เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พีระพล นันทสังข์ ร้อยเวร สภ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ชุดสืบสวน สภ.บ้านไร่ พร้อมนายแพทย์นราชัย โพธิ์มี แพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านไร่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมใจอุทัยธานี กู้ชีพกู้ภัยบ้านไร่ ได้นิมนตร์พระวัดบ้านใต้ จำนวน 4 องค์ไปร่วมตัวกันที่จุดพิทักษ์ป่าห้วยแม่ดี หมู่ 1 บ้านใต้ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี หลังจากเมื่อวันที่ 4 พ.ค.66 ได้มีพระธุงค์ ชื่อ พระนิมิต เดินมาจากป่าเข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยมดแดง ที่บฏิบัติหน้าที่อยู่ว่ามีพระธุดงค์เพื่อนกันถูกควายป่าขวิดบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ริมห้วยมดแดง หลังจากได้รับแจ้งจึงวิทยุไปยังศูนย์วิทยุห้วยขาแข้งเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปตรวจสอบยังจุดที่เกิดเหตุ โดยพระนิมิต พาไป

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าด่านทางขึ้นห้วยแม่ดี เจ้าหน้าที่วิทยุห้วยแม่ดีได้รับแจ้งจากนายสันต์ภพ อัศวปภาพงศ์ หรือ ฟืด ผู้ช่วยหัวหน้าเขตห้วยขาแข้ง อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ให้เจ้าที่ทุกนายขึ้นไปยังจุดเกิดเหตุได้โดยใช้รถยนต์โฟต์วิลของเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ 1 คันและรถยนต์นำพระ 4 รูปขึ้นไปที่เกิดเหตุเพื่อประกอบพิธีสวดบังสุกุลให้กับผู้ตายเพื่อนำร่างพระลงมาจากยอดเขากลางป่าห้วยขาแข้ง

โดยเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุจากหน่วยห้วยมดแดง ระยะทาง 34 กิโลเมตร หลังจากนั้นได้เดินเท้าไปอีก 6 กิโลเมตร จนพบศพพระยีน ซึ่งเป็นพระลูกวัดจรรย์ ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ในสภาพศพนอนขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวนไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตามลำตัวผู้ตายพบบาดแผลที่หนังศีรษะเปิด หน้าอกถูกแทงและบาดแผลที่ขาขวาหนังเปิดจนเห็นกระดูก ตรวจสอบรอบที่เกิดเหตุ พบรอยเท้าควายป่าเป็นจำนวนมากหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพผู้ตาย โดยเจ้าหน้าที่ กู้ภัย อนุรักษ์ ตำรวจ ช่วยกันห้ามมาขึ้นรถระยะทาง 6 กิโลเมตรเพื่อนำศพผู้ตายลงมาถึงที่หน่วยห้วยแม่ดีเวลา 01.00 น.ของวันที่ 6 พ.ค.66 นี้

จากสอบถามพระนิมิต ผู้รอดตายให้การว่า ตนพร้อมพระผู้ตายได้เดินทางมาจากวัดจรรย์ ต.ศรีประจันต์ เข้ามาทางน้ำเอ่อแถบ จ.กาญจนบุรี เข้ามาเดินธุดงค์ในป่าห้วยขาแข้งเพื่อปลีกวิเวิก หลังจากนั้นได้มาปลักกลดกันที่อยู่หลังหน่วยห้วยมดแดงห่างกัน 2 กิโลเมตร หลังจากนั้นช่วงของวันที่ 3 พ.ค.66 ตนพร้อมกับพระผู้ตายได้เดินดูเส้นทางตามลำคลองห้วยมดแดง โดยมีพระผู้ตายเดินนำหน้า ในระหว่างที่เดินมาพบควายป่าเปลี่ยวตัวเดี่ยวนอนแช่น้ำอยู่ หลังจากนั้นควายป่าได้ตกใจลุกขึ้นมาวิ่งขวิดพระผู้ตายจนร่างกระเด็น ส่วนตนวิ่งหนีไปอีกทางหนึ่งจนพักใหญ่ ตนได้แอบไปดูตรงจุดเกิดเหตุ พบพระผู้ตายหายใจรวยรินจึงตัดสินใจออกมาจากจุดเกิดเหตุ เพื่อแจ้งให้เข้าไปช่วย แต่ตนได้เดินหลงป่าอยู่หนึ่งคืนจึงมาพบกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ในวันที่ 4 พ.ค.66 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าพระผู้ตายนอนเสียไปแล้ว - 003