูว่ามีคนกดไลค์โพส จำนวนเท่าใด และมีการกดอิโมชันด้านลบ และปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นหรือไม่ 3. ดูความโปร่งใสว่า ประวัติเพจเปิดมานานหรือไม่ เปลี่ยนชื่อบ่อยและสอดคล้องกับสินค้าที่โพสขายหรือไม่ คนจัดการเพจอยู่ประเทศใด สอดคล้องกับเพจหรือไม่ และควรนำชื่อเพจไปค้นหาในเพจ Facebook เปรียบเทียบของจริง และสร้างจำนวนผู้ติดตามหรือคนถูกใจในข้อมูลเพิ่มเติม(เกี่ยวกับ) ให้เข้าใจผิดว่ามีจำนวนมาก
วิธีป้องกัน 1.ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเพจ โดยดูจากจุดสังเกต 2. ควรทำการเช็คเครดิตการซื้อขายก่อน เช่น โพสถามหาเครดิต หรือตรวจสอบ ประวัติเบื้องต้น จาก www.blacklistseller.com ว่ามีประวัติหรือไม่ 3.กรณีโพสถามหาเครดิตแล้วมีคนมาตอบ ก็ควรเช็คให้ละเอียดอีกทีว่า บุคคลที่มาให้เครดิตนั้นมีตัวตนจริงๆไหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน
“ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนพิจารณาดูจุดสังเกตของความแตกต่าง ระหว่างเว็บไซต์หรือเพจของจริงกับของปลอม และศึกษาวิธีป้องกันมิให้ตกเป็นเหยื่อของภัยออนไลน์ เพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ และสามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้จาก เว็บไซต์ และเพจ เตือนภัยออนไลน์ หรือโทรสายด่วน 1441 หากพบการกระทำผิด แจ้งความได้ที่ www.thaipoliceonline.com ด้วยความปรารถนาดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT)”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี